svasdssvasds
เนชั่นทีวี

Business

กรมพัฒน์ฯ ขยายจดทะเบียนนิติบุคคลออนไลน์ทั่วประเทศ เริ่ม 24 ส.ค. นี้ 

กรมพัฒน์ฯ ขยายการให้บริการจดทะเบียนนิติบุคคลผ่านช่องทางออนไลน์ หรือ e-Registration ครบทุกจังหวัดทั่วประเทศ สำนักงานของธุรกิจตั้งอยู่จังหวัดไหน ให้นายทะเบียนจังหวัดนั้นพิจารณาและรับจดทะเบียน ขจัดปัญหารอคิว-ตรวจเอกสาร นเริ่ม 24 ส.ค. 2566 

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเปิดให้บริการยื่นคำขอจดทะเบียนผ่านระบบจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration) ตั้งแต่ปี 2560 ในระยะเริ่มต้นการพิจารณาคำขอจดทะเบียนดำเนินการโดยนายทะเบียนส่วนกลาง และกรมฯ ได้พัฒนาระบบมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ ช่วยให้ภาคธุรกิจใช้งานผ่านระบบได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น

อาทิ * เพิ่มช่องทางการยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-KYC) * ปรับระบบให้ผู้แทนสามารถจัดทำและยื่นคำขอจดทะเบียนแทนหุ้นส่วนผู้จัดการ และกรรมการผู้มีอำนาจได้ และมีมาตรการลดอัตราค่าธรรมเนียม 50% แก่ห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดที่จดทะเบียนผ่านระบบ e-Registration เป็นระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2564 ถึง 31 ธ.ค. 2566
 

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

ที่ผ่านมา กรมฯ ได้ขยายการให้บริการจดทะเบียนนิติบุคคลผ่านระบบ e-Registration โดยมอบหมายให้นายทะเบียนที่ประจำอยู่ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด จำนวน 25 จังหวัด เป็นผู้พิจารณาและรับจดทะเบียนของนิติบุคคลที่มีที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่อยู่ในจังหวัดนั้น ล่าสุด กรมฯ ได้มอบหมายนายทะเบียนของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเพิ่มเติมอีก 51 จังหวัด ให้พิจารณาคำขอจดทะเบียนที่ยื่นผ่านระบบ e-Registration

อันจะทำให้การให้บริการจดทะเบียนนิติบุคคลทางออนไลน์โดยนายทะเบียนในจังหวัดที่ธุรกิจตั้งอยู่เป็นผู้พิจารณา ช่วยขจัดปัญหารอคิวนายทะเบียนส่วนกลางตรวจเอกสาร ทำให้การจดทะเบียนธุรกิจรวดเร็วยิ่งขึ้น เป็นการอำนวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจและประชาชน โดยเริ่มเปิดให้บริการพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. 2566 เป็นต้นไป

ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ก.ค. 2566) ปริมาณคำขอจดทะเบียนที่ยื่นผ่านระบบ e-Registration มีจำนวนทั้งสิ้น 180,943 คำขอ แบ่งเป็นคำขอของนิติบุคคลที่ตั้งอยู่ในส่วนกลาง (กรุงเทพมหานคร) จำนวน 63,734 คำขอ และของนิติบุคคลที่ตั้งอยู่ในส่วนภูมิภาค จำนวน 117,209 คำขอ 

กรมฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การขยายการให้บริการและการปรับปรุงระบบจะทำให้การยื่นคำขอจดทะเบียนผ่านระบบ e-Registration มีความคล่องตัวและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น อันเป็นการสนับสนุนการทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ และเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลดิจิทัล (Digital Government) พร้อมรองรับและผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์และรวดเร็วมากขึ้น” อธิบดีฯ กล่าวทิ้งท้าย