นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. เปิดเผยว่า ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2566 นี้สิ่งที่ต้องเร่งทำ 3 เรื่อง คือ การเพิ่มจำนวนเที่ยวบินให้ได้อย่างน้อย 80% ของจำนวนเที่ยวบินทั้งหมด , เพิ่มความถี่ให้เต็มศักยภาพรองรับในช่วงฤดูท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ต้องทำให้อัตราการบรรทุกที่นั่งได้ 90%
รวมทั้งวางแผนการตลาดสร้างแบรนด์ไทยให้ติดตลาดทั่วโลก โดยเบื้องต้น ทางการจีนได้ขอจำนวนเที่ยวบินจากกรมการบินพลเรือนไปแล้ว เพื่อจะเร่งวางแผนเพิ่มความถี่ และ อัตราการบรรทุกให้กลับมาเท่ากับช่วงก่อนโควิด-19
สำหรับเป้าหมายรายได้ของท่องเที่ยวปี 2566 คาดว่าจะให้กลับมาในอัตรา 80% ของปี 2562 โดยจะเน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ ใช้จ่ายสูง และจะหามาตรการจูงใจให้นักท่องเที่ยวพำนักในไทยนานขึ้น โดยททท. จะเสนอให้ขยายการขอ Visa on Arrival ให้พำนักในไทยได้ถึงสิ้นปี จากปัจจุบันที่ 30 วัน เพื่อผลักดันให้รายได้รวมสูงสุด 2.38 ล้านล้านบาท จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 25 ล้านคน
นายยุทธศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนตลาดไทยเที่ยวไทย ยืนยันว่า ยังมีโครงการเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 คาดหวังว่า ครม.จะอนุมัติโครงการเร็วๆนี้ เพื่อผลักดันให้รายได้ตลาดไทยเที่ยวไทยแตะ 1 ล้านล้านบาท มีการเดินทาง 250 ล้านคน-ครั้ง
สำหรับแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวในปี 2566 ททท.วางแผนขับเคลื่อนการตลาดกระตุ้นท่องเที่ยว ผ่านนโนบยาย Visit Thailand Year 2023 : Amazing New Chapters” วางแผนจะใช้พลังจาก Soft Power การท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ จะทำให้มั่นใจว่าการท่องเที่ยวไทย จะฟื้นตัวตามเป้าหมาย ทั้งในแง่รายได้และการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