svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ปตท.แนะธุรกิจใช้เทคโนโลยียกระดับขีดแข่งขัน

23 มิถุนายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

หลายคนคิดว่าเรื่องของเทคโนโลยีเป็นเรื่องของวิทยาศาสตร์ เป็นเรื่องของวิศวกรรม แต่ที่จริงเทคโนโลยีเวลาเกิดขึ้นแล้วมีผลกระทบต่อเรื่องเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ

ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บมจ. ปตท. บุรณิน รัตนสมบัติ กล่าวในงานสัมมนาหัวข้อ “Spring Digital Life Forum 2023 : นวัตกรรม เปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนโลก” ในหัวข้อ “นวัตกรรมดิจิทัล ขับเคลื่อนประเทศ ฟื้นเศรษฐกิจไทย” ว่า เทคโนโลยีเกิดขึ้นแล้วมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม รวมถึงความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ แนะนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้ให้เกิดแบบจำลองทางธุรกิจ ดันเศรษฐกิจเติบโต

 

หลายคนคิดว่าเรื่องของเทคโนโลยีเป็นเรื่องของวิทยาศาสตร์ เป็นเรื่องของวิศวกรรม แต่ที่จริงเทคโนโลยีเวลาเกิดขึ้นแล้วมีผลกระทบต่อเรื่องเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ เทคโนโลยีที่เห็นมีการเปลี่ยนแปลงทุกวัน และมีการปฏิวัติอุตสาหกรรมถึง 4 ครั้ง เริ่มจากการล่าสัตย์เป็นการเพาะเลี้ยงปศุสัตร์ ครั้งที่สอง ค้นพบเครื่องจักรกลไอน้ำ สายพาน และ ครั้งที่ 3 เกิดดิจิทัลขึ้นในยุคอินฟอร์เมชั่น แล้วจึงเกิดเทคโนโลยีที่เป็นคอมพิวเตอร์ขึ้น และ 4.เป็นเรื่องของการนำดิจิทัลมาใช้ และจะเริ่มไปสูาอุตสาหกรรม 5.0 ทั้งการนำมาใช้ทางการแพทย์ ค้าขาย หรือเรื่องพลังงาน เป็นต้น

ขณะนี้ AI ฉลาดขึ้นทุกนาที ถ้านำ AI ไปใช้ประโยชน์โดยทั่วไปจะช่วยสร้างมูลค่าถึง 11-17 ล้านล้านดอลลาร์ และหากนำ AI ไปทำ Generative AI ใหม่ ๆ จะเพิ่มมูลค่าไปอีก 15-40% ถ้าทุกคนใช้ AI เป็นหลักการในการทำงานทั่ว ๆ ไป จะทำให้ AI มีผลกระทบทางเศรษฐกิจ (Economic Impact) ขึ้นไปถึง 35-70% เศรษฐกิจจะเติบโตได้จากการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้ แล้วใช้ในรูปแบบให้เกิดแบบจำลองทางธุรกิจ (Business model) ใหม่ ๆ

ปตท.แนะธุรกิจใช้เทคโนโลยียกระดับขีดแข่งขัน

ทั้งนี้ ไม่ว่าเทคโนโลยีจะดีอย่างไร เราก็ต้องปรับปรุงในเรื่องของคน ในเรื่องของกระบวนการ (Process) แล้วที่สำคัญคือการเอาดิจิทัล เอา AI ไปใช้กับการทำงานในชีวิตประจำวันได้อย่างไร เราต้องสร้างและผลักดันให้มันเกิดขึ้น และนำไปดำเนินงานให้เกิดผลลัพธ์ตามที่เราต้องการ

