เพราะยังต้องอาศัยเสียง ส.ว. เป็นตัวชี้ขาด เนื่องจาก 312 เสียง ของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ยังไม่เพียงพอ ที่จะส่งให้ พิธา เป็นนายกฯคนที่ 30 ของประเทศไทย
ซึ่งความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาล กลายเป็นสิ่งที่ภาคเอกชนและภาคธุรกิจกังวลมากที่สุด เพราะหากยิ่งล่าช้าก็จะยิ่งส่งผลกระทบต่อความเขื่อมั่น การเบิกจ่ายงบประมาณ ทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก
โดย คีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอสกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) มองว่า ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะจะปล่อยให้ประเทศไม่มีรัฐบาลนานไม่ได้ ดังนั้นควรต้องจัดตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด
และต้องการให้มีนโยบายที่ทำให้ประชาชนมีความสุข ไม่เห็นประโยชน์ส่วนตน ต้องยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก
ด้านผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย มองว่านโยบายที่รัฐบาลใหม่ ควรต้องทำอย่สงเร่งด่วน คือ การปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจไทย ไปสู่ Future Economy โดยเศรษฐกิจต้องมีการหมุนเวียน ทั่วถึง และลดความเลื่อมล้ำ
สุดท้ายแล้วไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาล ภารกิจสำคัญที่สุด คือ การเร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องของพี่ท้องประชาชนคนไทย