svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ชาวไร่อ้อยบุกพาณิชย์ ! ขอเหตุผลเบรกขึ้นราคาน้ำตาลทราย

02 พฤศจิกายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ชาวไร่อ้อยทนไม่ไหวบุกกระทรวงพาณิชย์ขอพบ "ภูมิธรรม" ฟังเหตุผลดึงน้ำตาลทรายเป็นสินค้าควบคุม ทวงแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบภัยแล้ง-ราคาน้ำมัน-ปุ๋ยแพง ขู่ปิดโรงงานทั่วประเทศ 5 พ.ย.นี้

นายปารเมศ โพธารากุล ประธานสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า วันนี้ (2 พ.ย.)  ตัวแทนชาวไร่อ้อย 8-9 คน ขอนัดพบนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อรับฟังเหตุผลการควบคุมราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงานให้คงเดิมที่กิโลกรัมละ 19-20 บาท และกำหนดให้น้ำตาลทรายเป็นสินค้าควบคุม  และแนวทางในการช่วยเหลือต้นทุนชาวไร่อ้อยที่ได้รับผลกระทบจากภาวะภัยแล้ง ราคาน้ำมัน และปุ๋ยที่เพิ่มขึ้นมาก

ชาวไร่อ้อยบุกพาณิชย์ ! ขอเหตุผลเบรกขึ้นราคาน้ำตาลทราย

สำหรับราคาน้ำตาลตลาดโลกที่สูงกว่าตลาดในประเทศมาก อาจทำให้เกิดการลักลอบส่งออกเพิ่มขึ้นตามกลไกตลาดและส่งผลให้เกิดการขาดแคลนน้ำตาลในประเทศในช่วงปลายฤดูกาลผลิต อีกทั้งชาวไร่ที่แบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไม่ไหวก็จะเปลี่ยนไปปลูกพืชอย่างอื่นแทน ซึ่งจะส่งผลต่อปริมาณการผลิตในปีถัดไปน้อยลง

นอกจากนี้ ปริมาณความต้องการใช้น้ำตาลในประเทศอยู่ที่ 2.4 ล้านตันต่อปี แบ่งเป็นสัดส่วนการบริโภคในครัวเรือนเพียง25% หรือไม่ถึง 1 กิโลกรัมต่อเดือน ซึ่งรัฐควรจะไปควบคุมราคาสินค้าประเภทฟุ่มเฟือยและเครื่องดื่ม

อย่างไรก็ตาม หากการหารือครั้งนี้ไม่มีแนวทางหรือเหตุผลที่เพียงพอชาวไร่ก็พร้อมที่จะดำเนินมาตรการขั้นเด็ดขาดด้วยการปิดโรงงานผลิตน้ำตาลทั่วประเทศ พร้อมกันในวันที่ 5 พ.ย.นี้ เพื่อไม่ให้นำน้ำตาลในส่วนของชาวไร่อ้อยตามระบบแบ่งปัน 70% ขนออกมา เพราะขายไปแล้วจะขาดทุน

นายมนตรี เลาหศักดิ์ประสิทธิ์ นายกสมาคมชาวไร่อ้อยเขต 6 กล่าวว่า  การปรับขึ้นราคาน้ำตาลกก.ละ 4 บาท เมื่อวันที่ 27 ต.ค. ที่ผ่านมานั้น เป็นไปตามมติคณะกรรมการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล(กอน.) ที่เห็นว่าสถานการณ์น้ำตาลโลกในปัจจุบันมีราคาที่สูงกว่าประเทศไทยมาก โดยจำหน่ายน้ำตาลทรายกก.ละ 40-50 บาท แต่ในไทยจำหน่ายน้ำตาลกก.ละ 20-23 บาท

นอกจากนี้ช่วงปี 60/61 ประเทศไทยได้ถูกประเทศบราซิล ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่ของโลกได้ร้องในเรื่องของราคาน้ำตาลของประเทศไทย ที่รัฐบาลได้เข้าไปอุดหนุนราคาน้ำตาลช่วยเหลือชาวไร่ จนทำให้เกิดผลกระทบต่อการจำหน่ายน้ำตาลในตลาดโลก

ดังนั้นรัฐบาลจึงได้ปล่อยให้ราคาอ้อยและน้ำตาลลอยตัวมา 3-4 ปี ส่งผลให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยต้องแบกรับภาระการขาดทุนมาโดยตลอด ซึ่งการปรับราคาน้ำตาลกก.ละ 4 บาทนั้น แบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ คือ ส่วนที่ 1 เงินจำนวน 2 บาท แบ่งให้กับกองทุนน้ำตาล 2 บาท และอีก 2 บาท เป็นการช่วยเหลือก็ช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่แบกรับปัญหา โดยเฉพาะต้นทุนการผลิต หรือการปลูกอ้อยมีราคาที่สูงมาเป็นเวลานาน

อย่างไรก็ตาม หากไม่ปรับราคาจะส่งผลให้น้ำตาลทรายไหลทะลักออกสู่ประเทศเพื่อนบ้านแบบผิดกฎหมาย โดยเฉพาะกองทัพมดที่พร้อมจะลักลอบส่งออกน้ำตาล เนื่องจากมีราคาแพงกว่าไทย และในอนาคตจะทำให้น้ำตาลในประเทศขาดตลาด

logoline