
คำขวัญประจำตัวของ "เชษฐบุรุษ" พลเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา อดีตนายกรัฐมนตรีผู้ล่วงลับ ระบุว่า "ชาติเสือต้องไว้ลาย ชาติชายต้องไว้ชื่อ" กลายเป็นหนึ่งในคำขวัญของนายทหารไทยแทบทุกชีวิตยึดมั่นเป็นหลักชัยในการทำงาน
แม้คนในแวดวงความมั่นคงในวันวาน ได้ผันตัวมาทำหน้าที่นักการเมือง แต่คำขวัญข้างต้น ของ "พลเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา" เชื่อว่า ขุนพล -แม่ทัพ- นายกอง ยังยึดไว้เป็นอมตะวาจาในการทำหน้าที่ต่างๆ หลังว่างเว้นงานราชการตราบจนสิ้นลมหายใจ
เมื่อฉายภาพมาที่หน้ากระดานการเมืองรัฐบาล ภายใต้การนำของ "แพทองธาร ชินวัตร" นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ที่ยังอยู่ภาวะ "ลูกผีลูกคน" แม้เสียงสนับสนุนของ "ครม.อิ๊งค์1" เกินครึ่งของสภาผู้แทนราษฎร( สส. 330 เสียง ที่ยังพิสูจน์ไม่ได้แน่ชัดว่า มาจากพรรคใดบ้างในตอนนี้ ) ก็ตาม แต่ความชุลมุนของการฟอร์มครม.ชุดนี้บังเกิดขึ้นท่ามกลางความท้าทายการเผชิญหน้า ถูกตรวจสอบ "ขัดหลักจริยธรรมนักการเมือง" หรือไม่ ซึ่งประเด็นสำคัญนี้เองที่ทำให้เศรษฐา ทวีสิน "นายกฯ คนที่ 30" ต้องพ้นวงจรการเมืองไปทันที
อย่าลืมว่า คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าการตั้ง "พิชิต ชื่นบาน" เป็นรมต.สำนักนายกรัฐมนตรี มีผลไปถึง"อดีตนายกฯเศรษฐา " ขาดหลักจริยธรรม ยอมให้บุคคลภายนอกแทรกแซงและชี้นำ วิญญูชนพึงเห็นได้ในการคบคน
ขีดเส้นใต้ตัวหนาจากคำวินิจฉัยศาลรธน.ข้างต้น "ยอมให้บุคคลภายนอกแทรกแซงและชี้นำ" หากขยายความประโยคดังกล่าว คนนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้ สาธารณชนรับรู้ทั่วบ้านทั่วเมือง บุคคลท่านนั้น คือ ผู้ที่ระบุว่า "ผมมิใช่ผู้ครอบงำ แต่เป็นผู้ครอบครองสร.1คนปัจจุบันในฐานะบิดา" ( อดีตประมุขฝ่ายบริหารในปี 2544 - 49 รวมทั้งอดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย /ผู้นำจิตวิญญาณของพรรคพลังประชาชนในวันวานที่วันนี้แปรเป็นพรรคเพื่อไทย)
เป็นที่ทราบโดยทั่วกัน อดีตนายกฯคนที่ 26 คือ "ดีล เมกเกอร์" ตัวจริงในการกำหนดทิศทางประเทศผ่านครม./สภาผู้แทนฯในฝั่งรัฐบาล และอาจเป็นผู้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่า "พรรคใด/ใครบ้าง ควรเป็นรัฐมนตรีในวันข้างหน้า" ฉะนั้นมิอาจละเลยข้อกฎหมายและคำวินิจฉัยล่าสุดของศาลรัฐธรรมนูญที่ผูกพันทุกองค์กร
สังคมรู้แล้วว่า การเปิดหน้าของนายใหญ่จันทร์ส่องหล้าที่ปะทะกับหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ "พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ" ที่มี 40 สส.ร่วมรัฐบาลนั้นเข้มข้นเพียงใด แม้ตอนนี้ "ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า" สส.พะเยาและเลขาธิการพรรคพปชร.ยืนยันแยกทางกับพรรคไปแล้ว
