
หวยล็อก จุลพันธ์ ประมุขค่ายแดง แพทองธาร หลบหลังม่าน สัญญาณเลือดหยุดไหล น้ำเงินสะดุดปมดีลสันติภาพ-ดีลแร่แรร์เอิร์ธ
เพื่อไทยยุคไร้ชื่อคนชินวัตร รอปี่กลองเลือกตั้ง จับตาแคนดิเดตนายกฯ จะหนีพ้นเงาคนใต้ชายคาบ้านจันทร์หรือไม่
รายงานข่าวจากเพื่อไทยก่อนวันประชุมใหญ่วิสามัญพรรคในวันศุกร์ที่ 31 ต.ค.2568 ค่อนข้างชัดว่า “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” สส.เชียงใหม่ จะขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่แทน “แพทองธาร ชินวัตร” ตามคอนเซ็ปต์ไม่มีคนในตระกูลชินวัตร
เหตุผลที่ต้องเป็นจุลพันธ์ เพราะต้องการให้เป็นคนกลางเชื่อมประสานคนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ขับเคลื่อนพรรคเพื่อไทย
ส่วนตัวเต็งอีกคนคือ จาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ มีความโดดเด่นเรื่องจุดยืนและอุดมการณ์ แต่คนบ้านจันทร์ยังมองว่า จาตุรนต์เป็นตัวของตัวเองมากเกินไป
เลขาธิการพรรคไม่น่าจะเปลี่ยนตัว เพราะสรวงศ์ เทียนทอง ลูกชายป๋าเหนาะ ทำหน้าที่ได้เหมาะสมแล้ว
สำหรับ “เดอะซัน” สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ขอทำงานเบื้องหลังและนั่งในตำแหน่งเดิมคือ ผู้อำนวยการเลือกตั้ง
กระแสข่าวว่า หลังประชุมเลือกหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะมี สส.จำนวนหนึ่งย้ายไปสังกัดพรรคอื่น หากเช็กข่าวในพื้นที่ทั้งโซนภาคเหนือ และโซนภาคอีสาน อาการเลือดสีแดงไหลออกนั้นน่าจะหยุดแล้ว
หลังมี สส.เพื่อไทยภาคอีสาน 6 คน ประกอบด้วย ประเสริฐ บุญเรือง สส.กาฬสินธุ์ เขต 6, กิตติ สมทรัพย์ สส.ร้อยเอ็ด เขต 6 ,นรากร เมืองนารักษ์ สส.ร้อยเอ็ด เขต 4
นพ.ภูมินทร์ ลีธีรประเสริฐ สส.ศรีสะเกษ เขต 4,นุชนาถ จารุวงษ์เสถียร สส.ศรีสะเกษ เขต 9 และโกศล ปัทมะ สส.นครราชสีมา เขต 6 แสดงเจตจำนงจะสมัคร สส.สมัยหน้าในนามพรรคภูมิใจไทย ก็ยังไม่มี สส.คนไหนที่แสดงตัวเพิ่มเติม
ยกเว้น 2 บ้านใหญ่คือ พงศกร อรรณนพพร อดีต สส.ขอนแก่น และชูวิทย์ กุ่ย พิทักษ์พรพัลลภ อดีต สส.อุบลราชธานี ที่ตัดสินใจพาครอบครัวทิ้งค่ายสีแดง
เวลานี้ พงศกร อรรณนพพร พาลูกสาว “ข้าวฟ่าง” สรัสนันท์ อรรณนพพร สส.ขอนแก่น พร้อมลูกชาย พชรกร อรรณนพพร ไปพบชาวบ้านในพื้นที่แล้ว
สำคัญที่ว่า เสี่ยพงศกร จะเล่นสูตรแทงกั๊กหรือไม่ พ่อและลูกชายอยู่ค่ายน้ำเงิน ส่วนลูกสาวอยู่ค่ายแดง
ต่างจาก ชูวิทย์ กุ่ย พิทักษ์พรพัลลภ ที่ไปร่วมงานกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และพรรคกล้าธรรม ซึ่ง “กานต์” สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สส.อุบลฯ เขต 7 ได้ถอดเสื้อแดงลงพื้นที่เรียบร้อยแล้ว
เหลือแค่ สส.กานต์ จะไปชูเสื้อกล้าธรรมเมื่อไหร่ และน้องสาว“เก้า” สุชาวดี พิทักษ์พรพัลลภ น่าลงสนามงวดนี้แน่ แต่คนละเขตกับพี่สาว
หากจะมี สส.อีสานค่ายแดงรายใด เลือกเดินทางสายใหม่ ก็คงมีการขยับอีกครั้งเมื่อวันยุบสภาฯมาถึงแล้ว
ว่ากันว่า สาเหตุหนึ่งที่ สส.เพื่อไทยไม่รีบร้อนไปแสดงตัวค่ายน้ำเงิน เพราะจังหวะนี้ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีมหาดไทย กำลังเผชิญกระแสชาตินิยมตีกลับ
ประเด็นการลงนามสันติภาพ ก็ยังไม่ร้อนแรงเท่ากับคำให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องการบริหารจัดการพื้นที่ตามกรอบ MOU 43 “...ส่วนที่กัมพูชารุกล้ำเราก็มี และต้องยอมรับว่าส่วนที่ประเทศไทยไปรุกล้ำพื้นที่เขาก็มี”
คำพูดประโยคนี้ของนายกฯอนุทิน กลายเป็นประเด็นละเอียดอ่อน ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
ต่อมา นายกฯอนุทินได้ออกมาขอโทษที่ทำให้สับสน และยืนยันว่า สิ่งที่พูดถึงนั้นหมายถึงพื้นที่อ้างสิทธิ์ ที่ทั้งสองฝ่ายต้องเจรจากันต่อไป
อย่าลืมว่า พรรคภูมิใจไทยเคยขี่กระแสชาตินิยม ช่วงอดีตนายกฯแพทองธาร เผชิญมรสุมคลิปอังเคิล จนเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองมีการเปลี่ยนรัฐบาล
กูรูการเมืองวิเคราะห์ว่า ถ้ามีการเลือกตั้งสมัยหน้า พรรคน้ำเงินจะมีกระแสชาตินิยม เป็นแต้มต่อทางการเมือง
มาถึงวันนี้ สถานการณ์กลับพลิกผันเร็วมาก ประชาชนเริ่มคลางแคลงใจรัฐบาลอนุทิน ทั้งเรื่องดีลสันติภาพ และดีลแร่แรร์เอิร์ธ