svasdssvasds
เนชั่นทีวี

คอลัมนิสต์

ซุ้มแม่จัน “ยงยุทธ” ถอนแค้นกู้หน้า “สลักจฤฏดิ์” สู้ศึกเลือกตั้งซ่อมเชียงราย

ได้เวลาถอนแค้น “ยงยุทธ” บ้านใหญ่แม่จัน ลุยเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย กู้หน้า “สลักจฤฏดิ์” พ่ายศึกนายก อบจ.

13 สิงหาคม 2568 บ้านใหญ่แม่จัน ยงยุทธ ได้เวลาถอนแค้นคนกันเอง ตั้งเป้าปักธงเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย เขต 7 กู้หน้าพ่ายศึกนายก อบจ.

ตระกูลติยะไพรัช สยายปีกคุมเชียงราย หวังหยุดบ้านใหญ่สีน้ำเงิน สกัดกระแสพรรคประชาชน 

การเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย เขต 7 แทน พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้พ้นจากการเป็น สส. และเพิกถอนสิทธิทางการเมือง 10 ปี อาจดูเงียบเหงา เพราะมีแค่พรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่มีความพร้อมมากที่สุด

วันที่ 13 ส.ค.2568 สง่า พรมเมือง อดีตสมาชิกสภา อบจ.เชียงราย เขต อ.เชียงแสน ผู้สมัคร สส.พรรคเพื่อไทย เดินทางไปสมัครรับเลือกตั้งเพียงคนเดียว

หลังจากนั้น สง่าได้เปิดเวทีปราศรัยที่ลานหน้าบ้านของตัวเองในเขตเทศบาล ต.เวียงเชียงแสน โดยมี สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข และ ยงยุทธ ติยะไพรัช ช่วยปราศรัยหาเสียงให้สง่าด้วย

ผู้อยู่เบื้องหลังการลงสนาม สส.หนนี้ของ สง่า พรมเมือง ก็คือ ยงยุทธ ติยะไพรัช ประมุขบ้านใหญ่แม่จัน ซึ่งมอบให้ อิทธิพล ศรีสองสม คนสนิทของตัวเองเป็นผู้ประสานงาน

ดังที่ทราบกัน ช่วงต้นปีที่ผ่านมานี้ ตระกูลติยะไพรัช ประสบกับความผิดหวังจากสมรภูมินายก อบจ.เชียงราย เมื่อ สลักจฤฏดิ์ ติยะไพรัช ภรรยายงยุทธ พ่ายแชมป์เก่า อทิตาธร วันไชยธนวงศ์

เบื้องหลังความปราชัยของสลักจฤฏดิ์นั้น ส่วนหนึ่งมาจากปมขัดแย้งภายในซุ้มบ้านใหญ่เชียงราย ค่ายสีแดง 
 

ยงยุทธ ติยะไพรัช เจ้าถิ่นแม่จัน ลุยเลือกตั้งซ่อม

 

เส้นทางบ้านใหญ่แม่จัน
 

ยงยุทธ ติยะไพรัช พื้นเพเป็นคน อ.แม่จัน จ.เชียงราย ก่อนเล่นการเมืองเขามีกิจการรับซื้อ และแปรรูปพืชผลทางการเกษตร

ปี 2538 ยงยุทธ ลงสมัคร สส.ในสังกัดพรรคเอกภาพ และได้รับเลือกตั้งเป็น สส.เชียงราย และปี 2539 ยงยุทธย้ายมาสังกัดพรรคประชาธิปัตย์

ก่อนการเลือกตั้ง 6 ม.ค.2544 “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ชวนยงยุทธ ย้ายจากพรรค ปชป.มาสังกัดพรรคไทยรักไทย

ในรัฐบาลทักษิณ ยงยุทธเติบโตทางการเมือง ได้เป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

หลังเลือกตั้งปี 2548 ยงยุทธได้รับความไว้วางใจจากทักษิณ เลื่อนชั้นเป็นรัฐมนตรีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