ชนวนร้อนความแค้นเคือง อันเป็นผลมาจาก "พี่ใหญ่ค่ายบูรพาพยัคฆ์" บอกสื่อไปหลายวันก่อนว่า "เพื่อไทยไม่เอาผู้กองเป็นรมต.กับ ครม.ชุดใหม่" โดยข้อเท็จจริงนี้ ตามที่"ลุงป้อม"เผยกับสื่อในหลายวันก่อนนั้น เชื่อว่า "ลุงป้อม"และสังคมรับรู้ว่า"ผู้กองกว๊านพะเยา"มีแผลหลายจุด
มีหรือที่คนในพท.จะไม่รู้ และยังเป็นการถกหารือด้วยมีเสียงเล็ดลอดออกมาว่า "ลำบากแน่หากเลือก ผู้กองคนนี้ร่วมรัฐบาลของ แพทองธาร เพราะสร.1อาจโดนข้อหาเดียวกับอดีตนายกฯเศรษฐา"
ย้อนปูมหลังกันสักหน่อย จำกันได้หรือไม่ "ผู้กองกว๊านพะเยา" เคยขอไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย หลังโดนมาตรา 170 แห่งรัฐธรรมนูญพ้นครม.ชุดที่แล้ว โดยวันนั้นพท. "ปิดประตูไม่รับ" จนทำให้ผู้กองกว๊านพะเยาไปตั้งพรรคเศรษฐกิจไทยและต่อมา ยอมสลายตัวมาร่วมงานกับพปชร.อีกครั้ง เพราะไปไม่รอด...โดยที่"ลุงป้อม"ให้โอกาสคัมแบ็กรังเก่า
ทว่า สถานการณ์ปัจจุบัน "ลุงป้อม"กับ" ร้อยเอกธรรมนัส" แยกทางกันชัดแจ้งแล้ว อีกทั้งหากเจาะแผนสองของ"ผู้กอง"ที่ยื่นดีลลับไว้กับพท.ว่า หากผู้กองคนนี้ไม่ได้คัมแบ็กเป็นรมต.งวดนี้ ก็มีตัวสำรองเตรียมไว้ให้แล้ว คือ "อัครา พรหมเผ่า" อดีตนายกอบจ.พะเยาและสมาชิกพรรคเพื่อไทย รวมทั้ง "นฤมล ภิญโญสินวัฒน์" ผู้แทนการค้าไทย/ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม ( อดีตพรรคเศรษฐกิจไทย) จะมาสวมตำแหน่ง รมว.เกษตรและสหกรณ์แทน "ร้อยเอกธรรมนัส" บวกกับ "อรรถกร ศิริลัทธยากร" ยังควบรมช.เกษตรฯต่อไป แต่สองเก้าอี้ของพปชร.ที่เหลือนั้น มีการยืนยันจากปีกผู้กองคนดังแล้วว่า จะแบ่งให้"พรรคประชาธิปัตย์" คว้าไป คือ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯและรมช.สาธารณสุข ซึ่งทราบกันว่าคนใหญ่แห่งพท.ยอมรับเงื่อนไขดังกล่าวของ"ร้อยเอกธรรมนัส"บนเหตุผล ต้องไม่มี "วงษ์สุวรรณ" ในครม.แพทองธาร
แต่การเมืองไทยบนกระแสที่ยังอื้ออึงต่อการขัดเกลาจริยธรรมนักการเมือง จึงกลายเป็นกฎเหล็กไปถึง ผู้นำหญิงคนใหม่ ควรยึดหลักกฎหมาย/จริยธรรมไว้เป็นที่ตั้ง เพราะศาลรัฐธรรมนูญวางมาตรฐานใหม่ทางการเมืองไว้แล้ว ซึ่งทุกคนต้องยึดปฏิบัติ ทำให้เซียนการเมืองอ่านออกแล้วว่า "ผู้ครอบครองสร.1" คนปัจจุบันเดินหมากการเมืองเช่นใดและอาจไม่คำนึงผลกระทบที่จะตามมาในเวลาอันใกล้ที่เกี่ยวพันกับ"แพทองธาร" แบบเลี่ยงไม่ได้ ขอเพียงว่าคู่แข่งขันในวันวานต้องสยบยอมทุกกรณี และใครที่ไม่ชอบหน้ากันก็ต่างคนต่างอยู่ ...การทำงานการเมืองนั้น หากเอาแต่อารมณ์เป็นที่ตั้ง เมื่อคิดการใหญ่อาจจะลำบากในวันหน้า
