ไม่ใช่เรื่องใหม่ของ"พรรคเพื่อไทย"ในการที่มี "แพทองธาร ชินวัตร"เป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยเเละล่าสุด"โอ๊ค" พานทองเเท้ ชินวัตร ทำหน้าทึ่ที่ปรึกษาศูนยปฏิบัติการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย โดย"อุ๊งอิ๊งค์"สวมหมวกเพิ่มอีกใบในหน้าที่เดียวกับ"โอ๊ค"
เเต่ลูกสาวคนเล็กของคนเเดนไกลยังมีชื่อตามกระเเสข่าวว่า "แพทองธาร"เป็นหนึ่งในสามเเคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของเพื่อไทยร่วมกับ"เศรษฐา ทวีสิน" เเม้เจ้าตัวจะออกมาระบุว่ามติพรรคยังไม่เคาะเรื่องนี้ก็ตาม
เเต่มิใช่เรื่องผิดคาดเพราะคอการเมืองรู้นานเเล้วว่า"ชินวัตรเเฟมิลี่รุ่นสี่" ต้องนำธงเพื่อไทยกลับมาชนะเลือกตั้งบนภารกิจ"เพื่อไทยเเลนด์สไลด์"เเละเพื่อไทย 250 พลัส ด้วยการลุยฟื้นเศรษฐกิจ/แก้รัฐธรรมนูญด้วยสสร./ตัดสิทธิสว.ไม่ให้โหวตเลือกสร.1/นิรโทษกรรมคดีการเมืองเเละคดีมาตรา112
เเม้โพลล์ต่างๆชึ้ว่า"เพื่อไทย"คือเต็งหนึ่งในการชนะเลือกตั้ง เเละพื้นที่หลัก คือภาคเหนือ/อีสานกระเเสพรรคเเละบุคคลของเพื่อไทยยังติดลมบน เเต่ภาคกลาง/ใต้/กทม.นั้น บอกตรงๆพรรคเพื่อไทยยังเหนื่อยเเม้เพิ่งจะวางขุนพลไว้ลุยเเล้วก็ตาม เพราะอย่าลืมว่าทุกพรรคต่างหวัง 500 ส.ส.ให้มากสุด เเละหลายพื้นที่คนวงในเพื่อไทยยอมรับว่า ขอคะเเนนปาร์ตี้ลิสต์ให้มากก็พอ
ดังนั้น ตัวเลข 220 ส.ส.สองระบบคือราคากลางที่คนวงในเพื่อไทยพอใจที่จะเเตะอันดับหนึ่ง โดยพรรคอันดับสองไม่กล้าตั้งรัฐบาลเเข่งขัน เเละหากเเตะ 250 ส.ส.คือฝันที่ทะลุเป้าเพื่อเบรกอำนาจ 250 ส.ว.ที่ต้องยอมโหวตรับนายกฯตามที่พรรคเพื่อไทยชงชื่อชึ้นไป
อีกเหตุผลหนึ่งที่ตอนนี้การเเพลมชื่อ"อุ๊งอิ๊งค์" เป็นเเคนดิเดตนายกฯนั้น นัยว่าเป็นการโยนหินถามทางอีกฝั่งด้วยว่า เเฮปปี้กับสูตรนี้ของคนเเดนไกลหรือไม่ เเละเป็นการสื่อความกับเเฟนพันธุ์เเท้ว่าเพื่อไทยเเละคนเเดนไกลยังไม่ทอดทิ้งเพราะหากไม่มีทายาทสายตรงคนเเดนไกลมานำทัพในคราวนี้ ยากที่จะให้ภาวะฝันของเพื่อไทยบังเกิด
คนเเดนไกลรวมทั้งคนเเวดล้อมอ่านกระเเสออกว่าการเมืองโลกเเละไทยยามนี้ จำเป็นต้องเข็นคนรุ่นใหม่ที่ชั่วโมงบินการเมืองยังไม่พอเพียง ดั่งเช่น"แพทองธาร" มานำทัพเพื่อดึงเเต้มคนรุ่นใหม่เเละฐานเก่ามิให้เเปรใจไปเลือกพรรคคู่เเข่งในระนาบเดียวกันที่ชื่อ"พรรคก้าวไกล" ส่วน"เศรษฐา ทวีสิน" ไว้เรียกเเต้มกับชนชั้นกลาง/นักธุรกิจ/ชนชั้นนำว่า อย่างน้อยคนที่มีชั่วโมงบินทางธุรกิจเเละวัยวุฒิเพียงพอก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกสร.1ของเพื่อไทยที่นำเสนอต่อสังคมเช่นกัน
เเต่ภาพจำตอนนี้ของหลายฝ่ายคือทายาทของคนเเดนไกลมานำเพื่อไทยคราวนี้ย่อมหนีไม่พ้น ความพยายามหาทางช่วยคุณพ่อกลับบ้านเเบบเท่ๆเเบบปลอดคดีอย่างไรมากกว่ามาข่วยชาติ
เรื่องนี้ทายาท"คนเเดนไกล"ต้องตอบสังคมดีๆว่า หากวันหน้าได้รับสิทธิบริหารบ้านเมืองเเล้วจะไม่ใช้ทุกหนทางเคลียร์รันเวย์พาคุณพ่อ/คุณอากลับบ้านเเบบไร้มลทิน เพราะหากทายาทคนแดนไกลขยับเเบบนั้น ในวันข้างหน้า ความขัดเเย้งในสังคมจะก่อเกิดเเละวังวนการล้มระบอบประชาธิปไตยอาจฟื้นตัวจนอีกฝ่ายหยิบไปใช้เพื่อโจมตีฝ่ายอื่นๆเเบบขยายวงไม่เลิก