
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานประชุมร่วมกับ ภาครัฐ และ ภาคเอกชนไทยในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้ล่าวภายหลังจากเดินทางถึงเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(ยูเออี) เพื่อเป็นประธานประชุมร่วมกับ ภาครัฐ และ ภาคเอกชนไทยในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ว่า วันนี้ (7 ก.พ.66) ได้พบกับภาคเอกชนไทย ที่มาประกอบธุรกิจ ในหลากหลายสาขาทั้ง บริษัท ปตท. สผ. จำกัด (มหาชน) บริษัท SCG International Middle East Trading LLC.
บริษัท Vega Intertrade & Exhibition บริษัท Al Rabia Al Daim Food บริษัท Perfect Companion Trading LLC. บริษัท Thai Smile Foodstuff Trading LLC. ร้านอาหารไทย Little Bangkok ร้านอาหารไทย Siam Restaurant ซูเปอร์มาร์เก็ตไทย 4 Mart
โดยส่วนใหญ่ใช้ดูไบเป็นฐานนำเข้าสินค้า จากไทยกระจายต่อไปยังกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับ 6 ประเทศ หรือ GCC ประกอบด้วยซาอุดีอาระเบีย คูเวต โอมาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ และบาห์เรน โดยดูไบถือเป็นประเทศที่มีความสำคัญ สำหรับการส่งออกของไทย เพราะจะเป็นประตูสู่ตะวันออกกลาง และ กลุ่มประเทศอ่าวอาหรับ 6 ประเทศเป็นหลัก
ซึ่งในการประชุมจะมีการจับคู่เซ็นสัญญา 5 คู่ อาหาร 2 คู่ 21 ล้านบาท สุขภัณฑ์ 1 คู่ 630 ล้านบาท ชิ้นส่วนยานยนต์ 1 คู่ 542 ล้านบาทและเมลามีน 140 ล้านบาท รวม 1,330 ล้านบาท และ ในวันพรุ่ง (8ก.พ.66) จะมีการจัดตั้งสภาธุรกิจไทยกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อสนับสนุนการลงทุนไทยกับยูเออี ที่เป็นทางการและได้รับการรับรองจากรัฐบาล 2 ประเทศ คาดว่าจะสร้างเงินให้ประเทศสำหรับปี 2566 เพิ่มขึ้นประมาณ 30,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ยูเออี เป็นตลาดที่มีความสำคัญ เป็นลำดับหนึ่งในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง สำหรับประเทศไทย ปี 2565 ตัวเลขการค้าระหว่างไทยกับยูเออี 7.3 แสนล้านบาท โตถึง 74% ยอดการส่งออกไทยส่งออกมายูเออี 1.18 แสนล้านบาท โตขึ้น 22.19% ถือเป็นตลาดอันดับหนึ่งของไทยในตะวันออกกลาง
สินค้าที่ส่งออกมาลำดับต้น เช่น รถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องปรับอากาศและอุปกรณ์ อัญมณี โทรสาร โทรศัพท์ ไม้ผลิตภัณฑ์จากไม้ ผลิตภัณฑ์ยางโดยเฉพาะยางรถยนต์ที่ผลิตจากยางพารา อาหารทะเลกระป๋องอาหารทะเลแปรรูป เป็นต้น