รวม 5 รุ่นรถยนต์ไฟฟ้าราคาหลักแสนในงาน MOTOR EXPO 2023

 

รวมยานยนต์ครบวงจรเปิดฉากยิ่งใหญ่ตื่นตาตื่นใจกับรถต้นแบบ รถรุ่นล่าสุด 40 แบรนด์ จักรยานยนต์ 23แบรนด์ พร้อมเรือ และอากศยาน เรียกว่า ภายใน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40 MOTOR EXPO 2023 โดยงานจัดขึ้นที่อาคารชาลเลนเจอร์ IMPACT เมืองทองธานี เชิญชมงานได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 11ธันวาคม 2566 แต่สิ่งที่น่าสนใจและปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้ว่า รถพลังงานไฟฟ้า หรือ EV กำลังมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคาที่ถูกว่ารถยนต์สันดาป การประหยัดเชื้อเพลิงพลังงาน  ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ทำให้ในปีนี้มีผู้นำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า มากเพิ่มขึ้นทั้งมีรุ่นใหม่ มีแบรนด์ใหม่อีกหลากหลายแบรนด์ ทำให้ผู้บริโภคได้มีทางเลือกกันมากขึ้น ซึ่งจริงๆแล้วปัจจัยหลักในการเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้า นอกจากสมรรถนะ นั่นก็คือราคา ใครที่กำลังต้องการซื้อรถไฟฟ้าราคาไม่แรง เนชั่นออนไลน์มัดรวมรถไฟฟ้า 5 รุ่นจากแบรนด์ที่มาร่วมจัดแสดงในงาน MOTOR EXPO 2023  เอามาไว้ให้แล้ว

 

 

 

 

1-Pocco

รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก Pocco (พอคโค)  EV 100 % จากประเทศจีน ที่บริษัท BRG (ผู้จัดจำหน่ายรถนำเข้าชั้นนำ) นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ นับเป็นนวัตกรรมใหม่แห่งอนาคต ที่มาพร้อมรูปลักษณ์ที่ทันสมัย น่ารัก และมีเสน่ห์ มีขนาดที่เล็กกะทัดรัด เหมาะสำหรับการใช้งานในเมือง และในชีวิตประจำวันของคนรุ่นใหม่ การจำหน่าย จะแบ่งออกเป็น 2 รุ่น คือ Pocco รุ่น MM เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบ 3 ประตู และ Pocco รุ่น DD เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบ 5 ประตู โดยทั้ง 2 รุ่น จะมีให้เลือกทั้งหมด 2 สเปค ได้แก่

 

Pocco รุ่น MM YX ราคา 399,000 บาท
- แบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ความจุอยู่ที่ 9.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง
- ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 116 กม.
- สามารถชาร์จด้วยไฟบ้าน จาก 0-100 % ใน เวลา 6-8 ชั่วโมง

 

Pocco รุ่น DD L ราคา 389,000 บาท
- แบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ความจุอยู่ที่ 10.3 กิโลวัตต์ชั่วโมง
- ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 128 กม.
- สามารถชาร์จด้วยไฟบ้าน จาก 0-100 % ใน เวลา 6-8 ชั่วโมง

 

รถยนต์ไฟฟ้า Pocco ทั้ง 2 รุ่น มีความโดดเด่นด้วยการดีไซจ์นที่ทันสมัย และระบบเทคโนโลยีอัจฉริยะ มัลทิฟังค์ชันที่ถูกพัฒนาให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่เน้นในเรื่องของความคุ้มค่า แถมเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังเต็มเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะที่คุ้มราคา

 

2-Wuling Mini EV 

 

 

รถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ขนาดเล็ก Wuling Hongguang Mini EV รถไฟฟ้ารุ่นแรกภายใต้แบรนด์ Wuling ในประเทศจีนแถมขายดีจนขึ้นแท่นรถไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในจีน ราคาจำหน่ายในประเทศไทย Wuling Hongguang MINI EV ราคา 369,000 บาท รุ่น Standard Range มอเตอร์ไฟฟ้า พละกำลัง 41 แรงม้า แบทเตอรี LFP ขนาด 17.3 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระยะทางวิ่งสูงสุด 200 กม. ขับเคลื่อนล้อหลัง รองรับการชาร์จ AC สูงสุด 2.0 กิโลวัตต์ ใช้เวลาประมาณ 8.5 ชม. ความเร็วสูงสุด 106 กม./ชม. รุ่น Long Range แบทเตอรี LFP ขนาด 26.7 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระยะทางวิ่งสูงสุด 300 กม. รองรับการชาร์จ AC สูงสุด 6.6 กิโลวัตต์ ใช้เวลาประมาณ 4 ชม. 

