svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

“กีรติ”กางแผน 4 ปีดันสุวรรณภูมิติดอันดับ 1 ใน 30 สนามบินที่ดีที่สุดในโลก

30 พฤษภาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เอ็มดีทอท.คนใหม่วางเป้าหมาย 4 ปี ดันสนามบินสุวรรณภูมิติด 1 ใน 30 สนามบินที่ดีที่สุดในโลก หลังจากที่ร่วงอันดับ 10 จากปี 53 มาอยู่ที่อันดับ 68 ในปีนี้ เล็งเปิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 ก.ย.นี้  รับผู้โดยสารเพิ่มจาก 51 ล้านคนเป็น 80 ล้านคนต่อปี

นายกีรติ กิจมานะวัฒน์  ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ทอท. เปิดเผยว่า  วางเป้าหมายในอีก 2 ปีข้างหน้าสนามบินสุวรรณภูมิติดอันดับ 1 ใน 50 สนามบินที่ดีที่สุดในโลก  และใน 4 ปีจะต้องกลับมาติด 1 ใน 30 ให้ได้  ซึ่งในอดีตสนามบินสุวรรณภูมิเคยติดอันดับ 1 ใน 10 สนามบินที่ดีที่สุดในโลก จาก Skytrak เมื่อปี 2553 ล่าสุดในปี 66 จากการจัดอันดับสนามบินที่ดีที่สุดในโลกสนามบินสุวรรณภูมิอยู่ในลำดับที่ 68 จากปี 65 อยู่ลำดับ 77

สำหรับปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไขคือการให้บริการ ทั้งกระบวนการเช็คอิน ตรวจค้นผู้โดยสาร และการตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) โดยเฉพาะที่สนามบินสุวรรณภูมิ มีความล่าช้าโดยเฉพาะชั่วโมงเร่งด่วน ทำให้ผู้โดยสารเดินทางมาสนามบินก่อน 6-7 ชั่วโมง ล่วงหน้า เพราะกลัวตกเครื่องบิน ขณะที่เคาน์เตอร์สายการบินจะเปิดให้เช็คอินก่อนเดินทาง 3 ชั่วโมง ทำให้สนามบินมีผู้โดยสารจำนวนมาก

ทั้งนี้ทอท.จึงได้นำเทคโนโลยี Self Check-in และ Self-Service Bag Drop มาช่วยสายการบิน ให้ผู้โดยสารเช็คอินด้วยตัวเอง โดยติดตั้งราว 200 จุดทั่วสนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนการตรวจคนเข้าเมือง ก็มีการประสานให้ตม.ช่วยจัดเจ้าหน้าที่มาให้บริการ ด้วยการเพิ่มโอทีการทำงาน ซึ่งในระยะยาวทอท.จะนำระบบ AUTO GATE มาใช้ ซึ่งอยู่ระหว่างหารือกับตม.ว่าจะใช้ได้กับนักท่องเที่ยวขาออกจาก 90 ประเทศได้หรือไม่ โดยแผนระยะสั้นนี้จะต้องอยู่ต่อไปจนกว่าทอท.จะเดินหน้าขยายอาคารผู้โดยสารต่างๆ ในสนามบินหลักแล้วเสร็จ

“ ถ้าแก้ปัญหา 3 จุดอ่อนนี้ได้ความแออัดในเทอร์มินัลก็จะลดลง ทอท.คาดว่าภายในสิ้นปี 66 ผู้โดยสารจะกลับเข้ามาเท่ากับที่ระดับปี 62 (ก่อนโควิด) ที่เคยรับได้ 2 แสนคนต่อวัน เพราะตอนนี้เส้นทางบินในประเทศกลับมา 100% แล้ว ส่วนเส้นทางบินระหว่างประเทศกลับมาอยู่ที่ 70% และปลายปีนี้น่าจะกลับมากันเต็มที่ เราก็จะเห็นสภาพความแออัดเหมือนในปี 62 ที่เกิดขึ้น”

สำหรับแผนระยะกลาง ทอท.จะเปิดอาคารเทียบเครื่องบิน รองหลังที่ 1 (SAT 1) สนามบิน สุวรรณภูมิ เพิ่มพื้นที่อีก 2 แสนตร.ม. ในเดือนก.ย.นี้ ทำให้พื้นที่ในส่วนที่เป็นโถงพักคอยผู้โดยสารก่อนขึ้นเครื่องเพิ่มขึ้นอีก 50% ส่งผลให้มีสะพานเทียบเครื่องบิน ประตูทางออกขึ้นเครื่องเพิ่มขึ้นอีก 28 GATE จากเดิมที่มีอยู่ 51 GATE ในฝั่งเทอร์มินัล ซึ่ง 1 สะพานเทียบก็รับผู้โดยสารได้ 1 ล้านคนต่อปี การเปิด SAT 1 ก็จะทำให้พื้นที่ในส่วนหลังเทอร์มินัล รองรับเพิ่มได้จาก 51 ล้านคนต่อปีเป็น 80 ล้านคนต่อปี เมื่อรวมกับ BUS GATE ก็น่าจะรับได้ใน 90 ล้านคน

นอกจากนี้จะเร่งรัดลงทุน “ส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารทิศตะวันออก” (East Expansion) ที่อยู่ระหว่างการทบทวนแบบให้สอดรับกับความต้องการของผู้โดยสารยุคใหม่และมาตรฐานการบินปัจจุบัน เนื่องจากแบบเดิมทำมา 8-9 ปีแล้ว ที่ปรึกษาจะใช้เวลาในการปรับแบบ 6 เดือน น่าจะเริ่มลงมือก่อสร้างได้ในต้นปี 67 ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี ทำให้มีพื้นที่เพิ่มอีก 6 หมื่นตร.ม. ลงทุนเพิ่มจาก 7 พันล้านบาทเป็น 9 พันล้านบาท ทอท.มีงบลงทุนนี้อยู่แล้ว เพราะอยู่ในงบเฟส 2 ของโครงการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิ

สำหรับส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารทิศตะวันตก” (West Expansion) สนามบินสุวรรณภูมิ คาดลงทุน 9 พันล้านบาท เพราะพื้นที่ใกล้เคียงกันอีสต์ เทอร์มินัล ซึ่งต้องออกแบบให้แล้วเสร็จก่อน แล้วจึงจะนำเสนอครม. ซึ่งการลงทุนส่วนต่อขยายด้านตะวันออกและตะวันตกนี้ เป็นส่วนที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ผลักดันมา โดยตลอด

“ตอนนี้ยังไม่ได้ปิดประตูเรื่องการขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ แต่ขึ้นอยู่กับว่าต้องมาดูด้วยว่า สนามบินสุวรรณภูมิมี 4 รันเวย์ รับผู้โดยสารได้มากสุดที่ 120 ล้านคน ซึ่งพื้นที่อาคารผู้โดยสารหลักในปัจจุบัน รวมกับการขยายอาคารด้านทิศตะวันออกและตะวันตก จะรองรับผู้โดยสารได้ 90 ล้านคนแล้วการจะเพิ่มอีก 30 ล้านคน ไปสร้างด้านทิศเหนือ ลงทุนที่ 4 หมื่นล้านบาท เปรียบเทียบกับทิศใต้ลงทุน 1.2 แสนล้านบาท แล้วจะลงทุนอะไร  ซึ่งต้องศึกษาแผนแม่บทให้ชัดเจน”

logoline