มาติดตามการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐอเมริกาใครครองเสียงข้างมากในสภา ผ่านมาสี่สัปดาห์ ยังสรุปผลไม่ได้ โดย"วุฒิสภา" รอผลการนับคะแนนอีกสามที่นั่งในรัฐ
ถ้า"อาริโซนา"และ"เนวาด้า"ได้เป็นของเดโมแครต เสียงข้างมากก็จะไม่เปลี่ยน การแข่งขัน run off 6 ธันวาที่รัฐจอร์เจียก็ไม่กดดันมาก แต่ก็ยังต้องทุ่มเท ( ครั้งที่แล้ว 2021 ใช้เงินกว่า 500 ล้านเหรียญในการเลือกตั้งรอบพิเศษ run offใน Georgia )
ตอนนี้"รัฐอริโซนา"เอียงไปทาง"เดโมแครต"มากขึ้น"เนวาดา"ยังดูไม่ออกขณะที่ "สภาผู้แทน" - เมื่อวานสำนักข่าวสองแห่ง NBC & Washington Post ประเมินให้"รีพับลิกัน"ได้ 221-224 ซึ่งเพียงพอแล้วที่จะคุมเสียงข้างมาก (ต้องการ 218) แต่วันนี้การประเมินกลับลดลงมาเหลือ 220
มีการนับคะแนนใน 30 เขตที่ยังดูไม่ออกชัดเจน รีพับลิกันต้องชนะ 10 เขตใน 30 เขตนี้จึงจะได้เสียงข้างมาก ตอนนี้รีพับลิกันจึงเป็นต่อในเรื่องสภาผู้แทน แต่คงอีกหลายวันหรือหลายสัปดาห์ โอกาสพลิกล็อคเป็นไปได้ เพราะหลายเขตที่คะแนนสูสีมากอยู่ฝั่งตะวันตก แนวโน้มแถวนั้นเป็นสีน้ำเงิน Democrat
ทำไมนับคะแนนช้ามาก?
อเมริกามี 50 รัฐ แต่ละรัฐมีกฎหมายการเลือกตั้งไม่เหมือนกัน บางรัฐอนุญาตให้เลือกตั้งทางไปรษณีย์ได้ บางรัฐมีตู้ให้หย่อน บางรัฐ สามารถจะเข้าแถวเลือกตั้งล่วงหน้าได้หลายสัปดาห์ บางรัฐต้องมาลงคะแนนเสียงเข้าแถวในวันนั้นวันเดียว
ยกตัวอย่าง เช่น "รัฐแคลิฟอร์เนีย" เจ้าหน้าที่จะต้องรอรับบัตรลงคะแนนเสียงที่ส่งมาทางไปรษณีย์ตีตราไม่เกินวันที่ 8 พย. และเจ้าหน้าที่ต้องรอเป็นเวลาเจ็ด (7) วันถึง 15 พย.
เมื่อได้รับทางไปรษณีย์แล้ว ก็ต้องตรวจว่าลายเซ็นและข้อมูลต่างๆถูกต้องหรือไม่ การตรวจใช้เวลามากเพราะประชากรของแคลิฟอร์เนียมากและปัจจุบันอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่มีน้อย มีผู้สังเกตการณ์คอยแย้งด้วย
"กฎหมายรัฐแคลิฟอร์เนีย"กำหนดไว้ว่าจะต้องยืนยันผลการเลือกตั้งภายในไม่เกินวันที่ 26 ธันวาคม
การเลือกตั้งในครั้งอื่นๆที่ผ่านมา คะแนนเสียงค่อนข้างจะเดาง่าย พอถึงเปอร์เซ็นต์ที่คิดว่ามั่นใจในผล และคงไม่มีการพลิกล็อค สื่อต่างๆก็จะสรุปการประเมินว่าพรรคใดชนะ
ปัจจุบันการเลือกตั้งในอเมริกาใช้งบประมาณสูง กลุ่มผลประโยชน์และกองเชียร์แต่ละฝ่ายทุ่มทรัพยากรมาก ใช้เทคโนโลยีการสื่อสารเข้าถึงตัวบุคคล มีการให้ข้อมูลทั้งจริงและเท็จจนถึงวินาทีสุดท้าย ทำให้การเลือกตั้งคาดเดายากกว่าแต่ก่อน
จึงสังเกตว่าครั้งนี้สื่อทั้งหลายจะรอจนวินาทีสุดท้าย เพราะเกรงว่าจะประเมินผิด และผู้บริโภคปัจจุบันติดตามข่าวตลอดเวลาทำให้พฤติกรรมของการสื่อข่าวก็เปลี่ยนไป
“Patience is not simply the ability to wait - it's how we behave while we're waiting.”
Joyce Meyer