 

 

3.BYD Dolphin

 

 

อีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับใครที่กำลังหารถไฟฟ้าราคาย่อมเยาว์กับ BYD Dolphin รถไฟฟ้า100%  แบบ 5 ประตูทรงแฮทช์แบคที่มากับ 2 รุ่นย่อย ประกอบด้วย Extended Range หรือ Extended และ Standard Range หรือ Standard  โดยจุดที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนของรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 2 รุ่นคือเรื่องมอเตอร์ และแบตเตอรี่ และราคา

 

รุ่น- Extended Range มอเตอร์ 204 แรงม้า แบต 60.5 kWh วิ่งไกล 490 km. ชาร์จ DC 80 kW  ราคา   859,999  บาท  สีตัวรถแบบทูโทน Two-tone มีให้เลือก 4 คู่สี คือ เทา, ชมพู/ดำ, ฟ้า/เทา และขาว  มากับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 60.48 kWh ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchonous Motor พละกำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ BYD Blade Battery (LFP) ขนาด 60.5 kWh ขับเคลื่อนล้อหน้า Front-Wheel Drive

 

รุ่น- Standard Range  มอเตอร์ 95 แรงม้า แบต 44.9 kWh วิ่งไกล 410 km. ชาร์จ DC 60 kW ราคา    699,999 บาท  มีให้เลือก 4 สี ประกอบด้วย ม่วง, ชมพู, เทา และครีม  แบตเตอรี่ขนาด 44.9 kWh ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchonous Motor พละกำลังสูงสุด 95 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 180 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ BYD Blade Battery (LFP) ขนาด 44.9 kWh ขับเคลื่อนล้อหน้า Front-Wheel Drive

 

 

 

 

​4.Neta V 

 

 

​Neta V รถไฟฟ้าสไตล์แฮทช์แบค เปิดตัวด้วยราคาน่าสนใจที่ 549,000 บาท (จากส่วนลดพิเศษจากภาครัฐ โดยมีราคาเต็มๆ ที่ 760,000 บาท)  มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 95 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 15.3 กก.-ม. แบทเตอรีความจุ 38.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง (รองรับการชาร์จทั้งแบบ AC และ DC) ระยะทำการสูงสุดที่ 380 กม. (มาตรฐาน NEDC) นอกจากนี้ยังมีระบบ V2L : Vehicle To Load จ่ายไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ภายนอกได้ รองรับสูงสุด 3,300 วัตต์

NETA V 2023 มีการปรับสเปกแบตเตอรี่ใหม่ จากเดิมใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนชนิด NMC ขนาดความจุ 38.5 kWh เปลี่ยนมาเป็นแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนชนิด LFP และเพิ่มขนาดความจุใหม่เป็น 40.7 kWh ระยะทางในการขับขี่ 384 กม.ต่อชาร์จหนึ่งครั้ง (มาตรฐาน NEDC) มอเตอร์ให้ดำลัง 95 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-50 กม./ชม. ใน 3.9 วินาทีความเร็วสูงสุด 124 กม./ชม. ขับเคลื่อนล้อหน้า

 

การชาร์จไฟ

• หัวชาร์จ Type 2 / CCS Combo
• กระแสสลับ AC รองรับสูงสุด 6.6 kW ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง
• กระแสตรง DC Fast Charging รองรับสูงสุด 45 kW จาก 30-80% ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
• ระบบ V2L (Vehicle to Load) จ่ายไฟจากรถให้อุปกรณ์ภายนอก สูงสุด 3.3 kW

 

สีตัวถังภายนอก มีให้เลือก 5 สี

• สีน้ำเงิน Sky Blue
• สีฟ้า Porcelain Blue
• สีขาว Silver Cloud White
• สีเทา Clear Sky Grey
• สีชมพู Sakura Pink

 

 

 

 

5- MG4

 

 

MG4 หรือชื่อเต็ม NEW MG4 ELECTRIC ครั้งแรกของระบบขับเคลื่อนล้อหลังในรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100%  นวัตกรรมเพื่อรถยนต์พลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะ ที่พัฒนาให้แบตเตอรี่ติดตั้งเป็นชิ้นเดียวกับโครงสร้างตัวรถใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่ให้สมรรถนะสูง และระบบช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ แบบ 5-LINK SUSPENSION แบ่งเป็น 2 รุ่นย่อย  มาในสไตล์รถยนต์ 5 ประตู Hatchback

MG4 Electric D ราคา 869,000 บาท
MG4 Electric X ราคา 969,000 บาท

 

ระบบขับเคลื่อน MG4 Electric

• มอเตอร์ไฟฟ้า : Permanent Magnet Synchronous Motor
• กำลังสูงสุด : 170 แรงม้า
• แรงบิดสูงสุด : 250 นิวตัน-เมตร
• ประเภทแบตเตอรี่ : Lithium Iron Phosphate
• ความจุแบตเตอรี่ : 51 kWh
• ระยะทางขับขี่ (NEDC) : 425 กิโลเมตร