svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ยานยนต์

มีเพียง 300 คัน "Koenigsegg Gemera" ไฮเปอร์คาร์ สี่ที่นั่งคันแรกของโลก

29 มีนาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

มีเพียง 300 คันบนโลกนับว่าหาหาชมยากสุดๆ ส่งตรงจากสวีเดนสู่กรุงเทพฯอีกครั้ง กับการเผยโฉมที่สุดแห่งนวัตกรรมไฮเปอร์คาร์ อย่าง Koenigsegg Gemera Mega-GT สี่ที่นั่งคันแรกของโลก สนนราคาอยู่ที่ 3.298 ล้านยูโร

หลังจากที่เปิดบ้านในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในปี 2563 พร้อมร่วมเฉลิมฉลองกับอีกก้าวประวัติศาสตร์ของ เจเนอร์รัล ออโต้ ซัพพลาย (ในเครือชาริช โฮลดิ้ง) เมื่อ Koenigsegg Automotive AB (เคอนิกเส็กก์ ออโตโมทีฟ เอบี) ประกาศแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายไฮเปอร์คาร์ เคอนิกเส็กก์ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย

 

มีเพียง 300 คัน  "Koenigsegg Gemera" ไฮเปอร์คาร์ สี่ที่นั่งคันแรกของโลก

 

และในปีนี้ได้เตรียมไฮไลท์ที่หาชมยาก! ส่งตรงจากสวีเดนสู่กรุงเทพมหานครอีกครั้ง กับการเผยโฉมที่สุดแห่งนวัตกรรมไฮเปอร์คาร์ อย่าง Koenigsegg Gemera Mega-GT สี่ที่นั่งคันแรกของโลก (The World’s First Mega-GT and Koenigsegg’s First For Four) ณ โชว์รูม Koenigsegg Bangkok เมื่อเร็วๆ นี้

 

มีเพียง 300 คัน  "Koenigsegg Gemera" ไฮเปอร์คาร์ สี่ที่นั่งคันแรกของโลก

 

 

“Koenigsegg” (เคอนิกเส็กก์) สุดยอดแบรนด์รถไฮเปอร์คาร์สมรรถนะสูงสัญชาติสวีเดน ร่วมกับ บริษัท เจเนอร์รัล ออโต้ ซัพพลาย จำกัด (ในเครือชาริช โฮลดิ้ง) นำโดย อภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการ และ ศักดิ์ นานา กรรมการ จัดงาน “The Koenigsegg Gemera Private Viewing” การเผยโฉมที่สุดแห่งนวัตกรรมไฮเปอร์คาร์ สี่ที่นั่งคันแรกของโลก

 

อภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการ และ ศักดิ์ นานา กรรมการ จัดงาน “The Koenigsegg Gemera Private Viewing”

 

“Koenigsegg” ก่อตั้งขึ้นในปี 1994 จากปณิธานอันแน่วแน่ของเด็กหนุ่มวัย 22 ปี ที่ต้องการสร้างรถยนต์ที่สมบูรณ์แบบโดยไร้ขีดจำกัด อย่าง Christian von Koenigsegg (มร.คริสเตียน ฟอน เคอนิกเส็กก์) ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Koenigsegg Automotive AB    โดยทุกรายละเอียดองค์ประกอบของรถจะต้องทำงานร่วมกันอย่างลงตัวเพื่อประสิทธิภาพการขับขี่สูงสุด (Ultimate performance)

 

 มร.คริสเตียน ฟอน เคอนิกเส็กก์) ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Koenigsegg Automotive AB ภาพจาก forbes

 

ทุกขั้นตอนตั้งแต่การผลิตโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ ไปจนถึงการตกแต่งภายในของ “Koenigsegg” ถูกสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันด้วยมือ รถทุกคันจึงเปรียบดั่งงานศิลป์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ สร้างขึ้นตามมาตรฐานสูงสุดของแบรนด์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกรายละเอียด ขณะที่ความล้ำสมัยทางนวัตกรรมก็เป็นที่ขึ้นชื่อ โดยช่วงหลายปีที่ผ่านมาแบรนด์เดินหน้าเปิดตัวและจดสิทธิบัตรเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมาย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะได้เห็นการทำลายสถิติโลกอย่างต่อเนื่องในรถหลากหลายรุ่น

 

 

Koenigsegg Gemera (เคอนิกเส็กก์ เกเมร่า) Mega-GT สี่ที่นั่งคันแรกของโลก (The World’s First Mega-GT and Koenigsegg’s First Four Four) ถูกออกแบบมาตอบโจทย์ทุกการใช้งานอย่างแท้จริง ด้วยที่นั่งที่สามารถรองรับสรีระของผู้ใหญ่ได้ถึง 4 ที่นั่งและยังสามารถเก็บกระเป๋าสัมภาระได้ถึง 4 ใบ

 

 

ทั้งยังมาพร้อมที่วางแก้วถึง 8 จุด จอแสดงผลข้อมูลต่างๆทั้งด้านหน้าและด้านหลัง จุดชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย ระบบ Apple CarPlay ลำโพง 11 จุด และระบบเบาะปรับด้วยไฟฟ้าซึ่งช่วยให้ทุกการเดินทางเป็นไปได้อย่างสะดวกสบาย หัวใจหลักของ Gemera คือเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ เทอร์โบคู่ ขนาด 2.0 ลิตร ที่มีชื่อเรียกว่า “Tiny Friendly Giant (TFG)” มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 3 มอเตอร์ มอบพละกำลังสูงสุด 1,700 แรงม้าและแรงบิดสูงสุดที่ 3,500 นิวตันเมตร ช่วยให้ Gemera ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 1.9 วินาทีเท่านั้น

