ไฟต์บังคับ “เตียบัญ” สะบั้น 3 ป.ปิดช่องทูตลับ “เตียเซ็ยฮา” เจ้าพ่อบ่อนท่าเส้น

บูรพาองศาเดือด เตียบัญ เผ่นไปจีน เตียเซ็ยฮา เก้าอี้ร้อน เสียท่าวอนไทยเปิดด่าน เจอโต้กลับปิดด่านแบบยาวๆ

 

ไฟต์บังคับ เตียบัญ-กลุ่ม 3 ป. สัมพันธ์สะบั้นแล้ว ปิดฉากการทูตลับ สะพานเชื่อมไทย-กัมพูชาขาดผึง ส่อเปิดสงครามรอบใหม่  

 

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านตะวันออก ตั้งแต่ จ.บันเตียเมียนเจย จ.ไพลิน และ จ.โพธิสัตว์ ตึงเครียดขึ้นมาอีกครั้ง สมเด็จพิชัยเสนาเตีย บัญ ได้พาครอบครัวไปพักผ่อนที่ประเทศจีน

 

ส่วน พล.อ.เตีย เซ็ยฮา รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม หลังประชุม GBC ที่ จ.เกาะกง ก็เดินทางไปพบ ต่งจุน รมว.กลาโหมจีน ช่วงวันที่ 16-19 ก.ย.2568

 

พล.อ.เตีย เซ็ยฮา ย้ายสถานที่ประชุม GBC จาก จ.เสียมราฐ ไปยัง จ.เกาะกง ที่มั่นการเมืองและธุรกิจของบ้านใหญ่ตระกูล “เตีย”

 

ผลการประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา กลายเป็นปมร้อน เมื่อ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รักษาการ รมว.กลาโหม รัฐบาลแพทองธาร ให้สัมภาษณ์ทำนองว่า ไทย-กัมพูชา เตรียมเปิดด่านหรือจุดผ่อนปรน

 

หลังทัวร์ลงหนัก พล.อ.ณัฐพล ถอยทันทีและปฏิเสธการเปิดด่านตามข้อเสนอของ พล.อ.เตีย เซ็ยฮา

 

ด้วยเหตุนี้ อินฟลูฯการเมือง จึงเปิดโปง “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ คนสนิทของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ และเป็นน้องรัก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ 

 

นายไปรษณีย์ชื่อเตียบัญ
 

ในรอบ 10 กว่าปีนี้ วิกฤตชายแดนไทย-กัมพูชา ได้เกิดการสู้รบมาแล้วหลายครั้ง และสุดท้ายก็จบด้วยการเจรจาสันติภาพ

 

ที่ผ่านมา สมเด็จพิชัยเสนาบดีเตีย บัญ เป็นช่องทางสื่อสารหรือการทูตลับ แต่สถานการณ์ครั้งนี้แตกต่างจากปี 2552-2554 ทำให้วิกฤตชายแดนลากยาวไปจนถึงปีหน้า

 

เหตุที่ เตีย บัญ เป็นนายทหารเขมรที่เข้าใจภาษาไทย พูดไทยได้คล่อง เนื่องจากมีรากมาจากไทยเกาะกง จึงรับบททูตลับในยามวิกฤตทุกครั้ง

 

สมัยวัยหนุ่ม เตีย บัญ เข้าร่วม “พลพรรคไทยเกาะกง” ก็ได้รู้จักกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และ พล.อ.วิชิต ยาทิพย์ ที่ช่วยเหลือกองกำลังไทยเกาะกงแบบลับๆ

 

พล.อ.ชวลิต เป็นสารตั้งต้นความสัมพันธ์เชิงลึก ระหว่าง ฮุนเซน กับขุนศึกไทย ซึ่งมีการส่งต่อกันมา จากรุ่นสู่รุ่น จนถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ โดยมี เตีย บัญ เป็นนายไปรษณีย์ฝั่งเขมร

 

ปี 2552 สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ตรึงเครียด และมีเหตุสู้รบที่ชายแดนด้านเขาพระวิหาร เวลานั้น พล.อ.ประวิตร รองนายกรัฐมนตรี ได้ยกหูโทรศัพท์พูดคุยกับ เตีย บัญ ตลอดเวลา

 

หลังรัฐประหาร 22 พ.ค.2557 แค่เดือนเดียว เตีย บัญ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหมกัมพูชา ได้นำคณะนายทหารกัมพูชา เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

 

ปี 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ สมัยนั้น รื้อฟื้นการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา และมอบให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เป็นประธานร่วมคณะกรรมการร่วมทางเทคนิค (Joint Technical Committee JTC) เพื่อหารือเรื่องเขตทับซ้อน

 

พล.อ.ประวิตร จึงเดินทางไปพูดคุยกับ สมเด็จพิชัยเสนาเตีย บัญ อยู่บ่อยครั้ง แต่การเจรจาก็ไม่คืบหน้า 

 

ทมอดาซิตี้-อาณาจักรเตียเซ็ยฮา
 

ชายแดนไทย-กัมพูชา เบื้องบูรพา ไม่ได้มีแค่ปมบ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว

 

ที่ร้อนแรงที่สุดคือ บ่อนกาสิโนเขมร ที่มีการก่อสร้างล้ำเขตแดนไทย ที่บ้านท่าเส้น อ.เมือง จ.ตราด และบ่อนแห่งนี้อยู่ห่างจากตัว จ.ตราด เพียง 37 กม.

 

ข้อมูลฝ่ายความมั่นคงระบุว่า ช่องทางการค้าทางธรรมชาติบ้านท่าเส้นตั้งอยู่ที่ ต.แหลมกลัด อ.เมือง จ.ตราด ติดกับบ้านทมอดา อ.เวียลเวง จ.โพธิสัตว์ ประเทศกัมพูชา

 

มีรายงานว่า ออกญา ตรีเพียบ จับมือกับทุนจีนเนรมิตพื้นที่บริเวณนี้ให้เป็นเมืองใหม่ ใช้ชื่อว่า “ทมอดาซิตี้” มีประชากรประมาณ 3.3 แสนคนพร้อมผุดอสังหาริมทรัพย์ อาทิโรงแรม บ่อนกาสิโน อาคารที่พักอาศัย ปั๊มน้ำมัน ร้านค้า เป็นต้น

 

จะว่าไปแล้ว ออกญา ตรีเพียบ ก็แค่ผู้เล่นหน้าฉาก แต่หลังฉากคือ พล.อ.เตีย เซ็ยฮา ทายาท เตีย บัญ จึงทำให้ทุนไทยหลายกลุ่มร่วมลงทุนในบ่อนท่าเส้น


เหนืออื่นใด พล.อ.เตีย เซ็ยฮา คือผู้ทรงอิทธิพลในพื้นที่ จ.เสียมราฐ จ.พระตะบอง จ.โพธิสัตว์ จ.ไพลิน และ จ.เกาะกง