svasdssvasds
เนชั่นทีวี

คอลัมนิสต์

“พล.ท.อมฤต” ทหารเสือบูรพา เด็กปั้น “ประยุทธ์” ฝ่ามรสุมชายแดน-การเมือง

มรสุมชายแดน “พล.ท.อมฤต บุญสุยา” แม่ทัพภาคที่ 1 ฝ่ากระแสโซเชียลโยงดีลลับ “พล.อ.ประยุทธ์” รีเทิร์น

มรสุมชายแดน พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพบูรพา ฝ่ากระแสโซเชียลถล่มปมบ้านหนองจาน แถมลากโยงเรื่องลุงตู่รีเทิร์น

หากไม่มีวิกฤตไทย-กัมพูชา แม่ทัพใหญ่ พล.ท.อมฤต ทหารเสือคอแดงคงฉลุยนั่งเก้าอี้ ผบ.ทบ. ต่อจาก พล.อ.พนา แม่ทัพคอเขียว ปี 2570

ขณะที่ “แม่ทัพกุ้ง” พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ไปไหนมาไหน มีแต่เสียงยกย่องชมเชยราววีรบุรุษจากปฏิบัติการยุทธบดินทร์

ตรงกันข้ามกับ “แม่ทัพใหญ่” พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 ที่มีคำถามจากโซเชียลกรณีไม่ยึดคืนพื้นที่ “บ้านหนองจาน” ให้เบ็ดเสร็จ 

อีกด้านหนึ่ง มีอินฟลูฯบางคน ได้เปิดความสัมพันธ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.ท.อมฤต สายทหารเสือราชินี และโยงเรื่องดีลลับภาค 2 หากเกิดอุบัติเหตุการเมืองกรณี แพทองธาร ชินวัตร หลุดจากเก้าอี้นายกฯ ซึ่งมีข่าวว่า ลุงตู่จะคัมแบ็กเป็นนายกฯ เฉพาะกิจ

กรณีบ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว กองทัพภาคที่ 1 ได้แถลงว่าช่วง 24-28 ก.ค.2568 ทหารไทยได้เข้าควบคุมพื้นที่ ซึ่งจุดที่เป็นฐานทหาร 514 Infantry ของกัมพูชา พร้อมบ้านเรือนของครอบครัวทหารกลุ่มดังกล่าว

บ้านหนองจาน บริเวณชุมชนกัมพูชา อยู่ระหว่างหลักเขตที่ 46 และ 47 ไม่มีหมุดหลักเขต เป็นพื้นที่ราบ โดยกองทัพภาคที่ 1 ยึดตาม MOU 43 ที่จะมีการพูดคุยในวงคณะกรรมาธิการเขตแดนไทย-กัมพูชา (JBC) แต่คนไทยจำนวนไม่น้อยต้องการกองทัพภาคที่ 1 ใช้ปฏิบัติการทางทหารทวงคืนแผ่นดินไทย

ไม่แปลกที่คนไทยจะมีท่าทีตอบรับต่อ “แม่ทัพใหญ่” ต่างจาก “แม่ทัพกุ้ง” และกระแสคนรักชาติ อาจส่งผลต่อเส้นทางสู่ ผบ.ทบ.ในปี 2570 ของแม่ทัพทหารเสือคนนี้ 

พล.ท.อมฤต แม่ทัพภาคที่ 1 กลางมรสุมชายแดน ปมบ้านหนองจาน

ทหารเสือเด็กปั้นลุงตู่
 

ช่วงปลายปี 2567 มีการปรับโครงสร้างหน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ (ฉก.ทม.รอ.904) โดย “ผู้บัญชาการทหารบก” (ผบ.ทบ.) ไม่ต้องเป็นทหารคอแดง ไม่ต้องควบ ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 และกลับมาเป็นทหารคอเขียว

ก่อนเกิดสงคราม 5 วัน มีกระแสข่าว “แม่ทัพใหญ่” พล.ท.อมฤต บุญสุยา แกนนำ ตท.27 ถูกวางตัวให้เป็น ผบ.ทบ.คนต่อไป ต่อจาก “แม่ทัพปู” พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ที่จะเกษียณปี 2570

ในวันนี้ พล.ท.อมฤต เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ยังอยู่ใน ฉก.ทม.รอ.904 และเป็นหัวขบวนนายทหารเสือราชินีคอแดง และหากได้เป็น ผบ.ทบ.ก็จะกลับมาเป็นแม่ทัพบกคอเขียว

พล.ท.อมฤต บุญสุยา จบการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 27 และโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 38

เริ่มต้นชีวิตราชการทหารในค่ายทหารเสือราชินี จ.ชลบุรี จากผู้บังคับกองร้อย ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ จนเป็นผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์

ที่สำคัญ พล.ท.อมฤต เติบโตมาจากค่ายทหารเสือ “ร.21 รอ.” เดินตามรอย “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และได้รับความไว้วางใจให้เป็นหัวหน้ารักษาความปลอดภัยให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในช่วงเป็นนายกรัฐมนตรี 

 

 

ทางวิบากแม่ทัพใหญ่
 

ก่อนเข้าสู่เมืองหลวงในตำแหน่งแม่ทัพน้อยที่ 1 และแม่ทัพภาคที่ 1  พล.ท.อมฤต ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ผบ.ร.2 รอ.) ค่ายพรหมโยธี

ขุนศึกบูรพานั้น แยกเป็น 2 ค่ายคือ “บูรพาพยัคฆ์” กรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ร.2 รอ.) จ.ปราจีนบุรี และ “ทหารเสือราชินี” กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21 รอ.) จ.ชลบุรี

ในแวดวงคนสีเขียวมักจะเรียก ทหารปราจีนฯ และทหารสระแก้วว่า “บูรพาชายแดน” ส่วนทหารเมืองชลมักจะไม่ค่อยได้มาข้องแวะกับเรื่องชายแดนเขมร

เมื่อเกิดวิกฤตชายแดนไทย-กัมพูชา ปมเขมรยึดบ้านหนองจาน ทำให้นักเคลื่อนไหวทางการเมืองออกมาแฉว่า มีนายทหารบางคน สมคบนักการเมืองแสวงหาผลประโยชน์ตามแนวชายแดน

พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 จึงใช้เวทีแถลงข่าวผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (RBC) เปิดใจเรื่องชายแดนที่มียุทธวิธีแตกต่างจากกองทัพภาคที่ 2
 

“กองทัพภาคที่ 1 ยืนยันในศักดิ์ศรีการรักษาประชาธิปไตย และผลประโยชน์ของชาติ และความปลอดภัยของประชาชนและทรัพย์สิน ไม่เกี่ยวกับผลประโยชน์ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในกองทัพภาคที่ 1”
 

ด้วยเหตุนี้ ฤดูกาลโยกย้ายนายทหารเดือน ก.ย.นี้ เส้นทางของ “แม่ทัพใหญ่” จะยังอยู่ที่กองทัพภาคที่ 1 หรือเข้าไลน์ 5 เสือ ทบ. ก็ต้องลุ้นกันต่อไป