กรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา สนใจติดตามโครงการ "คู่เสี่ยวเกี่ยวก้อย แก้จนคนขอนแก่น"เป็นพิเศษมาตั้งแต่เริ่มต้น
นโยบายนี้ ริเริ่ม สร้างสรรค์และขับเคลื่อนโดยนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดหัวก้าวหน้า ท่านเป็นทั้งนักปกครองและนักพัฒนาที่โดดเด่น รับแนวคิด องค์ความรู้และแรงบันดาลใจจากนโยบายการแก้ปัญหาความยากจนของประเทศจีน ทั้งศึกษาดูงานและเชิญเจ้าหน้าที่สถานฑูตจีนมาให้คำปรึกษาแนะนำ
ผลสัมฤทธิ์ ๓ ปีของขอนแก่น ได้กลายเป็นโมเดลตัวอย่างให้กระทรวงมหาดไทยได้นำมาใช้ขยายผลไปทั่วประเทศ โดยจัดตั้งศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง(ศจพ.) ในระดับพื้นที่ โดยมีเป้าหมาย "แก้ปัญหาความยากจนแบบพุ่งเป้าแต่ละครัวเรือน"
การประกาศแก้ปัญหาคนจนในระบบ ๑,๐๒๕,๗๘๒ คน กับกลุ่มเปราะบางอีก ๔.๑ หมื่นครัวเรือน ๑๐ ล้านคน โดยขีดเส้นให้ทุกจังหวัดจัด "ทีมพี่เลี้ยง" ให้เป็นรูปธรรมก่อนสิ้นปีงบประมาณ ๒๕๖๕ นี้ รวมทั้งด้านสภาพัฒน์ ก็เร่งทำตัวอย่างเมนูแก้จน เพื่อคิกออฟ "มหกรรมแก้จน" ๑.๙ หมื่นโครงการ ได้ทำให้สื่อมวลชนนำไปวิพากษ์วิจารณ์ว่าสิ้นปีงบประมาณนี้ รัฐบาลสั่งแก้ความยากจนได้หมดทั้งประเทศแล้ว จึงอดเป็นห่วงกังวลมิได้ว่า ความริเริ่มดีๆที่ขอนแก่น จะถูกกลบไปด้วยกระแสสั่งการจากบนลงล่าง แบบ "ไฟไหม้ฟาง"
ในกรอบการทำงานที่จังหวัดขอนแก่นริเริ่ม ประกอบด้วย ๕ มิติ ๔ กระบวนงาน ๓ เป้าหมาย ๒ กลยุทธ์ และ ๑ โครงการ
๕ มิติ
เป็นการวิเคราะห์ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความยากจนและคุณภาพชีวิตใน ๕ ด้าน ได้แก่ ด้านสุขภาพ ด้านความเป็นอยู่ ด้านรายได้ ด้านการศึกษา และด้านสวัสดิการภาครัฐ
นำมาสู่การจัดเก็บข้อมูล จปฐ. ร่วมกับ ๑๗ อำเภอ ๑ เทศบาลนคร ๗ เทศบาลเมือง ๗๓ เทศบาลตำบล และ ๑๔๔ อบต. พบข้อมูลครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจน ๓๘,๐๐๐ บาท/ปี หรือ ๑๐๔ บาท/วัน โดยผ่านกระบวนการตรวจสอบจากเวทีประชาคมหมู่บ้านแล้ว มีครัวเรือนเป้าหมาย ๑,๑๗๔ ครอบครัว ใน ๕๗๗ หมู่บ้าน ๑๔๗ ตำบล
๔ กระบวนงาน
เป็นการปฏิบัติการ ๔ ท. เพื่อนำไปสู่วิถีการดำรงชีวิต ได้แก่
ทัศนคติ ปรับทัศนคติทางบวก การพูดคุยทำให้ครอบครัวรู้สึกอบอุ่น
ทักษะ เสริมทักษะการประกอบอาชีพบนฐานความชำนาญของครัวเรือน
