svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

เอาไม่อยู่! ก.อุตฯ ขอ 2 กระทรวง ร่วมแก้ปัญหา ลักลอบเผาอ้อย ทำค่า "PM2.5" พุ่ง

09 กุมภาพันธ์ 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ก.อุตฯ ส่งหนังสือถึง ก. มหาดไทย และ ก.ทรัพย์ฯ ขอความร่วมมือระดับท้องถิ่น ควบคุมการลักลอบเผาอ้อย หลังพบตัวเลขพุ่งไม่หยุด ปัจจุบันพบเผาอ้อยไปเกือบ 30% เทียบเท่าเผาป่า 1.5 ล้านไร่ ส่งผลค่าฝุ่นPM 2.5 สูง หวั่นกระทบสุขภาพ และ การท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่น

นายภานุวัฒน์ ตริยางกูรศรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม รักษาการเลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ทำหนังสือถึง นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย  และ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อขอความร่วมมือในการบูรณาการทำงาน ร่วมกันในการขับเคลื่อน แผนปฏิบัติการ “แก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” หรือฝุ่น PM2.5  พ.ศ.2562-2567 

นายภานุวัฒน์ ตริยางกูรศรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม

 

เนื่องจากทั้ง 2 กระทรวง มีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลพื้นที่ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยได้ขอความร่วมมือกำชับหน่วยงานระดับจังหวัด อำเภอ และตำบล เร่งให้ความสำคัญในการป้องปรามปัญหาการลักลอบเผาอ้อยเพื่อลดผลกระทบจากวิกฤตด้านฝุ่น PM 2.5 ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้บรรลุตามแผนการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองในพื้นที่อย่างใกล้ชิด

เอาไม่อยู่! ก.อุตฯ ขอ 2 กระทรวง ร่วมแก้ปัญหา ลักลอบเผาอ้อย ทำค่า \"PM2.5\" พุ่ง
นายภานุวัฒน์ กล่าวต่อว่า แม้ที่ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรม จะดำเนินมาตรการควบคุมปริมาณอ้อยลักลอบเผาอย่างต่อเนื่อง เช่น การขอรับเงินสนับสนุนจากภาครัฐตามโครงการช่วยเหลือชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ชดเชยดอกเบี้ย ให้เกษตรกรชาวไร่อ้อย สำหรับบริหารจัดการแหล่งน้ำ และ ซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรในไร่อ้อย เป็นต้น

แต่จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2565 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2566 พบว่า ยังมีการลักลอบเผาอ้อยสูงถึง 29.81% ของปริมาณอ้อยทั้งหมด นับจากวันที่เปิดหีบ จำนวนกว่า 15 ล้านตัน เทียบเท่าได้กับการเผาป่าจำนวน 1.5 ล้านไร่ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดฝุ่น PM 2.5 ที่หนาแน่นผิดปกติในหลายพื้นที่ทั้งในภูมิภาคและกรุงเทพมหานครในปัจจุบัน

 

โดยจังหวัดที่มีการลักลอบเผาอ้อยมากที่สุด 15 ลำดับ ได้แก่ นครราชสีมา อุดรธานี กาฬสินธุ์ เพชรบูรณ์ ขอนแก่น สุพรรณบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ กาญจนบุรี เลย หนองบัวลำภู ลพบุรี สระแก้ว ชัยภูมิ และมุกดาหาร

โดยอัตราการลักลอบเผาอ้อยที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้เกิดมลพิษทางอากาศในวงกว้าง ก่อให้เกิดปัญหาในหลายจังหวัด อีกทั้งยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะในสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 การหายใจรับฝุ่น PM 2.5 จะส่งผลให้ภูมิต้านทานของร่างกายอ่อนแอลง โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาแพร่ระบาดได้ง่ายขึ้น ผู้ติดเชื้อมีอาการรุนแรง และนำไปสู่อัตราการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้น

อีกทั้งยังส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวและภาคบริการที่กำลังฟื้นตัวในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวหรือ “ไฮซีซัน” และอาจทำให้เกิดการสูญเสียโอกาสจากการเปิดของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งนับเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มสำคัญของไทย

เอาไม่อยู่! ก.อุตฯ ขอ 2 กระทรวง ร่วมแก้ปัญหา ลักลอบเผาอ้อย ทำค่า \"PM2.5\" พุ่ง

logoline