svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ส.อ.ท. มองนโยบายทรัมป์ 2.0 กดดันเศรษฐกิจโลก กระทบ 6 ด้าน

ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จับตานโยบายทรัมป์ชี้ชะตาสงคราม “รัสเซีย-ยูเครน” ลดความกังวลราคาน้ำมันตลาดโลกผันผวน

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) บรรยายพิเศษในหัวข้อ “สถานการณ์โลกเรื่องพลังงาน หลังเลือกตั้ง USA” ว่า นโยบายโดนัลด์ ทรัมป์ 2.0 หากมองนโยบายสหรัฐ สิ่งที่เป็นนโยบายเดียวกันคือ make America great again กดดันเศรษฐกิจโลก จะส่งผลให้กระทบ 6 ด้าน คือ 1. ความผันผวนเศรษฐกิจสูงจากความไม่แน่นอนในการทำงานนโยบายเศรษฐกิจและการต่างประเทศ 2. เร่งให้เกิดการแบ่งขั้วทางเศรษฐกิจ ทำให้การค้าโลกรอตัวและเกิดการย้ายฐานการผลิตจากนโยบาย America first

3. เกิดการแบ่งขั้วทางเทคโนโลยีและการค้าจากการกลับมาของ Trade war and Tech war ระลอกใหม่ที่รุนแรงกว่าเดิม 4. ต้นทุนสินค้าส่งออกเพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสหรัฐและสินค้าจีนทะลักเข้ามาแข่งขันในตลาดอื่นๆ มากขึ้น 5. มาตรการติดกันทางการค้าที่เข้มงวดขึ้นกับประเทศที่ได้ดุลการค้าจากสหรัฐรวมทั้งอาจถูกกล่าวหาเป็นฐานการผลิตของจีนและ 6. การแก้ไขปัญหาโลกร้อนชะลอออกไปเป้าหมาย Net Zero ช้ากว่าที่กำหนดและอาจกลับไปสู่ยุคการแข่งขันด้านต้นทุน

ส.อ.ท. มองนโยบายทรัมป์ 2.0 กดดันเศรษฐกิจโลก กระทบ 6 ด้าน

“เมื่อทรัมป์มาเกิดความผันผวนเรื่องค่าเงินเป็นอย่างมาก รวมถึงการหาเสียงเรื่องภาษีนำเข้าแต่ยกเว้นจริง 60 - 100% ซึ่งจีนย้ายฐานผลิตรถ EV ที่เม็กซิโกจะขึ้นอีก 200% จึงเป็นที่มาจากนี้ไปการแบ่งขั้วสงครามการค้าจะดุเดือดและรุนแรงขึ้นส่วนเทคโนโลยีก็เช่นกัน เพราะโดนจีนแย่งเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาดทั้งเรื่องโซลาร์ และยานยนต์ไฟฟ้า (EV)”

อย่างไรก็ตาม จากภูมิรัฐศาสตร์จีนกับสหรัฐ เกิดการย้ายฐานห่วงโซ่อุปทานเพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมเป้าหมายมาในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งรวมถึงไทย แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดและช่วยให้ไทยได้โอกาสคือการขาดดุลการค้ากับจีนเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นทุกปีโดยปีที่แล้วสูงระดับ 1.4 ล้านล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 1.5 ล้านล้านบาท และเมื่อเทียบดูแล้วเวียดนามจะได้ประโยชน์สูงสุดช่วง 3 ปีเวียดนาม ทำตัวเลขส่งไปสหรัฐเพิ่มขึ้นทุกปี รองลงมา คือ อินโดนีเซีย แม้ไทยจะส่งออกให้สหรัฐ เพิ่มขึ้นแต่ก็นำเข้าจากจีนเยอะขึ้นเช่นกัน

 

สำหรับผลกระทบนโยบายทำทรัมป์ 2.0 ด้านพลังงาน คือ 1.เพิ่มการผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิล น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน จะทำให้ต้นทุนต่ำลงที่ประมาณ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 2. ถอนตัวออกจากข้อตกลงปารีสปี 2015 ที่เคยสัญญาไว้ 

3.ชะลอการดำเนินงานสำหรับการลงทุนด้านพลังงานสะอาด 4. ส่งเสริมเทคโนโลยีนิวเคลียร์ขนาดเล็ก SMR และโซลาร์แต่ลดการให้เงินอุดหนุนหรือการให้เครดิตภาษีการลงทุนในส่วนของพลังงานลมไฮโดรเจนและ CCS เป็นต้น และ 5. เจรจาให้ยุติสงครามรัสเซียยูเครน ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่คาดเดาได้ยาก และจะส่งผลต่อราคาน้ำมันโลก