จากนั้น ยงยุทธ ผงาดเป็นประมุขสภาผู้แทนฯ สมัยรัฐบาลสมัคร และชะตาตกต่ำ เมื่อเขาถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง กรณียุบพรรคพลังประชาชน

ยงยุทธ หายหน้าไปนาน และกลับมาปั้นพรรคเพื่อชาติ ร่วมกับ จตุพร พรหมพันธุ์ และสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ เข้าสู่สนามเลือกตั้งปี 2562

พรรคเพื่อชาติ ได้ สส.บัญชีรายชื่อ 5 คน ประกอบด้วย สงคราม กิจเลิศไพโรจน์, ลินดา เชิดชัย, เพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล, ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช (ลูกสาวยงยุทธ) และอารี ไกรนรา

 

ปลายปี 2565 ยงยุทธเดิน 2 ขา พาลูกสาวคนโต ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช กลับพรรคเพื่อไทย อีกขาหนึ่งก็ให้ลูกสาวคนเล็ก ปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ

“ยุทธ แม่จัน” ในฐานะกองเชียร์ ยังมีอิทธิฤทธิ์เสกให้ “โฮม” ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช เป็น สส.เชียงราย เขต 2 และน้องสาว ละออง ติยะไพรัช เป็น สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย
 

หลังทักษิณ ชินวัตร กลับเมืองไทย ยงยุทธก็ปิดฉากพรรคเพื่อชาติ เมื่อปลายปี 2566 โดยวางแผนดันภรรยา สลักจฤฏดิ์ ติยะไพรัช เป็นนายก อบจ.เชียงราย
 

ศึกท้องถิ่นเมืองเจียงฮาย “ฮั่น” มิตติ ติยะไพรัช ประธานสโมสรฟุตบอลเชียงราย ยูไนเต็ด ลูกชายยงยุทธ เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในด้านการสื่อสารการเมือง 

สลักจฤฏดิ์ รอเวลาลงการเมืองท้องถิ่นอีกรอบ
 

ล้างตาพ่ายศึกท้องถิ่น
 

ช่วงเปิดตัว สลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ลงสมัครนายก อบจ.เชียงราย ก็มีภาพความสามัคคีของบ้านใหญ่สีแดง ตระกูล “เตชะธีราวัฒน์”, “เชื้อเมืองพาน” และ “จงสุทธานามณี”

พลันที่ผลเลือกตั้งปรากฏ ก็มีคำถามในฝั่งบ้านใหญ่สีแดงมากมาย เมื่อ อทิตาธร วันไชยธนวงศ์ ค่ายสีน้ำเงิน ได้ 261,301 คะแนน เอาชนะสลักจฤฏดิ์ ที่ได้ 243,434 คะแนน

ปมพ่ายศึกท้องถิ่น เพราะคนกันเองเล่นเกมใต้ดิน ทำให้ยงยุทธเก็บตัวเงียบ และรอเวลาทวงบัญชีแค้น

กระทั่งมีการเลือกตั้งซ่อม ยงยุทธ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง จึงไปขึ้นเวทีปราศรัยเปิดตัว สง่า พรมเมือง ผู้สมัคร สส.เชียงราย เขต 7 พรรคเพื่อไทย ที่ลานข้าววันดีการเกษตร อ.เชียงแสน จ.เชียงราย

ที่สำคัญ พื้นที่เขต 7 อ.แม่จัน อ.เชียงแสน อ.เชียงของ อ.ดอยหลวง และ อ.เวียงแก่น เป็นที่มั่นการเมือง “ยุทธ แม่จัน” มาตั้งแต่ปี 2538

เวทีเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย จึงเป็นจังหวะเวลาของยงยุทธที่จะกอบกู้ศักดิ์ศรีบ้านใหญ่แม่จัน หลังพ่ายศึก อบจ.เมื่อต้นปีนี้