 

มีเพียง 300 คัน  "Koenigsegg Gemera" ไฮเปอร์คาร์ สี่ที่นั่งคันแรกของโลก

 

ด้านเทคโนโลยีช่วยเหลือในการขับขี่ของ Gemera นั้นได้ติดตั้งทั้งระบบเลี้ยวล้อหลังและระบบกระจายแรงบิดเพื่อมอบการควบคุมที่ฉับไวและมั่นใจยิ่งขึ้นเพื่อให้ผู้ขับขี่พร้อมเผชิญทุกสภาพถนน นอกจากสมรรถนะเครื่องยนต์ที่เร้าใจแล้ว Koenigsegg Gemera ยังสามารถขับเคลื่อนได้ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวด้วยความเร็วสูงสุดถึง 300 กม./ชม. และมีพิสัยเดินทางสูงสุด 50 กม. เมื่อต้องการเดินทางโดยปราศจากมลพิษหรือสามารถขับเคลื่อนในรูปแบบไฮบริด

 

มีเพียง 300 คัน  "Koenigsegg Gemera" ไฮเปอร์คาร์ สี่ที่นั่งคันแรกของโลก

 

โดย Gemera ถูกออกแบบมาให้รองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E85 ได้หากต้องใช้เครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนเพื่อเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสูงสุดและมีพิสัยเดินทางไกลสุดถึง 950 กม. Gemera นั้นถูกออกแบบด้วยแนวคิดการใช้งานที่ครอบคลุมทั้งการใช้ในเมืองด้วยความเร็วต่ำและขับขี่บนทางหลวงด้วยความเร็วสูง

 

มีเพียง 300 คัน  "Koenigsegg Gemera" ไฮเปอร์คาร์ สี่ที่นั่งคันแรกของโลก

 

ด้วยระบบความปลอดภัยตั้งแต่โครงสร้างตัวถังแบบ Carbon Fiber Monocoque ถุงลมนิรภัย 6 ใบ ระบบช่วยเหลือการทรงตัว ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ระบบเบรก ABS และระบบช่วยเหลือการขับขี่ ADAS 2.5 ยิ่งไปกว่านั้นยังมีจุดยึด ISOFIX สำหรับเบาะหลังทั้ง 2 ที่นั่งอีกด้วย ดีไซน์ภายนอกของ Gemera ได้รับการออกแบบประตูใหม่ที่เรียกว่า “Koenigsegg Automated Twisted Synchrohelix Actuation Doors (KATSAD)” ซึ่งสามารถเปิดได้กว้างพอที่ผู้โดยสารด้านหน้าและด้านหลังสามารถเข้ารถไปได้พร้อมกันเลยในเวลาเดียวกัน

 

มีเพียง 300 คัน  "Koenigsegg Gemera" ไฮเปอร์คาร์ สี่ที่นั่งคันแรกของโลก

 

ทั้งยังคงรูปลักษณ์แบบรถสปอร์ต 2 ประตู บริเวณด้านบนประตูนั้นติดตั้งกล้องที่แสดงภาพของรถด้านหลังซึ่งเป็นครั้งแรกของ Koenigsegg ที่นำมาใช้บนรถแทนกระจกมองข้างทั่วไป ล้อขนาด 20 และ 21 นิ้วของ Gemera ผลิตจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ล้วน ซึ่งมีน้ำหนักไม่ถึง 9 กิโลกรัมต่อล้อ ด้านท้ายของ Gemera ติดตั้งท่อไอเสียจาก Akrapovic ที่เพิ่มความดุดันทั้งด้านรูปลักษณ์และซุ้มเสียงของเครื่องยนต์ที่คำรามพร้อมจะเคลื่อนที่ไปข้างหน้า

 

มีเพียง 300 คัน  "Koenigsegg Gemera" ไฮเปอร์คาร์ สี่ที่นั่งคันแรกของโลก

 

ภายในของ Gemera อำนวยความสะดวกสบายด้วยเบาะปรับไฟฟ้าแบบ 4 ทิศทางในด้านหน้าแลถูกเสริมด้วยเมมโมรี่โฟมเพื่อรองรับสรีระผู้โดยสารให้สบายยิ่งขึ้นทั้ง 4 ที่นั่ง ผู้โดยสารทั้ง 4 ที่นั่งสามารถควบคุมระบบเครื่องเสียงความบันเทิงและระบบปรับอากาศได้ด้วยตัวเองพร้อมทั้งยังมีช่องเก็บสัมภาระของแต่ล่ะที่นั่งเพื่อเป็นสัดส่วนอีกด้วย สำหรับ Gemera นี้ มีเพียงแค่ 300 คันทั่วโลกเท่านั้น สนนราคาอยู่ที่ 3.298 ล้านยูโร

 

มีเพียง 300 คัน  "Koenigsegg Gemera" ไฮเปอร์คาร์ สี่ที่นั่งคันแรกของโลก

 

มีเพียง 300 คัน  "Koenigsegg Gemera" ไฮเปอร์คาร์ สี่ที่นั่งคันแรกของโลก

 

มีเพียง 300 คัน  "Koenigsegg Gemera" ไฮเปอร์คาร์ สี่ที่นั่งคันแรกของโลก

 

มีเพียง 300 คัน  "Koenigsegg Gemera" ไฮเปอร์คาร์ สี่ที่นั่งคันแรกของโลก

 

logoline