
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน เชิญสมาคมผู้ผลิต โรงสี ห้างสรรพสินค้า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมหารือและติดตามสถานการณ์ข้าวสารบรรจุถุง ในวันนี้ (17 สิงหาคม 2566) ให้ดูแลราคาที่เหมาะสมไม่ให้กระทบทั้งเกษตรกรและประชาชนผู้บริโภค และปัจจุบันกระทรวงพาณิชย์ยังไม่อนุญาตให้ผู้ประกอบข้าวถุงขึ้นราคา
หลังจากปัจจุบันราคาข้าวเปลือกสูงขึ้นมาก แต่เป็นผลดีกับเกษตรกรขายข้าวได้ราคา ทั้งนี้ เมื่อข้าวเปลือกราคาสูงขึ้น ต้นทุนข้าวสารจะสูงขึ้นตามไปด้วย ตนจึงได้สั่งการไปแล้วให้กรมการค้าภายในกำกับดูแลราคาข้าวสารให้กระทบต่อผู้บริโภคให้น้อยที่สุด ทั้งนี้ที่ผ่านมาราคาข้าวสารถุงส่วนใหญ่แม้ปิดป้ายแสดงราคาไว้ แต่เวลาขายจริงจะมีการจัดทำโปรโมชั่นลดราคาต่อเนื่องตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ดังนั้นยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป
สำหรับราคาข้าวในตลาดโลกได้ดีดตัวขึ้นไปแล้วราว 20 เปอร์เซ็นต์ สู่ระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี หลังจากอินเดีย ซึ่งส่งออกข้าวคิดเป็นสัดส่วน 40 เปอร์เซ็นต์ของอุปทานโลก สั่งห้ามการส่งออกข้าวที่ไม่ใช่ข้าวบาสมาติเมื่อเดือนที่แล้ว การตัดสินใจดังกล่าวของอินเดียได้ส่งผลให้อุปทานข้าวในตลาดโลกลดลงไป 10 ล้านตัน หรือประมาณ 20%
โดยในไทยหลังจากที่ประเทศอินเดียได้มีการระงับการส่งออกข้าว ผู้ประกอบการมีการแย่งซื้อข้าวเปลือก ทำให้ข้าวหอมมะลิขัดขาวปรับฐานราคาเพิ่มขึ้น โดยปลายเดือนกรกฎาคม ราคาข้าวขาวของ กทม. อยู่ที่กิโลกรัมละ 15 บาท ถึงช่วงวันแม่ราคามีการปรับเพิ่มขึ้นเป็น 22 บาท และขณะนี้มีการปรับลดเหลือไม่ต่ำกว่า 20 บาท หากอินเดียยังไม่ส่งออกข้าว ราคาข้าวในประเทศก็มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น
ด้านนายสุทธิศักดิ์ พรมบุตร พาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ราคาข้าวเปลือก โดยเฉพาะ "ข้าวหอมมะลิ" ในพื้นที่ภาคอีสาน มีการปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังไม่มีท่าทีว่าจะคลี่คลายลง ประกอบกับประเทศอินเดียระงับการส่งออกข้าวไปประเทศอื่น รวมถึงภาวะฝนทิ้งช่วงทำให้ผลผลิตข้าวออกสู่ตลาดน้อยลงราคาข้าวจึงปรับตัวสูงขึ้น
อีกทั้งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบร้านค้าส่ง ค้าปลีก ข้าวสาร 3 แห่งในตัวเมืองบุรีรัมย์ พบว่าร้านขายส่งข้าวสารจะรับข้าวสารมาจากทั้งในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดสุรินทร์ ส่วนข้าวเหนียวส่วนใหญ่จะรับมาจากภาคเหนือ ในส่วนของ ราคาข้าวหอมมะลิ อยู่ที่ 32-34 บาท/กิโลกรัม ปรับตัวสูงขึ้นจาก 2 สัปดาห์ที่แล้ว 2-3 บาท ส่วนแนวโน้มการปรับขึ้นราคานั้นอาจไม่สูงมาก เนื่องจากผลผลิตข้าวนาปีของภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะออกสู่ตลาดช่วงเดือนตุลาคม ผู้ประกอบการไม่กล้าขึ้นราคาสูงเกินเจ้าอื่นเพราะการแข่งขันสูง
ส่วนผลผลิตข้าวที่ออกสู่ตลาดในขณะนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นผลผลิตที่เกษตรกรเก็บข้าวไว้ในยุ้งฉางของตนเอง โดยราคาข้าวสารในช่วงนี้เริ่มปรับตัวตามราคาข้าวเปลือกที่สูงขึ้น เฉลี่ยประมาณ 15-16.90 บาท/กิโลกรัม ตกตันละ 15,300-16,900 บาท
.