
6 พฤศจิกายน 2566 โออาร์ และ บางจาก แจ้ง ปรับลด ราคาน้ำมัน พรุ่งนี้ (7 พ.ย.) ในกลุ่ม เบนซิน และแก๊สโซฮอล์ ทุกชนิด
โดยแก๊สโซฮอล์ อี 20 และ อี 85 ปรับลด 80 สตางค์ต่อลิตร , เบนซิน 95 และแก๊สโซฮอล์ 95 ปรับลด 1 บาทต่อลิตร , ส่วนแก๊สโซฮอล์ 91 ปรับลด 2.50 บาทต่อลิตร ขณะที่กลุ่มดีเซลคงราคาดา
มีผลวันที่ 7 พ.ย. 66 ตั้งแต่เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป
*ราคาที่ประกาศเป็นราคาขายปลีกในกรุงเทพมหานครฯ ที่ยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องถิ่น
น้ำมันในกลุ่มเบนซิน
- เบนซิน 95 อยู่ที่ 45.04 บาทต่อลิตร
- แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 37.25 บาทต่อลิตร
- แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 35.48 บาทต่อลิตร
- E20 อยู่ที่ 35.14 บาทต่อลิตร
- E85 อยู่ที่ 35.29 บาทต่อลิตร
น้ำมันในกลุ่มดีเซล
- ดีเซล B7 อยู่ที่ 29.94 บาท
- ดีเซล อยู่ที่ 29.94 บาท
สำหรับการปรับลดราคาน้ำมัน กลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ ครั้งนี้ เป็นไปตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมาปรับลดอัตราภาษีสินค้าน้ำมั นและผลิตภัณฑ์น้ำมัน ประเภทน้ำมันเบนซินลง 0.15 - 1 บาทต่อลิตร ตามสัดส่วนเนื้อน้ำมันเบนซินที่ผสม มีผล 7 พ.ย. 66 ถึงวันที่ 31 ม.ค. 67
ทำให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้เห็นชอบให้ใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในการปรับลดราคาขายปลีก น้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์ E10 - 91 ลง 2.50 บาทต่อลิตร และยังลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน - น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E10 - 95 และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ลงตามอัตราภาษีสรรพสามิต ที่เปลี่ยนแปลงตามแนวนโยบายของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ที่จะส่งผ่านการลดภาษีสรรพสามิต ด้วยการปรับปลดราคาขายปลีกให้แก่ประชาชน พร้อมทั้งลดราคาขายปลีกน้ำมันแก๊สโซฮอล E85 ลงมากกว่าอัตราภาษีน้ำมัน ที่สรรพสามิตที่เปลี่ยนแปลงไป
สำหรับการลดราคาน้ำมันเบนซินทุกประเภทในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งมาตรการ ที่เป็นไปตามมติ ครม. ที่ต้องการจะช่วยเหลือประชาชน ด้วยการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลโดยกระทรวงพลังงาน ได้มีการช่วยเหลือประชาชน ทั้งการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร รวมทั้งการลดค่าไฟให้เหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย
ทั้งนี้ การลดราคาน้ำมันเบนซิน จะมีผลตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย.นี้ จึงขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมัน และสถานีบริการ เตรียมน้ำมันแต่ละชนิด ให้เพียงพอกับความต้องการ เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ รวมทั้งขอให้ประชาชนตรวจสอบการเติมน้ำมัน ให้เหมาะสมกับรถยนต์ที่ใช้ โดยดูได้จากฝาช่องเติมน้ำมัน คู่มือการใช้รถยนต์ หรือสอบถามที่ศูนย์บริการ เพราะหากเติมผิดประเภท อาจจะทำให้เกิดผลเสียต่อเครื่องยนต์ได้