ได้ใช้เมื่อไหร่! "ดิจิทัลวอลเล็ต" 1 หมื่น อ่านรายละเอียดก่อนพลาดรับสิทธิ์

"เนชั่นออนไลน์" รวบรวมความคืบหน้าของโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทมาให้ทุกคนได้เตรียมตัว เตรียมความพร้อมก่อนที่โครงการจะเริ่มต้นขึ้น เพื่อไม่ให้พลาดรับสิทธิ์ 

เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 คืออะไร 

เงินดิจิทัลวอลเล็ต คือโครงการงกระตุ้นเศรษฐกิจ ของรัฐบาลเศรษฐา ซึ่งเป็นนโยบายที่พรรคเพื่อไทยใช้หาเสียงก่อนเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยกระเป๋าเงินดิจิทัล เป็นเทคโนโลยีบล็อกเชนที่มีความปลอดภัยสูง และตรวจสอบได้  ดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ใช่คริปโตเคอเรนซี ไม่ใช่เงินสกุลใหม่ แต่เป็นเหรียญ (คูปอง) หรือสิทธิ์การใช้เงิน ที่ใช้ใน Blockchain โดยมีเงื่อนไขในการใช้งาน ทำให้ไม่มีความเสี่ยง ไม่มีการเก็งกำไร ไม่มีการถูกทุบ ไม่มีการขาดทุน ไม่สามารถแลกเปลี่ยนด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นได้ ไม่มีราคาตก-ราคาขึ้น เพราะทุกเหรียญมีค่าเท่าเงินบาทเสมอ รับประกันโดยรัฐบาล

เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ใครได้บ้าง 

คนไทยที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป  รวมถึงประชาชนที่มีสวัสดิการอื่นๆ เช่น คนพิการ คนชรา ก็จะได้รับเต็มจำนวนไม่หักลดเช่นกัน  โดยในขั้นตอนนี้มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมเล็กน้อย คือ เดิมผู้ที่เข้าเกณฑ์ได้รับสิทธิ์ไม่ต้องลงทะเบียน แต่ล่าสุดเปลี่ยนให้ต้องลงทะเบียนยืนยันตัวตนเพื่อรับสิทธิ์ 

วิธีใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท 

ใช้จ่ายผ่านบัตรประชาชน หรือผ่านแอปพลิเคชัน เฉพาะกับร้านค้าชุมชนและบริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการกับรัฐ ส่วนร้านค้าต้องอยู่ในรัศมีกี่กิโลเมตร รายละเอียดเรื่องนี้ยังไม่สรุป โดยรัฐมนตรีช่วยคลัง บอกว่า อาจจะมีการปรับเปลี่ยนเป็นรัศมีภายในตำบล อำเภอ หรือจังหวัด 

เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ซื้ออะไรได้บ้าง 

ประชาชนสามารถใช้ซื้ออาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค หรือเครื่องมือทำกิน แต่ไม่สามารถใช้ซื้อสุรา หรือบุหรี่ หรือสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ได้

ระยะเวลาการใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท

รัฐจะให้ครั้งทีเดียว 10,000 บาท  ระยะเวลาใช้จ่ายภายใน  6 เดือน 

ส่วนคำถามสุดท้ายเป็นสิ่งที่หลายคนอยากรู้คือ

เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เริ่มใช้ได้เมื่อไหร่?
ณ เวลานี้ทางฝั่งรัฐบาล เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นถึงไทม์ไลน์การดำเนินโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ตแล้ว โดยในปลายเดือน ต.ค. นี้ จะมีการแถลงรายละเอียดโครงการอย่างเป็นทางการ ต่อมากลางเดือนพ.ย. จะเปิดให้ร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ก่อนจะเปิดใช้จ่ายในวันที่ 1 ก.พ.2567