ขณะเดียวกัน หมากเกมที่"ลุงป้อม" วางไว้ด้วยการย้อนศร สังคมทราบแล้วว่า "พลเอกประวิตร"ยังยึดมติพรรค (ที่ยึดโยงจากกฎหมายพรรคการเมืองและรัฐธรรมนูญ ) ในการร่วมรัฐบาล ซึ่งเป็นไปตามที่ "พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย" โฆษกพรรคพลังประชารัฐ แถลงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค( 23 สิงหาคม 2567) โดยมีคณะกรรมการบริหารพรรค จำนวน 12 คน จากจำนวนทั้งหมด 19 คน ถือว่าเกินกว่ากึ่งหนึ่งครบองค์ประชุมตามระเบียบข้อบังคับพรรค( กรรมการบริหารพรรคหกคน สายร้อยเอกธรรมนัสไม่ร่วมประชุม)ว่า
"ที่ประชุมยืนยันการเข้าร่วมรัฐบาลและมีการเสนอชื่อบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรค ตามที่มีข้อตกลงกับพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำการจัดตั้งรัฐบาล โดยที่ประชุมได้แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบการประชุมสภาผู้แทนฯเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ที่พรรคพลังประชารัฐมีมติเห็นชอบ ให้หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 โดยที่ 40 สส. พรรคพลังประชารัฐยกมือให้ทั้งหมดโดยการเสนอรายชื่อผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีตามโควตาของพรรค หัวหน้าพรรคเสนอรายชื่อ 4 คน ผ่านไปยังเลขาธิการนายกรัฐมนตรีแล้ว เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม และที่ประชุมกรรมการบริหารพรรควันนี้มีมติเสนอชื่อบุคคลดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคือ 1. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ดำรงตำแหน่ง รมว.เกษตรและสหกรณ์ 3. นายสันติ พร้อมพัฒน์ ดำรงตำแหน่ง รมช.สาธารณสุข 4. นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ดำรงตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์
"หากมีบุคคลตามรายชื่อท่านหนึ่งท่านใดขาดคุณสมบัติหรือมีความไม่เหมาะสม ขอให้พรรคเพื่อไทยแจ้งกลับมายังพรรคพลังประชารัฐเพื่อรับทราบ ที่ประชุมมอบอำนาจให้กรรมการบริหารพรรคพิจารณาบุคคลอื่นที่มีความเหมาะสม กรณีรายชื่อเดิมที่ส่งไปมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ เพื่อดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี และเสนอรายชื่อผ่านหัวหน้ารัฐบาลได้ตามความเหมาะสม" พล.ต.ท.ปิยะ กล่าว
เกมนี้เสือเฒ่าแห่งภาคตะวันออกเดินหมากการเมืองโดยยึดข้อกฎหมายและวิถีปฏิบัติทางการเมืองเป็นที่ตั้ง สวนจังหวะการเมืองที่ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเพื่อไทยวางไว้
สมมติว่า หากชายวัย 75 ปี ยังจะแหกโผ โดยแบ่งพปชร.-ปชป.ร่วมครม.อิ๊งค์1 เเบบแยกส่วน ( ดึงสส.สายร้อยเอกธรรมนัสมาร่วมครม.สามตำแหน่งและหั่นโควต้ารมต.สองเก้าอี้ให้พรรคสีฟ้า โดยปล่อยให้สส.สายพลเอกประวิตรและสส.ปชป.สี่คนสายชวน หลีกภัยไว้นอกวง)นั้น
