นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ต้องการให้ภาครัฐโดยกระทรวงการคลังขยายมาตรการลดภาษีสรรพสามิตดีเซล 5 บาทต่อลิตร ที่จะสิ้นสุดวันที่ 22 มกราคม 2566 ต่อไปอีกอย่างน้อย 2-3 เดือน เพื่อดูแลราคาดีเซลขายปลีกไม่เกิน 35 บาทต่อลิตร
เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังคงอ่อนไหวจากปัจจัยต้นทุนของผู้ประกอบการที่เพิ่มขึ้นรอบด้านทั้งค่าไฟฟ้า ค่าแรงงานขั้นต่ำ ดอกเบี้ยที่แนวโน้มสูงต่อเนื่อง หากมีการเปลี่ยนแปลง โดยการปรับขึ้นราคาดีเซลเกินจากอัตรานี้จะกระทบต่อเศรษฐกิจ ภาพรวมทันที
นอกจากนี้ที่ผ่านมากลุ่มผู้ประกอบการรถบรรทุก แม้จะมีภาระหลายด้านเพิ่มขึ้น จากค่าครองชีพที่สูง แต่ได้พยายามรักษาระดับการแข่งขัน ไม่ได้ปรับขึ้นค่าขนส่งได้ครอบคลุมต้นทุนทั้งหมด
ขณะเดียวกันมีผู้ประกอบการบางรายที่มีช่องทางในการเข้าถึงกระบวนการจ่ายส่วย เพื่อทำให้การบรรทุกมีข้อได้เปรียบจากน้ำหนักที่สูงกว่ากฎหมายบังคับใช้ได้ยิ่งทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมต่อผู้ประกอบการรถบรรทุกที่ปฏิบัติตามกฎหมาย
" ปัญหาการจ่ายส่วยของรถบรรทุกต่อเจ้าหน้าที่รัฐบางราย สหพันธ์ได้ร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องแล้ว หวังว่าภาครัฐและทุกฝ่ายจะเร่งแก้ไข เพื่อไม่ให้กลายเป็นสองมาตรฐานและส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่เกิดการคอร์รัปชั่น "
นายธนิต โสรัตน์ ประธานกรรมการบริษัทในเครือวี-เซิร์ฟ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการด้านโลจิสติกส์ของไทย กล่าวว่า รัฐควรต่ออายุภาษีสรรพสามิตออกไปอีก 3 เดือน เพื่อตรึงราคาดีเซลไม่ให้เกิน 35 บาทต่อลิตร เนื่องจากขณะนี้ราคาน้ำมันตลาดโลกเริ่มอ่อนตัวลงแล้ว ประกอบกับเศรษฐกิจไทยเพิ่งฟื้นตัวจำเป็นต้องได้รับการดูแล เพื่อไม่ให้สะดุด
" ราคาน้ำมันดีเซลควรจะต่ำกว่าเบนซิน แต่ขณะนี้ดีเซลเริ่มสูงกว่าเบนซินบางชนิดแล้ว แต่เข้าใจว่าที่ผ่านมากองทุนน้ำมันฯยังมีหนี้สูง ดังนั้นหากราคาดีเซลไม่ลดลงก็ไม่ควรจะสูงเกิน 35 บาทต่อลิตร เพราะจะไปกดดันค่าขนส่งให้ปรับขึ้นและสะท้อนกลับไปยังราคาสินค้าให้สูงขึ้นตาม"