นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า จากรายงานสถิติการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยตลอดทั้งปี 66 ของกรมการท่องเที่ยว (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2566) มีกองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศจำนวน 466 เรื่อง จาก 40 ประเทศทั่วโลก เลือกโลเคชั่นไทยในการถ่าย สร้างรายได้เข้าสู่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศในภาพรวมกว่า 6,602 ล้านบาท ถือเป็นสถิติจำนวนรายได้สูงสุดนับตั้งแต่มีการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย
ทั้งนี้ปัจจัยส่วนหนึ่งที่ทำให้สถิติรายได้เติบโตจากปีก่อนหน้าเป็นเพราะมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยในรูปแบบการคืนเงินสูงสุด 20% สำหรับกองถ่ายภาพยนตร์ที่มีค่าใช้จ่ายในประเทศไทยตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งเป็นแรงจูงใจให้กองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศตัดสินใจเข้ามาลุงทุนถ่ายทำในประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม นอกจากมาตรการส่งเสริมแรงจูงใจแล้ว คณะถ่ายทำต่างประเทศที่เข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เป็นสิ่งตอกย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นโลเคชันถ่ายทำภาพยนตร์ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้สร้างหนังได้เป็นอย่างดี ซึ่งสามารถกระจายรายได้ไปสู่ภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ทั้งในอุตสาห กรรมภาพยนตร์ เกิดการจ้างงานทีมงานไทย การเช่าสถานที่และอุปกรณ์การถ่ายทำ หรือในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง เช่น โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร สินค้าท้องถิ่น เป็นต้น
รวมถึงการประชาสัมพันธ์ซอฟต์พาวเวอร์ด้านต่างๆ ของประเทศไทยผ่านกองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศสร้างการรับรู้ให้กับผู้ชมทั่วโลก อันจะทำให้เกิดการท่องเที่ยวตามรอยการถ่ายทำภาพยนตร์ต่อไป
สำหรับคณะถ่ายทำภาพยนตร์ที่เลือกไทยเป็นโลเคชันได้การถ่ายหนัง 5 อันดับแรกประกอบด้วย
อันดับ 1 คณะถ่ายทำภาพยนตร์จากสหรัฐอเมริกา ด้วยจำนวนภาพยนตร์ 34 เรื่อง เงินลงทุนกว่า 3,184 ล้านบาท
อันดับ 2 คณะถ่ายทำจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน มีเงินลงทุนกว่า 707 ล้านบาท
อันดับ 3 สาธารณรัฐประชาชนจีน 471.98 ล้านบาท
อันดับ 4 สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี 438.79 ล้านบาท
อันดับ 5 สาธารณรัฐเกาหลี 344.65 ล้านบาท
นอกจากนี้กองกิจการภาพยนตร์และวิดีทัศน์ต่างประเทศได้จัดอันดับ 5 จังหวัดของประเทศไทยที่ผู้สร้างภาพยนตร์จากทั่วโลกนิยมใช้เป็นโลเคชันหลักในการถ่ายทำ พบว่า
อันดับ 1 กรุงเทพมหานคร จำนวน 282 เรื่อง อาทิ วัดอรุณราชวรา รามราชวรมหาวิหาร สถานีรถไฟหัวลำโพง เป็นต้น
อันดับ 2 ชลบุรี จำนวน 77 เรื่อง อาทิ ถนนเรียบชาดหายพัทยา เกาะล้าน เกาะสีชัง เป็นต้น
อันดับ 3 สมุทรปราการ จำนวน 60 เรื่อง อาทิ เมืองโบราณ The Studio Park ท่าเรือศุภนาวา เป็นต้น
อันดับ 4 ปทุมธานี จำนวน 52 เรื่อง อาทิ ACTS Studio มหาวิทยา ลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยรังสิต เป็นต้น
อันดับ 5 ภูเก็ต จำนวน 47 เรื่อง อาทิ หาดพาราไดซ์ ย่านเมืองเก่าภูเก็ต พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี เป็นต้น
อันดับ 6 นนทบุรี จำนวน 41 เรื่อง
อันดับ 7 เชียงใหม่ จำนวน 39 เรื่อง
อันดับ 8 นครปฐม จำนวน 27 เรื่อง
อันดับ 9 กระบี่ จำนวน 26 เรื่อง
อันดับ 10 ราชบุรี จำนวน 25 เรื่อง