ถามว่า... ความสง่างามบนถนนประชาธิปไตยจะบังเกิดกับครม.อิ๊งค์1 หรือ...ข้อหา "กองทัพงูเห่าบนถนนการเมือง"จะบังเกิดเป็นรอยแผลบนเส้นทางชีวิตการเมืองของแพทองธารทันที
หากมองแนวทางของ"ลุงป้อม"และ มติพรรคพปชร.บวกความเห็นรวมทั้งจุดยืนทางการเมืองของ "นายหัวชวน" ด้วยใจเป็นธรรมนั้น..วิญญูชน จะพบว่า เกมนี้"ลุงป้อม"และ"นายหัวชวน"ยืนบนหลักกฎหมายและธรรมเนียมปฏิบัติที่เกิดขึ้นจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ชัดเจน
ต้องถามกลับไปว่าเกมการเมืองตอนนี้ “ใครกันแน่แหกโผ...และไม่เคารพกติกา“
วันนี้คำร้องให้ยุบพรรคเพื่อไทยตามที่บุคคลลี้ลับยื่นต่อกกต.ไว้แล้วเมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา ปรากฏข่าวสารโดยทั่วว่า บิดาของสร.1 คนปัจจุบันชี้นำแทรกแซงพรรคการเมืองโดยชัดแจ้ง "กำลังสำแดงอิทธิฤทธิ์" ที่น่าจะสร้างความกังวลใจขั้นสูงสุดของนายกฯคนปัจจุบันและหัวหน้าพรรคเพื่อไทยอย่างปฏิเสธไม่ได้
เผือกร้อนและกรรมบนวิถีการเมืองนั้นตอนนี้อยู่ในมือแพทองธาร ชินวัตรที่จะลิขิตและต่อสู้บนเส้นทางการเมืองอย่างไร น่าพินิจ
เเม้วันนี้นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯรัฐมนตรี จะเเจ้งว่า บางพรรคยังไม่ส่งรายชื่อว่าที่รมต.มาให้...เเต่เหตุนี้อาจเป็นเกมที่ใครบางคนในพท.ย้ำไว้ในวงลับเเต่หลุดมาให้ได้ยินนานเเล้วว่าไม่มี"วงษ์สุวรรณ"ใน"ครม.อิ๊งค์1"/ดึงปชป.มาร่วมให้ได้เพื่อย้ำเเผลคนเมืองตรังให้จดจำ
ล่าสุด "พปชร." โดย "ไพบูลย์ นิติตะวัน" รองหัวหน้าพรรคส่งหนังสือถึงสร.1ว่า ทำไมไม่ส่งเอกสารให้"ลุงป๊อด"กรอกประวัติ...
สอดรับกับ"พรรคสีฟ้า"ที่ยังรอเทียบเชิญจาก"เพื่อไทย" เพราะข้อบังคับพรรคปชป. ระบุว่า ต้องนำเข้าที่ประชุมพรรคเพื่อลงมติ เเละเคสนี้สอดรับว่า ครม.คราวนี้ไม่มีน้องชาย"ลุงป้อม"ใน "ครม.อิ๊งค์1" ตามสิ่งที่ใครบางคนในพท.เคยระบุไว้
เเบบนี้ใครบางคนที่มีบารมีสูงกว่าสร.1 อาจเป็นคนวางเเผนหักบ้านป่ารอยต่อฯ - ขยี้ปชป.ของ"นายหัวชวน"ให้ราบ..
เเต่กรรมทั้งหมดนั้น สร.1คนปัจจุบันต้องตอบสังคมว่าทำไมเลือกเส้นทางนี้เเละการมีกองทัพงูเห่าจากการเเบ่งเเยกสองพรรคคือปชป./พปชร.เป็นสองขั้วสองค่ายนั้น
ความสง่างามทางการเมือง/การเคารพหลักประชาธิปไตยเเละเสียงประชาชนนั้น....
สร.1คนนี้จะอธิบายได้อย่างไรบ้าง
ควรจับตาว่า"เสือเฒ่าเเห่งบูรพาทิศ" กับ "คนการเมืองจากเเดนตรัง" จะใช้วิธีใดในการเเนะนำเเละสอนสั่งสร.1คนปัจจุบันเเละคนบงการหลังม่านที่บอกดังๆว่าไม่อาฆาต เเต่จำได้เเละควรลืมอดีตเพื่อเริ่มต้นใหม่นั้น
วิถีการเมืองของสร.1คนนี้จะโรยด้วยกลีบกุหลาบเเละคำสรรเสริญจากสังคมหรือไม่ เพราะหลายคนอ่านออกว่าสร.1เดินตามคำสั่งของอดีตสร.1บางคนจนอาจชนตอเเบบไม่รู้ตัว
การเมืองวันนี้/วันหน้าต้องรอติดตาม...ว่าจะออกมาเเบบใด?!?!