svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ตรวจแถวการเมือง

"ประยุทธ์"แทงกั๊กทอดไมตรี"พปชร."ซ่อนใจ"รวมไทยสร้างชาติ"ได้ไม่คุ้มเสีย

29 พฤศจิกายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ท่าที"พล.อ.ประยุทธ์" ที่ยังไม่ตอบชัดจะเข้าร่วม"รวมไทยสร้างชาติ"เมื่อใด แต่กลับเปิดบ้านพักในค่ายทหาร เช็ก ชื่อเหล่า"บิ๊กเนม"เตรียมลุยสนามเลือกตั้งด้วยกัน ยุทธศาสตร์แทงกั๊กซื้อเวลา ได้หรือเสียมากกว่ากัน

 

นาทีนี้ ชัดเจนแล้วว่า "บิ๊กตู่"  พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา ไม่ยอมลงจากหลังเสือเสียที แถมกำลังจะย้ายจากพลังประชารัฐไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ  วันก่อน "ทีมข่าวเนชั่น" เสนอข่าวว่า "พล.อ.ประยุทธ์" ไปเขียนใบสมัครสมาชิกพรรคแล้ว   

 

พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม

 

ตามฤกษ์ย้ายพรรควันที่ 21 พ.ย.65 ซึ่งเป็น "ราชาฤกษ์" แต่ชัดเจนว่ายังติดปัญหาข้อกฎหมายและมารยาททางการเมือง  จึงเปิดเผยต่อสาธารณะไม่ได้  ทว่า ทางพรรครวมไทยสร้างชาติ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และเป็นเฟคนิวส์  แต่ข้อมูลข่าวสารที่ออกมาล่าสุดจนถึงวันนี้ ดูๆ แล้วสิ่งที่ "พล.อ.ประยุทธ์" ทำกับ "พรรครวมไทยสร้างชาติ" จะไปไกลกว่าที่สื่อรายงานเอาไว้เสียอีก 

 

อย่างเช่น คำให้สัมภาษณ์แบบ "แมนๆ" ของ "พยม พรหมเพชร" ส.ส. จากสงขลา พลังประชารัฐ ที่เปิดหมดเปลือกว่า วงประชุมเช็คชื่อที่บ้านนายกฯ ซึ่งเป็น "บ้านพักในกรมทหาร" เมื่อค่ำวันที่ 24 พ.ย.65 เกิดอะไรขึ้นบ้าง 

 

พยม พรหมเพชร ส.ส.สงขลา พรรคพลังประชารัฐ

 

1."นายกฯประยุทธ์" นั่งหัวโต๊ะ โดยมีแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติไปกันพร้อมหน้า ทั้ง "นายพีระพันธุ์  สาลีรัฐวิภาค" หัวหน้าพรรค "ขิง" เอกนัฏ พร้อมพันธุ์" เลขาธิการพรรค และ"นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี"  อดีตแกนนำรุ่นลายครามของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ปรึกษานายกฯด้านเศรษฐกิจ 

 

ก่อนหน้านี้ "นายพีระพันธุ์" ให้สัมภาษณ์กับ"เนชั่นทีวีออนไลน์" บอกว่า ไม่เคยเจอหน้า "นายไตรรงค์" ไม่ได้คุยกัน ไม่รู้ว่า ลาออกจากประชาธิปัตย์ มาอยู่ "พรรครวมไทยสร้างชาติ" หรือเปล่า  แสดงว่าที่ไปพบกันที่บ้านพักของนายกฯในกรมทหาร น่าจะเจอกันครั้งแรก หรือเจอกันในนามที่ปรึกษานายกฯด้วยกัน ไม่ได้คุยกันเรื่องการเมือง หรือเรื่องการตั้งพรรค (นายพีระพันธุ์เคยให้สัมภาษณ์ว่า เจอนายกฯ ไม่คุยเรื่องการเมือง คุยแต่เรื่องงาน เรื่องงานเมือง) 

 

พรรครวมไทยสร้างชาติ ย่านซอยอารีย์ 5  พหลโยธิน กทม.

