
ยุคทอง ตท.26 พล.อ.พนา คุมทัพภาค 2-3-4-5 พล.ท.บุญสิน การันตีไม่มีปฏิวัติ ทหารอาชีพไม่ยุ่งการเมือง พร้อมสู้ศึกกัมพูชา
กระแสรักชาติยังแรง แม่ทัพบุญสิน เดินสายพบนักศึกษา กู้ภาพลักษณ์ทหารที่เคยติดลบ ในสายตาคนเจน Z เจน Alpha
วันที่ 2 ก.ย.2568 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เดินทางมาบรรยายพิเศษในหัวข้อ “วิสัยทัศน์หลักธรรมะและการวางยุทธศาสตร์ป้องกันชายแดน” ในวิชาอาณาเขตศึกษาให้กับนักศึกษาปี 1 ภาควิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ตอนหนึ่ง “แม่ทัพบุญสิน” พูดถึงสถานการณ์การเมืองที่กำลังจะมีการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ก็ขอให้ไปตามระบอบประชาธิปไตย
“ในห้วงเวลานี้ ทหารไม่มีการปฏิวัติอยู่แล้ว ปล่อยให้เป็นไปตามกลไก เราต้องช่วยกันคัดกรองดูว่า อะไรถูก ไม่ถูก...ส่วนทฤษฎี และความจริงจะได้ขนาดไหน พวกเราคนไทยทั้งประเทศต้องช่วยกัน”
ในฐานะที่เป็นเพื่อน ตท.26 กับ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. ยืนยันว่า
“กองทัพบกก็พร้อมทำหน้าที่ตัวเอง ไม่ยุ่งกับกระแสการเมืองอยู่แล้ว...ทหารมีหน้าที่ปกป้องประเทศ และทำตามคำสั่งที่ถูกต้อง อย่าเอาอำนาจที่ผิดๆมาสั่งทหาร ทหารไม่ทำตาม เราจะทำตามคำสั่งที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น”
ด้วยความป๊อปปูลาร์ของ “แม่ทัพบุญสิน” จึงมีคำถามทุกเวทีที่ไปพบนักศึกษาว่า จะเล่นการเมืองหรือไม่ ซึ่งในครั้งนี้ก็เช่นกัน
“มีพรรคการเมืองติดต่อ 5-6 พรรค มาทาบทาม แต่ไม่ยุ่งการเมือง และเลือกที่จะไม่เล่น เพราะคนไทยหลายคนมองอยู่”
อย่างที่ทราบกัน หลังเกษียณอายุราชการ พล.ท.บุญสิน ก็จะมาช่วยเป็นที่ปรึกษาเพื่อนรัก พล.อ.พนา ที่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผบ.ทบ.ต่อไปจนถึงปี 2570
สุดสัปดาห์ที่แล้ว ได้มีการนำบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารชั้นนายพลที่ ผบ.เหล่าทัพ เสนอในที่ประชุมบอร์ด 6 เสือกลาโหม ตาม พ.ร.บ.กลาโหมฯ ปี 2551 นำโดย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม และรักษาราชการแทน รมว.กลาโหม เป็นประธาน
เฉพาะกองทัพบก ยังไม่มีการเปลี่ยนผู้บัญชาการทหารบก เนื่องจาก “แม่ทัพปู” พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ จะเกษียณเดือน ก.ย.2570
สำหรับ “5 เสือ ทบ.” จะมีการขยับ พล.อ.ชิษณุพงษ์ รอดศิริ (ตท.26) ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ขึ้นเป็น รองผบ.ทบ.
“แม่ทัพใหญ่” พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 (ตท.27) เป็น ผู้ช่วย ผบ.ทบ. แม้จะมีกระแสโจมตีแม่ทัพใหญ่ กรณีเขมรยึดบ้านหนองจาน แต่เส้นทางเดินของทหารเสือราชินีคนนี้ก็ไม่สะดุด
พล.ท.ณรงค์ฤทธิ์ คัมภีระ ผบ.หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (ตท.26) เป็น ผู้ช่วย ผบ.ทบ. นัยว่า เตรียมตัวเป็นแคนดิเดต ผบ.ทบ.ปี 2571
พล.ท.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รอง เสธ.ทบ. (ตท.26) ขยับขึ้นเป็น เสนาธิการทหารบก
ที่ฮือฮามากที่สุดก็คือตำแหน่งคุมกำลังในส่วนของ “กองทัพภาค” เมื่อ “ตท.26” ผงาดคุมกองทัพภาคที่ 2,3,4 รวมถึงหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ(นสศ.) หรือกองทัพภาคที่ 5
กองทัพภาคที่ 1 พล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ (ตท.28) แม่ทัพน้อยที่ 1 ขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ซึ่งเป็นน้องรักของ พล.อ.พนา ที่ต้องการหนุนให้เป็น ผบ.ทบ.ในอนาคต
กองทัพภาคที่ 2 พล.ต.วีระยุทธ รักษ์ศิลป์ (ตท.26) รองแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อนรัก “แม่ทัพปู” และ “แม่ทัพกุ้ง” ที่เติบโตจากอีสานใต้ ขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 2
กองทัพภาคที่ 3 พล.ต.วรเทพ บุญญะ (ตท.26) รองแม่ทัพภาค 3 ขยับเป็นแม่ทัพภาคที่ 3
กองทัพภาคที่ 4 พล.ต.นรธิป โพยนอก รองแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อนร่วมรุ่น ตท.26 ของ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. โยกจากอีสานลงมาเป็นแม่ทัพภาคที่ 4
หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) หรือกองทัพภาคที่ 5 พล.ต.อดุลย์ จันทร์มา (ตท.26) รอง ผบ.นสศ. ขึ้นเป็น ผบ.นสศ. แทน พล.ท.ณรงค์ฤทธิ์ คัมภีระ ผบ.นสศ.คนปัจจุบันที่ขึ้นผู้ช่วย ผบ.ทบ.
หากย้อนไป 20-30 ปีที่แล้ว การที่นายทหารรุ่นเดียวกันผงาดยกแผงเช่นนี้ ก็จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ศึกแย่งชิงอำนาจในกองทัพบก และอาจนำสู่การรัฐประหาร
แหล่งข่าวสายทหารมองว่า ปรากฏการณ์ยุคทอง “ตท.26” เป็นเรื่องของ พล.อ.พนา เป็นคนที่รักเพื่อน จึงต้องการกระชับอำนาจ ด้วยการนำคนที่ไว้ใจได้เป็นแม่ทัพนายกองในตำแหน่งสำคัญ เพื่อความเป็นทีมเวิร์ก
โดยเฉพาะเมื่อ “แม่ทัพปู” ต้องเป็นแม่ทัพใหญ่สู้ศึกกัมพูชา ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ จึงต้องการเพื่อนประเภทที่มองตาก็รู้ใจ มาคุมกองทัพบก ทั้งในระนาบ 5 เสือและกองทัพภาค