หลังม่าน “เยาวภา” เดินลึกประสาน “ยงยุทธ” จัดทัพเชียงราย-เชียงใหม่
ไม่แคร์คนเก่า “เจ๊แดง เยาวภา” ประสาน “ยงยุทธ” จัดทัพเชียงราย-เชียงใหม่ โละอดีต สส. ปั้นคนเจนใหม่สู้ส้ม
ยกเครื่องเพื่อไทย เจ๊แดง เยาวภา ประสาน ยงยุทธ จัดทัพเชียงราย-เชียงใหม่ สมรภูมิใหญ่เมืองเหนือ กู้คืนศักดิ์ศรีชินวัตร
"เจ๊แดง" รับบทเสนาธิการหลังม่าน มอบยงยุทธคุมเชียงราย นายกก๊องคุมเชียงใหม่ คือปมสมพงษ์แตกหักเจ้าแม่วังบัวบาน
จังหวะนี้ พรรคเพื่อไทย กำลังอยู่ในโหมด “ยกเครื่องเพื่อไทย” จัดทัพผู้สมัคร สส.ทั่วประเทศ ท่ามกลางข่าวความขัดแย้งของ สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ กับ “นายกก๊อง” พิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายก อบจ.เชียงใหม่ คนสนิท “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์
กว่าจะมาถึงวันที่ “สมพงษ์” สิ้นสุดความอดทน และยื่นหนังสือขอลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย ก็มีความเคลื่อนของ “เจ๊แดง” ที่เชียงราย
- วันที่ 7 ต.ค.2566 แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จัดกิจกรรมยกเครื่องเพื่อไทย เปิดตัวผู้สมัคร สส.ทั่วประเทศ
- วันที่ 9 ต.ค.2566 “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เดินทางไป จ.เชียงราย เพื่อปรึกษาหารือกับ ยงยุทธ ติยะไพรัช เรื่องสนามเลือกตั้งภาคเหนือ
- วันที่ 17 ต.ค.2566 สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เปิดตัวผู้สมัคร สส.เพิ่ม 22 คน และในนั้น มีผู้สมัคร สส.เชียงราย และลำพูน โดยเฉพาะประเด็นผู้สมัคร สส.ลำพูน ที่สร้างความไม่พอใจให้สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ตามที่เป็นข่าวไปแล้ว
ทำไมสมรภูมิเชียงใหม่ และเชียงราย จึงมีความสำคัญต่อพรรคเพื่อไทย
ประการแรก จำนวน สส.มากที่สุดในในภาคเหนือตอนบน คือ เชียงใหม่ 10 ที่นั่ง และเชียงราย 7 ที่นั่ง
ประการที่สอง สมัยที่แล้ว เพื่อไทยสูญเสียที่นั่ง สส.ให้พรรคก้าวไกล(พรรคประชาชน) ทั้ง 2 สนาม
เลือกตั้ง สส.เชียงราย ปี 2566 พรรคเพื่อไทย เหลือ 4 ที่นั่งจากทั้งหมด 7 ที่นั่ง โดยพรรคก้าวไกล แย่งชิงไปได้ 3 ที่นั่ง
เลือกตั้ง สส.เชียงใหม่ สมัยที่แล้ว พรรคเพื่อไทย เหลือ 2 ที่นั่ง พรรคก้าวไกลกวาดไป 7 ที่นั่ง และพรรคพลังประชารัฐ(กล้าธรรม) ได้ 1 ที่นั่ง
ไม่น่าแปลกใจที่ “เจ๊แดง” ต้องมาประชุมลับกับ “ยงยุทธ” บ้านใหญ่แม่จัน เพราะก่อนหน้านั้น ค่ายสีแดงเพิ่งคว้าชัยในสนามเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย
เชียงรายไร้ปัญหา
สรุปว่า ช่วงนี้มีการเลือกตั้งซ่อม สส. 3 จังหวัดคือ เชียงราย ศรีสะเกษ และกาญจนบุรี ปรากฏว่า เพื่อไทยชนะ 1 แพ้ 2
การเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย เขต 7 สง่า พรมเมือง พรรคเพื่อไทย ได้ 45,615 คะแนน ชนะสุทัศน์ ยาละ พรรคประชาชน ที่ได้ 19,862 คะแนน
ชัยชนะหนนี้ ต้องยกเครดิตให้ “ยงยุทธ” บ้านใหญ่แม่จัน ที่เป็นคัดเลือกตัวผู้สมัคร สส. และวางแผนหาเสียงเอง
ต้นปี 2568 สลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช พ่ายคาสนามนายก อบจ.เชียงราย “ยงยุทธ” ก็เสียหน้าไปเยอะ ทั้งที่ “ทักษิณ” ขึ้นมาช่วยปราศรัยหาเสียงถึง 2 รอบ
ปัจจุบัน ตระกูลติยะไพรัช มี สส.2 คนคือ “โฮม” ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช สส.เชียงราย ลูกสาวคนโตของยงยุทธ และเขต 2 ละออง ติยะไพรัช สส.บัญชีรายชื่อ น้องสาวยงยุทธ
เมื่อค่ายเพื่อไทยเปิดตัวผู้สมัคร สส.ล็อตที่สอง มีชื่อ “ต้นน้ำ” ร.ต.อ.ธนรัช จงสุทธานามณี ว่าที่ผู้สมัคร สส.เชียงราย เขต 1 หมายถึง “เจ๊แดง” ได้เคลียร์ใจกับ วันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย และรัตนา จงสุทธานามณี เรียบร้อยแล้ว
เนื่องจากช่วงเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงราย มีข่าวลือว่า “บ้านใหญ่เชียงราย” ปล่อยเกียร์ว่าง จึงทำให้ภรรยาของยงยุทธพ่ายแชมป์เก่าค่ายสีน้ำเงิน
เชียงใหม่ถ่ายเลือดใหม่
ทางฝั่งเชียงราย ไม่น่าจะมีปัญหา เมื่อ “ยงยุทธ” เปิดใจกว้างและพร้อมปรับทัพ เพื่อเอาชนะค่ายสีส้มในสมัยหน้า
ขณะที่ฝั่งเชียงใหม่ กลายเป็นประเด็นร้อน เมื่อ “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และแม่ทัพเลือกตั้งเชียงใหม่ เหลือจะทน จึงยื่นหนังสือลาออกจากพรรค
สมพงษ์ ไม่พอใจที่ “เจ๊แดง” ไว้วางใจ “นายกก๊อง” พิชัย เลิศพงศ์อดิศรนายกอบจ.เชียงใหม่ เป็นผู้จัดทัพผู้สมัคร สส.เชียงใหม่ และลำพูน
มีรายงานว่า “นายกก๊อง” ต้องการโละอดีต สส.เชียงใหม่ ค่ายสีแดงทั้งหมด เพื่อดันคนรุ่นใหม่ลงสนามแข่งกับพรรคส้ม
ด้วยเหตุนี้ อดีต สส.รุ่นใหญ่อย่าง สุรพล เกียรติไชยากร และไกร ดาบธรรม จึงหันไปซบพรรคพลังประชารัฐ
อย่างไรก็ตาม ทิศทางหลักของผู้นำเพื่อไทย คงต้องโละ “เลือดเก่า” และเสริมเติมเลือดใหม่ เพื่อความอยู่รอด