 

2.ส.ส.ที่ไปเช็คชื่อ ประกอบด้วย 

 

-สงขลา พลังประชารัฐ ไปทั้งหมด 3 คน ( มี ส.ส. 3 คนจาก 8 คน จากการเลือกตั้งปี 62) 

 

-ปัตตานี 1 คน คือ คุณอนุมัติ ซูสารอ จริงๆ อยู่พรรคประชาชาติ แต่โดนพลังประชารัฐดูด และล่าสุด โดนพรรคใหม่บิ๊กตู่ ดูดต่อมาอีก 

 

-ส.ส.กทม. 1-2 คน + ผู้สนับสนุน มีทั้งรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่  

 

-เวลาใกล้เคียงกันยังมี ส.ส.กลุ่มเพื่อนเฮ้ง นำโดย "นายสุชาติ ชมกลิ่น" อยู่อีกห้องหนึ่ง 

 

-นายกฯบอกในวงพบปะค่ำวันนั้นว่า  "เรามาทำงานร่วมกัน อาศัยกำลังพวกเราช่วยกันทำงาน"

 

ความหมายคือ โอกาสต่อไป เลือกตั้งสมัยหน้า มาร่วมงานกับนายกฯ ซึ่งชัดเจน ทุกคนเข้าใจตรงกันว่าหมายถึงไปพรรครวมไทยสร้างชาติ 

 

"ส.ส.พยม" ออกตัวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ความลับ มันต้องเปิดเผย ไปก็ไป พูดกันตรงไปตรง (แมนกว่าใครบางคนหรือไม่?) 

 

- สาเหตุที่ตัดสินใจตาม "ลุงตู่" ทั้งๆที่ยังรักและเคารพ "ลุงป้อม" ก็คือ กระแส "ลุงตู่" มีมากมายในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะที่สงขลา คนใต้ให้ความรัก เคารพ ลุงตู่มากมาย ไม่ว่าอาชีพใด นักธุรกิจ เกษตรกร จึงจำเป็นต้องย้ายตาม 

 

ท่ามกลางข่าวที่ คอการเมือง จับจ้องเรื่องการ "ย้ายพรรค - แยกบ้าน" และ "ดึง - ดูด - เด้งรับ" ของพรรคพี่พรรคน้อง (ทั้งรวมไทยสร้างชาติ กับพลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ กับประชาธิปัตย์) ปรากฏว่ามีคำถามย้อนศรกลับไปถึงนายกฯเหมือนกันว่า สิ่งที่ทำอยู่นี้ ดี-เหมาะสม-และเป็นสุภาพทางการเมืองแล้วแน่หรือ

 

นี่คือเสียงวิจารณ์ที่เรารวบรวมมาจากฝ่ายที่เห็นต่างจาก "พล.อ.ประยุทธ์" และบางส่วนเคยสนับสนุน "พล.อ.ประยุทธ์" ทั้งในสื่อสังคมออนไลน์ และจากการสอบถามความเห็นโดยตรง 

 

1.ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา สังคมเห็นแต่ข่าวนายกฯ เดินเกมการเมือง ทำกิจกรรมการเมืองเชิงสัญลักษณ์ เตรียมไปอยู่พรรคการเมืองใหม่ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อสานต่อเส้นทางการสืบทอดอำนาจของท่านต่อไป 

 

แม้จะเป็นสิทธิของ"พล.อ.ประยุทธ์" ที่จะทำได้ แต่แฟนคลับ อดีตแฟนคลับ และฝ่ายที่เห็นต่างบางส่วนก็เสนอให้พล.อ.ประยุทธ์  "พอได้แล้ว" เหมือนกับที่อดีตประธานองคมนตรี และอดีตนายกฯ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เคยหล่นวาจา "ผมพอแล้ว" เพราะได้ดำรงตำแหน่งนายกฯมานานเกิน 8  ปี แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะอ้างว่าเป็นนายกฯแบบ "ตัดตอน" ไม่ต่อเนื่องกัน แต่ชาวบ้านร้านตลาดทั้งประเทศก็รู้ก็เห็นว่าเป็นนายกฯมาต่อเนื่อง ไม่เคยหยุดแม้แต่วันเดียว

 

การไปต่อ นอกจากจะสุ่มเสี่ยงท้าทายเรื่องการใช้ช่องโหว่กฎหมายในการสืบทอดอำนาจต่อไปแล้ว (เหมือนกรณี 8 ปี) ยังทำให้หลายคนกังวลว่า หากกลับมามีอำนาจอีกรอบ จะมีการใช้แท็กติกยื่นตีความใหม่ ว่าระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกฯของตัวเอง ยังไม่ครบ 8 ปี เพราะไม่ได้เริ่มนับเมื่อปี 2560 หรือไม่ 