อย่างไรก็ตาม ปตท. มีความคุ้นเคยกับธุรกิจน้ำมัน และด้วยวิสัยทัศน์ 2 ปีที่ผ่านมา เกิดนโควิด จึงต้องมุ่งสู่พลังงานที่สะอาด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำระบบเก็บแบตเตอรี่ พัฒนาพลังงานไฮโดรเจน และยังทำผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เป็นต้น ถือเป็นภาคที่เราจะเปลี่ยนเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อให้จะได้คาร์บอนเครดิต อีกทั้งขณะนี้กลุ่มปตท.อยู่ระหว่างพัฒนาแอพพลิเคชั่นรองรับไลฟ์ไตล์ลูกค้าทั้งกลุ่ม

ทั้งนี้ แม้ว่าเทคโนโลยีจะดีแค่ไหนก็ต้องปรับคน และคำนึงว่าเอามาใช้อย่างไรให้เกิดผลลัพธ์ที่ต้องการ เชื่อว่าวันนี้อนาคตดิจิทัลไม่ได้มาจากพลังของเทคโนโลยีอย่างเดียวแต่อยู่ที่ว่านักธุรกิจจะนำมาตอบโจทย์ธุรกิจอย่างไร

 

ด้านผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา กล่าวในหัวข้อ "นวัตกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน ที่เปลี่ยนประเทศไทย ให้ไม่เหมือนเดิม" ว่า ปัจจุบันนวัตกรรมสำคัญอย่างมากกับโลกการเงินไทย เพราะการนำนวัตกรรมมาปรับใช้ในโลกการเงินส่งผลดีอย่างมากกับชีวิตผู้คน เพราะง่าย สะดวก สบาย ต่อการใช้ชีวิตประจำ เพราะนวัตกรรมมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงชีวิตอย่างมากจากในอดีตเมื่อ 30 ปีก่อน ที่เริ่มมีการนำอินเทอร์เน็ตมาใช้ก็เริ่มทำให้ชีวิตคนไทยเปลี่ยนไป

 

ผลของการมีนวัตกรรมทางการเงินดิจิทัล ทำให้ไทยมี 78 ล้านเลขหมาย หมายถึงกว่าครึ่งของประชากรไทย ปรับตัวใช้เทคโนโลยีเพื่อตอบสนองชีวิตให้สะดวกสบายมากขึ้น จากการใช้งานของแอปพลิเคชันทางการเงิน โดยเฉลี่ยแล้ว 48 ล้านธุรกรรมต่อวัน มีจุด QR Code ตามร้านค้าต่าง ๆ กว่า 9 ล้านจุด ทั่วประเทศ จากผลสำรวจพบว่า 81% ใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่ง 5 ปีที่ผ่านมาเติบโต 5 เท่าตัว 

ปตท.แนะธุรกิจใช้เทคโนโลยียกระดับขีดแข่งขัน

สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนสำหรับความสำเร็จในการนำนวัตกรรมมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการเงินไทย คือการนำระบบพร้อมเพย์มาใช้ในโลกการเงินไทย และพัฒนาต่อยอดมาถึงปัจจุบัน เป็นการย่อโลกการเงินลงมาบนมือถือทำให้ประชาชน พ่อค้าแม่ค้า ภาคธุรกิจ จับจ่าย และธุรกรรมทางการเงินได้ง่ายขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่สาขา ส่วนหน่วยงานภาครัฐเองได้ต่อยอดระบบพร้อมเพย์ในการจ่ายสวัสดิการของรัฐให้ประชาชนได้สะดวกรวดเร็ว รวมถึงการคืนภาษีนิติบุคคล ได้ง่ายสะดวกผ่านพร้อมเพย์

ปตท.แนะธุรกิจใช้เทคโนโลยียกระดับขีดแข่งขัน

นอกจากนี้ยังพัฒนาต่อยอด QR Code ทั้งในประเทศ และมาตรฐานสากล เชื่อมโยงกับ 6 ประเทศได้ เช่น กัมพูชา มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ ลาว และญี่ปุ่น ให้เชื่อมโยงทางการเงินกันได้สะดวกมากขึ้น

logoline