svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ดร.ณัฏฐ์ ไขปม ยังมีเหตุไทยกัมพูชา จะเลือกตั้งใหม่ได้ตามกำหนดไหม?

นักเลือกตั้งใจเย็น! "ดร.ณัฏฐ์" ไขปมสงสัย ยังมีเหตุชายแดนไทยกัมพูชา จะมีเลือกตั้งใหม่ได้ตามกำหนดไหม? ใครต้องชี้ขาด!

12 ธันวาคม 2568 สืบเนื่องจากมีประกาศราชกิจจานุเบกษา พ.ร.ฎ.ยุบสภา ส่งผลให้สภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง โดย กกต.ต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ ในภาวะปัญหาสู้รบไทย-กัมพูชา ทำให้เกิดข้อถกเถียงกันในวงกว้างว่า จะเป็นเหตุให้ กกต.ชะลอการเลือกตั้งได้หรือไม่
 

ล่าสุด ดร.ณัฏฐ์ หรือ ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน ได้ให้ความเห็นเพื่อประโยชน์สาธารณะ และกล่าวว่า พ.ร.ฎ.ยุบสภา มีผลทางกฎหมาย เกิดตัวแปร 3 ประเด็นหลัก ทำให้สมาชิกภาพความเป็น สส.สิ้นสุดลง, ทำให้คณะรัฐมนตรี เมื่อยุบสภาแล้ว มีสถานะเพียงคณะรัฐมนตรีรักษาการ และ กกต.มีหน้าที่กำหนดวันเลือกตั้ง และจัดการเลือกตั้งทั่วไป ไม่น้อยกว่า 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วันนับแต่ พ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้ง สส.เป็นการทั่วไป
 

ปัญหาการกำหนด “วันเลือกตั้ง สส.”รัฐธรรมนูญมาตรา 103 วรรคสาม ตอนท้าย บัญญัติ กกต.จะต้องกำหนดวันเลือกตั้ง “เป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร”
 

อธิบายได้ว่า คำว่า “วันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร” หมายถึง กกต.ต้องกำหนดให้วันเลือกตั้ง สส.เป็นการทั่วไป ได้เฉพาะ“วันเดียวกัน” เป็น “บทบังคับเด็ดขาด” 
 

ดร.ณัฏฐ์ หรือ ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน

เหตุที่เป็นเช่นนี้ เพื่อความเรียบร้อยในการจัดการเลือกตั้ง และสร้างความเป็นธรรมแข่งขันทั่วประเทศ ทั้งเพื่อป้องกันกรณีชี้นำ อันผลกระทบต่อผลคะแนนเลือกตั้งในต่างพื้นที่อื่น ตลอดจนเพิ่มความน่าเชื่อถือของผลเลือกตั้งเพื่อให้สอดคล้องหลักประชาธิปไตยสากล
 

พูดภาษาชาวบ้าน คือ เพื่อให้เจตจำนงของประชาชน สะท้อนพร้อมกันทั่วประเทศ ผ่านการเลือกตั้งพร้อมกัน โดยไม่ถูกบิดเบือนจากการแทรกแซงระหว่างวันเวลาเดียวกัน
 

ในอดีต เคยปรากฏเหตุ แกนนำคนเสื้อแดง และ กปปส.ใช้กลยุทธ์ล้มเลือกตั้ง โดยใช้เทคนิคขัดขวางการเลือกตั้ง สส.เพื่อให้การเลือกตั้ง สส.ตกเป็นโมฆะ โดยนำข้อกฎหมายไปหักล้างว่า กกต.ไม่ได้จัดให้มีการเลือกตั้งทุกเขต ทุกหน่วย พร้อมกันวันเดียวทั่วราชอาณาจักร

 

“กรณีมีเหตุจำเป็นอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้” จึงได้นำไปเขียนอุดช่องว่างข้อกฎหมายไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 104  โดยให้อำนาจ กกต.กำหนดวันเลือกตั้งใหม่ได้ แต่ กกต.ต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 30 วันนับแต่เหตุอันควรดังกล่าวสิ้นสุดลง


ดร.ณัฏฐ์ ไขปม ยังมีเหตุไทยกัมพูชา จะเลือกตั้งใหม่ได้ตามกำหนดไหม?  

