
จากกรณีที่ สมาคมธนาคารไทย ได้หารือ ข้อสรุปเรื่องการปรับโครงสร้างค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมเงินสดของทั้งระบบธนาคารพาณิชย์ เพื่อให้ต้นทุนกับรูปแบบของการให้บริการมีความสอดคล้องกันมากขึ้นก่อนเสนอต่อไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)นั้น
นายฐากร ปิยะพันธ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต ให้ความเห็นว่า บางธุรกรรมควรมีการเรียกเก็บ เช่น การเบิกถอนเงินสดหน้าเคาน์เตอร์สาขาธนาคาร หรือ การจ่ายบิล ซึ่งมีการทำธุรกรรมค่อนข้างเยอะในแต่ละวัน ซึ่งมีต้นทุนในการบริหารจัดการเฉลี่ย 50 บาทต่อรายการ แต่ธนาคารไม่สามารถเรียกเก็บกับลูกค้าได้ จึงเป็นธุรกรรมที่น่าจะต้องมีการทบทวนเรื่องการเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่ม
อย่างไรก็ดี ในการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการเบิกถอนเงินสด อาจจะต้องมีการสื่อสาร และ ชี้แจ้งทำความเข้าใจกับลูกค้าเพิ่มเติม เช่น หากจะมีการเบิกถอนเงินหน้าเคาน์เตอร์สาขา อาจจะมีการแนะนำให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมที่เครื่องอัติโนมัติ เช่น ATM และ CDM แทน หรือการให้ลูกค้าจองคิวล่วงหน้าในการเบิกถอนเงินสด เนื่องจากปัจจุบันธนาคารจะมีต้นทุนในการเก็บรักษาเงินสด หรือเตรียมเงินล่วงหน้าไว้ให้กับลูกค้า
ทั้งนี้ ในส่วนของธนาคารทีทีบี จะเห็นว่าธนาคารไม่ได้มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมกับลูกค้า เนื่องจากเป็นกลยุทธ์ของธนาคารที่ให้บริการลูกค้าฟรี ในส่วนของการถอนเงินสด โอนเงินผ่านเครื่องเอทีเอ็ม ดังนั้น หากจะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในส่วนของ Cardless ของระบบธนาคารพาณิชย์ ธนาคารอาจจะยังไม่เก็บค่าธรรมเนียมถอนเงินไม่ใช่บัตร แต่หากในอนาคตธนาคารมีการปรับผลิตภัณฑ์ใหม่ อาจจะมีการจำกัดบางธุรกรรมหรือจำกัดวงเงิน ซึ่งหากลูกค้าทำเกินเพดานที่กำหนดอาจจะต้องมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม
และหากดูปัจจุบันจะพบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ไม่ได้ทำบัตรเดบิต แต่หันไปใช้ Cardless ซึ่งจะมีบางส่วนที่ต้องการทำบัตรเดบิตเพื่อซื้อสินค้าออนไลน์ ทำให้รายได้ธุรกิจบัตรตรงนี้ลดลง
“บางธุรกรรมอาจจะต้องมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม เช่น การถอนเงินที่สาขา เพราะเรามีทางเลือกอื่น ๆ ให้ลูกค้าใช้ แต่ทำไมลูกค้ายังถอนเงินหน้าสาขา ซึ่งเป็นธุรกรรมที่มีต้นทุน แต่เราเก็บไม่ได้ ดังนั้น ในแง่บริโภคหากแบงก์ไม่มีทางเลือกในการทำธุรกรรม อันนี้ก็ไม่สามารถเรียกเก็บได้ แต่หากมีทางเลือกออฟชั่น เราก็ควรจะดูความเหมาะสมของค่าธรรมเนียมให้เปลี่ยนไปตามพฤติกรรม” นายฐากร กล่าว