นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเข้าซื้อหุ้น เอสโซ่ ในสัดส่วน 65.99% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของจาก เอ็กซอนโมบิล ด้วยมูลค่ากิจการ 55,500 ล้านบาท
นับเป็นก้าวสำคัญ สู่ความมั่นคงทางพลังงานที่มากขึ้นของบางจากฯ เป็นการลงทุนที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ที่เพิ่มความยั่งยืน และ เพิ่มการเข้าถึงพลังงานได้ง่ายขึ้น ในราคาที่สมเหตุสมผล แม้กระแสของรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV กำลังมาแรง แต่มองว่ากว่า 90% ของผู้ใช้รถยังคงเป็นน้ำมัน
โดยจากแผนการซื้อครั้งนี้ จะทำให้บางจากฯ มีโรงกลั่นน้ำมันที่ 2 ที่ใช้งานได้ทันที โดยไม่ต้องสร้างใหม่ ทำให้ลดต้นทุนและมีรายได้ต่างๆ เพิ่มขึ้นระดับ 1,500-2,000 ล้านบาททันที ซึ่งบางจากฯ จะมีกำลังการกลั่นน้ำมันรวมเพิ่มเป็น 294,000 บาร์เรลต่อวัน
รวมทั้งได้เครือข่ายสถานีบริการเพิ่มขึ้น อีก 700 สถานี เพิ่มยอดการใช้บริการ โดยเฉพาะในต่างจังหวัดได้มากขึ้น ซึ่งจะทำการเปลี่ยนเป็นชื่อสถานีบางจากได้ภายใน 2ปี ส่งผลให้บางจากฯมีสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศ 2,100 สถานี สำหรับผลิตภัณฑ์อื่นๆ อาทิ น้ำมันเครื่อง เคมีภัณฑ์ต่าง ๆ จะยังคงใช้แบรนด์เอ็กซอนโมบิลตามเดิม
ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถดำเนินการซื้อขาย และ ชำระเงินค่าหุ้นแก่ผู้ขาย ได้ภายในครึ่งหลังของปี 2566 โดยต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขบังคับก่อนที่กำหนด และ เตรียมพร้อมทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมด (tender offer) ของเอสโซ่ หลังจากการทำธุรกรรมกับเอ็กซอน โมบิล เสร็จสิ้น และจะเริ่มทยอยเปลี่ยนชื่อปั๊มเป็นบางจาก ซึ่งช่วงแรกเอสโซ่ก็จะทำหน้าที่จัดหาน้ำมันดิบให้บางจากฯ ด้วย