ทรัพยากร ปัจจัยการผลิต พื้นที่ ที่ดินทำกิน ฐานทุนต่างๆที่สามารถแปลงและสร้างอาชีพได้
ทางออก เป็นหนทางที่ครัวเรือนคิดและตัดสินใจว่าจะแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมต่อตนเอง
๓ เป้าหมาย
เป็นตัวชี้วัดเป้าหมายการแก้ความยากจนของจังหวัดขอนแก่น ประกอบด้วย ๓ ดี ได้แก่
ความเป็นอยู่ดี เน้นการจัดทำบัญชีครัวเรือน เรียนรู้ที่จะลดรายจ่าย ลดต้นทุนการผลิต ลดละเลิกอบายมุข มีสุขภาพดีและมีการออม
รายได้ดี เสริมด้านการฝึกอบรมอาชีพ การรวมกลุ่ม การออม ทุนชุมชนหมุนเวียนเสริมอาชีพ
สวัสดิการดี เข้าร่วมสวัสดิการชุมชน จิตอาสา การช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุ เด็ก และผู้ด้อยโอกาส
๒ กลยุทธ์
เป็นกลยุทธ์สานพลัง ๒ ส่วน คือ พลังจากภายในชุมชน อันได้แก่ ผู้นำชุมชน องค์กรชุมชน กับพลังจากภายนอก คือคู่เสี่ยว ข้าราชการ เอกชน และประชาสังคม
๑ โครงการ
หมายถึง โครงการคู่เสี่ยวเกี่ยวก้อย แก้จนคนขอนแก่น อันเป็นนวัตกรรมและความริเริ่มของผู้ว่าราชการจังหวัดท่านนี้
อำเภอมัญจาคีรี รับนโยบายจากผู้ว่าราชการจังหวัดมาดำเนินงานบริหารครัวเรือนยากจนแบบบูรณาการอย่างแข็งขันมาตั้งแต่ต้น ปัจจุบันมีครัวเรือนยากจนเป้าหมายรวม ๑๐๙ ครอบครัว มีข้าราชการคู่เสี่ยวจำนวน ๕๙ คน ที่นี่เขายังคงใช้กลวิธี "จับคู่" ๑:๑ แบบดั้งเดิม ซึ่งพบว่าได้ผลดีมากกว่าการออกคำสั่ง "แต่งตั้งทีมปฏิบัติการ" มาเป็นพี่เลี้ยงอย่างที่กระทรวงมหาดไทยสั่งการ
"เสี่ยว" มีความหมายในเชิงวัฒนธรรมที่ลึกมากกว่าความเป็นเพื่อน "คู่เสี่ยว" ส่วนใหญ่มิใช่คนในพื้นที่ เขาจึงเน้นการมีคู่เสี่ยวในชุมชนเข้ามาประกบเพื่อความยั่งยืน
กรณีนายประสิทธิ์ อายุ ๗๐ ปี อาศัยปลูกเพิงพักอยู่ท้ายที่ดินชาวบ้าน หารับจ้างและปลูกผักขาย เมื่อถูกกำหนดเป็นเป้าหมายของจังหวัด มีข้าราชการสตรี ๒ คนเป็นคู่เสี่ยวมาช่วยดูแลทุกข์สุข หน่วยงานช่วยหางบประมาณมาสร้างบ้าน แรงงานและวัสดุบริจาคเพิ่มจากชุมชนและท้องถิ่น ทั้งหมู่บ้านมีกรณีแบบนี้อยู่เพียง ๒-๓ คนเท่านั้น การแก้ไขแบบพุ่งเป้าจึงอยู่ในวิสัยที่จะสำเร็จได้ไม่ยาก
แต่อย่างไรก็ตาม มีคำถามทิ้งท้ายว่า เรื่องดีๆแบบนี้จะยังคงเดินหน้าต่อไปได้เพียงใด เมื่อหมดยุคของผู้ว่าราชการจังหวัดท่านนี้ และสิ้นวาระของรัฐบาลชุดปัจจุบัน