svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ต.ล.ท. ชี้นักลงทุนจับตาโหวตนายกฯ คาดมีผลกระทบตลาดหุ้นทันทีในระยะสั้น

11 กรกฎาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ ลุ้นโหวตนายกฯ ที่จะส่งผลทันทีต่อตลาดหุ้นทันทีในระยะสั้นไม่ว่า จะออกมาในเชิงบวก หรือ ลบ เชื่อครึ่งปีหลังตลาดหุ้นฟื้นได้ จากจีนเตรียมออกนโยบายกระตุ้นศก. ธุรกิจในไทยได้อานิสงส์

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ ว่าเป็นประเด็นที่นักลงทุน ทั้งในประเทศและต่างประเทศจับตามอง และ จะมีผลต่อความเคลื่อนไหวในตลาดหุ้นทันทีในระยะสั้น หากสถานการณ์ไม่ยืดเยื้อสำหรับการเลือกนายกรัฐมนตรี คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะได้รับผลตอบรับในเชิงบวก ในลักษณะเดียวกับการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ผ่านไปได้ด้วยดี  แต่อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามนโยบาย ทางเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ หลังจากนั้นว่าจะส่งผลต่อกลุ่มอุตสาหกรรมไหนเป็นพิเศษบ้าง
 

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ต.ล.ท.

แต่หากการเลือกนายกรัฐมนตรี มีความยืดเยื้อ อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติอยู่บ้าง เกี่ยวกับทิศทางการกำกับนโยบายทางเศรษฐกิจ แต่ช่วงครึ่งปีหลังนี้ปัจจัยที่นักลงทุนติดตามมาเป็นอันดับต้นๆ คือผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่คาดว่าจะดีขึ้น หลังจากต้นทุนราคาพลังงาน โดยเฉพาะราคาน้ำมันอยู่ในระดับไม่สูงมากเมื่อเทียบกับอดีตที่ผ่านมา

 

"การไหลออกของเงินทุนต่างชาติ ไม่ได้เป็นผลมาจากปัจจัยในประเทศเพียงอย่างเดียว แต่สถานการณ์นี้เกิดขึ้นแทบจะทุกภูมิภาค หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ยังคงดำเนินนโยบายการเงินด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเป็นการปรับขึ้นสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้" นายศรพล กล่าว  

สำหรับภาพรวมตลาดหุ้นไทย ในเดือน มิ.ย. ที่ผ่าน ส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบ หลังจาก มีข่าวหุ้นสตาร์คตกแต่งบัญชี สร้างยอดขายปลอม ผิดชำระหนี้หุ้นกู้ ทำให้ตลาดหุ้นไทยหล่นลงมาเกือบแตะระดับที่ 1,500 จุด แต่ในช่วงที่เหลือของปีนี้ยังมีโอกาสที่หุ้นไทยจะฟื้นตัว เนื่องจากรัฐบาลจีน เตรียมออกมาตรการชุดใหญ่ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งผลดีต่อบริษัทจดทะเบียนในประเทศและการท่องเที่ยว

นายศรพล กล่าวต่อว่า แม้ความเชื่อมั่นของนักลงทุน จะลดน้อยลงจากกรณีของ บริษัท STARK  จึงเห็นแรงเทขายในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก แต่ก็ยังมีปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุนการซื้อขายหลังจากธนาคารโลก หรือ World Bank คาดเศรษฐกิจไทยในปี 2566 จะเติบโตขึ้นที่ 3.9 % โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากอุปสงค์ในประเทศและการท่องเที่ยว ขณะที่การเมืองในประเทศที่มีพัฒนาการดีขึ้หลังได้ประธานสภาฯ ส่งผลให้ดัชนีต่างๆ เริ่มปรับตัวดีขึ้น 

โดยตลาดหุ้นไทย หรือ SET Index ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2566 ปิดที่ 1,503.10 จุด ปรับลดลง 2.0% จากเดือนก่อนหน้า และปรับลดลง 9.9% เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อนหน้า โดยปรับไปในทิศทางเดียวกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นในอาเซียน มีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai อยู่ที่ 47,893 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า 33.2% 

ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน 6 เดือนแรกปี 2566 อยู่ที่ 58,670 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นเดือนที่ 5 โดยในเดือนมิ.ย. 66 ผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 8,617 ล้านบาท


 

logoline