ภัยสู้รบระหว่าง ไทย-กัมพูชา เกิดในก่อนยุบสภาและต่อเนื่อง โดยรัฐธรรมนูญมาตรา 103 วรรคสาม บัญญัติให้ ภายใน 5 วันนับแต่ พ.ร.ฎ.ยุบสภามีผลบังคับ ให้ กกต.กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งต้องไม่น้อยกว่า 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน

 

สาระสำคัญ “วันเลือกตั้งนั้น ต้องกำหนดเป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร” จึงเป็นเกมที่ฝ่ายที่มีอำนาจรัฐหยิบมาเป็นเครื่องมือเพื่อให้ตนรักษาการโดยไม่มีกำหนด

 

แต่คำว่า “ภัยสู้รบ” ย่อมหมายถึง ภัยสู้รบระหว่างประเทศ อันเป็นภัยร้ายแรงกระทบชีวิต ร่างกายหรือทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนในที่มีสิทธิเลือกตั้งและกระทำต่อเนื่อง จน กกต.ไม่อาจจัดการเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งหรือเขตเลือกตั้งในจังหวัดที่อาณาเขตชายแดนไทย-กัมพูชาได้            

         

จึงเข้าเข้าเงื่อนไขข้อกฎหมายที่ว่า “กรณีมีเหตุจำเป็นอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้” เป็นเหตุให้ กกต.ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ตามวันเวลา ที่ กกต.ประกาศกำหนดไว้ โดยให้อำนาจ กกต.กำหนดวันเลือกตั้งใหม่ก็ได้ แต่ระยะเวลา กกต.ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งภายใน 30 วันนับแต่เหตุดังกล่าวสิ้นสุดลง

           

การอุดช่องว่างกฎหมาย กำหนดให้ขยายวันเลือกตั้ง เฉพาะช่วงระยะเวลา “ภายหลัง” กกต.มี พ.ร.ฎ.ประกาศวันเลือกตั้งแล้ว โดยกฎหมายไม่ได้เปิดช่องให้ กกต. “งด” ตรา พ.ร.ฏ.กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป เพื่อเปิดช่องเกมล้มการเลือกตั้งเพื่อให้รัฐบาลรักษาการโดยไร้กำหนดเพื่อเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น

             

ดังนั้น กกต.จึงมีหน้าที่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 103 วรรคสาม โดยตรา พ.ร.ฎ กำหนดวันเลือกตั้งเป็นการทั่วไป ส่วนจะเลือกตั้งพร้อมกันทั่วราชอาณาจักรได้หรือไม่ และภัยสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชาสิ้นสุดลงเมื่อใด ให้ยึดหลัก “เหตุจำเป็นอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้” ณ เหตุการณ์ใน “วันหย่อนบัตร” ล้วนเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอนาคตทั้งสิ้น 
 

ดร.ณัฏฐ์ ไขปม ยังมีเหตุไทยกัมพูชา จะเลือกตั้งใหม่ได้ตามกำหนดไหม?
 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ภายหลังมีพระราชกฤษฎีกายุบสภา ประกาศใช้เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม  ทำให้ต้องติดตามสถานการณ์ทางการเมืองอย่างใกล้ชิด เนื่องจาก อีกด้านหนึ่งมีเหตุการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยไม่มีทีท่าจะยุติเมื่อใด ซึ่งส่งต่อการจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไป พร้อมกันไปด้วย 
 

ซึ่งประเด็นนี้  กกต.ชุดใหม่ จะมีการประชุมในวันจันทร์ ที่ 15 ธันวาคม  เพื่อหาข้อสรุป จะมีการเลื่อนวันเลือกตั้งออกไปหรือไม่ รวมถึงการหาข้อสรุป ในการจัดทำประชามติแก้ไข รธน. สามารถทำได้พร้อมวันเลือกตั้งได้หรือไม่ ตามกรอบเวลากฎหมายประชามติ หรือจะประชามติแก้ไข รธน.