 

2. จู่ๆ "พล.อ.ประยุทธ์" ก็ลงพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ เปิดงาน แจกเงินที่ซ้ำซ้อนกับงาน "ประกันรายได้" ของกระทรวงพาณิชย์ อันเป็นนโยบายชูโรงของพรรคประชาธิปัตย์  ทั้งจะเดินหน้าทำกิจกรรมคล้ายๆ กัน ต่อเนื่องที่ จ.เชียงราย วันพุธนี้( 30 พฤศจิกายน )  แม้จะไม่มีกำหนดการแจกงบ แจกเงินก็ตาม 

 

3.ลงพื้นที่เพชรบูรณ์ก็มีข่าวดึงกลุ่ม "มะขามหวาน" ของ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เข้าสังกัดพรรคใหม่ โดยอาศัยจังหวะช่วงที่ "บิ๊กป้อม" เดินทางไปราชการที่กัมพูชา 

 

4.ตกค่ำกลับจากเพชรบูรณ์ ก็เปิดบ้านในค่ายทหาร เช็คชื่อ โชว์ตัว ส.ส.จากพรรคอื่นที่จะตามไปพรรคใหม่ ส่วนใหญ่เป็น ส.ส.พลังประชารัฐ 

 

5.บ้านหลังนี้อยู่ในกรมทหาร เป็นบ้านที่สร้างจากภาษีประชาชน ให้อยู่ในฐานะอดีตผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพที่ทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศ ฉะนั้นจึงควรพึงระวังการใช้ในทางส่วนตัว หรือผลประโยชน์ทางการเมือง เพื่อสนองอำนาจของตัวนายกฯ เอง 

 

6. วันนี้ "พล.อ.ประยุทธ์" ยังเป็นแคนดิเดตนายกฯ ในโควต้าของพลังประชารัฐ แต่กำลังเปิดปฏิบัติการ "ดูด - ดึง" (หรืออาจจะมีวิธีการอื่นที่มากกว่านั้น แต่พูดออกมาไม่ได้ ) ส.ส.พรรคพลังประชารัฐที่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ให้ไปอยู่กับพรรคใหม่ที่ตั้งขึ้น  แต่เมื่อนักข่าวสอบถามทั้ง"พล.อ.ประยุทธ์" และแกนนำพรรคใหม่ที่เกี่ยวข้อง พากันพลิ้ว ตอบเลี่ยงๆ ว่ายังไม่มีอะไร หรือไม่ก็กล่าวหาว่าข่าวที่ว่าเป็นเฟคนิวส์ 

 

การกระทำแบบนี้ ถือว่าสง่างามทางการเมือง และเคารพกติกามารยาททางการเมืองหรือไม่ อย่างไร 

 

7. "บิ๊กตู่"  เป็นแคนดิเดตนายกฯของพลังประชารัฐ ถ้าคิดจะเปลี่ยนพรรค และเป็นช่วงปลายสมัยของสภาแล้ว ก็ควรยุบสภา ลาออกอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ไปเปิดตัว เปิดตำแหน่ง ชักชวนกันย้ายพรรคให้ชัดเจน เปิดเผย ภายใต้กรอบเวลาที่เท่าเทียมกับคนอื่น คือ ยุบสภา ต้องสังกัดพรรคภายใน  30 วันหรือไม่ แต่การที่นายกฯเลือกทำแบบนี้ เหมือนเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นอยู่หรือไม่ 


8. สาเหตุที่นายกฯ ยังไม่เปิดตัว เปิดหน้าให้ชัดเจน แบบแมนๆ เป็นที่ทราบกันดีว่า ยังไม่มั่นใจว่าจะรวมเสียง ส.ส.ได้ในระดับที่จะกลับมาเป็นแกนนำรัฐบาลอีกรอบ หรือซ้ำร้าย อาจจะไม่ชัวร์ว่า พรรคใหม่จะได้เกิน 25 เสียง เพื่อเสนอชื่อแคนดิเดตให้โหวตเลือกนายกฯกันในสภาได้หรือไม่ 

 

คำถามคือ ถ้าสุดท้ายพล.อ.ประยุทธ์  รวมเสียงไม่ได้แล้วถอย หรือวางมือ บรรดา ส.ส. อดีต ส.ส. ว่าที่ผู้สมัครที่ย้ายพรรคไปจะทำอย่างไร โดนลอยแพหรือเปล่า
 

logoline