
2 สิงหาคม 2568 อดีตตามหลอน ฮุนเซน พัวพันคดีเชือดชู้รักนางรำ พิสิต พิลิกา โซเชียลแห่ขุดปมลับ โยงจอมบงการอดีตสตรี หมายเลข 1 ภายใต้ ระบอบบองทมหรือ พี่ใหญ่ มิต่างจากยุคเขมรแดง สื่อกัมพูชาอิสระไม่ได้ผุดได้เกิด อาศัยสื่อนอกแฉเรื่องฉาวชนชั้นนำ
คำว่า “บองทม” หมายถึงพี่ใหญ่ สื่ออิสระในกัมพูชาได้ประดิษฐ์ศัพท์การเมือง ภายใต้กลไกแบบ 1 ระบอบ 2 ลัทธิ คือกึ่งประชาธิปไตย กึ่งเผด็จการคอมมิวนิสต์ว่าเป็นระบอบบองทม
สื่ออิสระที่พยายามขุดคุ้ย เปิดโปงระบอบบองทม หรือระบอบพี่ใหญ่จะถูกกำจัดผ่านกลไกอำนาจรัฐ และอำนาจเถื่อน
นับแต่เกิดความขัดแย้งไทย-กัมพูชารอบใหม่ โซเชียลไทยต่างพากันขุดคุ้ยเรื่องฉาวของสมเด็จฮุน เซน และสมเด็จบุน รานี ทั้งปมความมั่งคั่งจากการฉ้อฉลปล้นแผ่นดิน รวมถึงเรื่องลับใต้เตียง
สองวันมานี้ ชาวโซเชียลไทยพร้อมใจกันแต่งเรื่องแต่งภาพสัมพันธ์ลับ ฮุนเซน-พล.ท.มาลี โสเจียตา ซึ่งทุกคนรู้ว่า ไม่ใช่เรื่องจริง แต่ก็แชร์ด้วยความคับแค้นใจต่อพฤติกรรมโหดเหี้ยมของจอมเผด็จการกัมพูชา
ส่วนเรื่องจริงที่คนเขมรรู้ดีแต่ไม่กล้าพูดถึงคือ ปมรักในรอยเลือดของฮุน เซน กับนางรำอัปราชื่อ พิสิต พิลิกา
เมื่อ 26 ปีที่แล้ว กรณีมือปืนบุกยิง พิสิต พิลิกา นางรำอัปราหมายเลขหนึ่งของกัมพูชา ซึ่งเวลานั้น เป็นข่าวใหญ่มาก และมีการโยงไปถึงผู้มากบารมี
เหตุฆาตกรรมเกิดขึ้นเมื่อตอนเที่ยงวันที่ 6 ก.ค.2542 ขณะที่ พิสิต พิลิกา พร้อมน้องเขย และหลานชาย กำลังไปซื้อจักรยานที่ร้านแห่งหนึ่ง กลางกรุงพนมเปญ
ในฉับพลันมือปืนบุกยิงเธอแบบกระชั้นชิด และมีการส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลคาลแม็ต เธอบาดเจ็บสาหัส และสุดท้ายเธอก็เสียชีวิต
หลังความตายของนางรำอัปราหมายเลข 1 ของประเทศกัมพูชา ได้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังสนั่นลั่นประเทศ แต่สื่อในมือระบอบบองทม กลับไม่ทำหน้าที่ไขปริศนาการถูกลอบสังหารของเธอ
มีเพียงนิตยสารรายสัปดาห์ เล็กซ์เพรสส์ (L'Express) ของฝรั่งเศสได้เผยแพร่บทความชิ้นหนึ่ง โดยระบุชื่อ บุน รานี ภริยาผู้นำกัมพูชา เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง แต่รัฐบาลกัมพูชาก็ได้ปฏิเสธรายงานข่าวนี้ออกไป
กรมตำรวจกัมพูชาได้สรุปสำนวนคดีว่า เป็นเรื่องส่วนตัวของนางรำอัปสรา ไม่ได้เกี่ยวโยงถึงเรื่องการเมือง และครอบครัวตระกูลฮุน
20 กว่าปีที่แล้ว พิสิต พิลิกา นางรำเอกแห่งคณะรอยัลเขมรแดนส์คัมปานี และเป็นดาวเด่นในกลุ่มนางรำอัปรา
นางรำอัปราคณะรอยัลเขมรแดนส์คัมปานี ประมาณ 30 นางรำที่มักออกตระเวนการแสดงในต่างแดน ทั้งไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย อิตาลี ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี และสหรัฐ
มีอยู่ครั้งหนึ่ง พิสิต พิลิกา พร้อมคณะนางรำเดินทางไปแสดงในต่างประเทศพร้อมกับผู้นำรัฐบาลกัมพูชา ทำให้เธอได้ใกล้ชิดนักการเมืองคนดัง
หลังจากนั้น มีข่าวกอสสิปในแวดวงไฮโซฯว่า นางรำอัปราตกเป็น “เมียลับ” ของฮุน เซน ทั้งที่ตัวเธอเองก็มีสามีอยู่แล้ว
สื่ออิสระในพนมเปญ เริ่มขุดค้นชีวิตส่วนตัวของพิสิต พิลิกา ที่มีวิลลาส่วนตัว มีรถหรู และมีเงินทองใช้จ่ายแบบไม่อั้น
ความลับไม่มีในโลก เมื่อ บุน รานี สืบรู้ได้ว่า สามีมีเมียลับเป็นนางรำอัปรา จึงใช้อำนาจสั่งให้เธอเก็บข้าวของออกจากวิลล่า ยึดรถยนต์ และแจ้งธนาคารอายัดเงินในบัญชีของนางรำ
หนีไม่พ้นกฎแห่งกรรม
สามีของ พิสิต พิลิกา หวาดกลัวอำนาจมืด จึงทิ้งเธอไปอยู่ที่ออสเตรเลีย ซึ่งตัวเธอเองก็มีผู้ใหญ่แนะนำให้เดินทางไปอยู่ต่างประเทศเพื่อความปลอดภัย
มีรายงานว่า ฮุน ลอกดี อธิบดีกรมตำรวจกัมพูชาในเวลานั้น ได้กล่อมให้พิสิต พิลิกา เดินทางออกจากกัมพูชา แต่เธอไม่เชื่อและดึงดันจะอยู่ในพนมเปญ จึงถูกสังหารเสียชีวิต
ปลายปี 2554 สม รังสี สมัยเป็นผู้นำพรรคฝ่ายค้านกัมพูชา ประกาศจะฟ้อง บุน รานี ภริยาสมเด็จฮุน เซน ผู้นำกัมพูชา โดยระบุว่า เป็นผู้บงการและอยู่เบื้องหลังการตายของพิสิต พิลิกา
ต่อมา สม รังสี ยื่นฟ้อง บุน รานี ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งประธานของสภากาชาดกัมพูชา ในข้อหาบงการลอบสังหารต่อศาล และการทดลองยื่นฟ้องบุน รานี กรณีการตายของพิสิต พิลิกา ก็ถูกศาลปัดตกไป
ในมุมกฎหมายคดีสังหารนางรำ ไม่มีหลักฐานโยงไปถึงตระกูลฮุน แต่เรื่องของเวรกรรม ตระกูลฮุนยังสลัดไม่พ้นเจ้ากรรมนายเวร
26 ปีผ่านไปแล้ว คดีสังหารนางรำอัปสรา ก็ยังตามหลอกหลอนตระกูลฮุน ไม่เลิกรา โดยเฉพาะเกรียนคีย์บอร์ดฝั่งไทยไปไกลถึงการแต่งนิยายเรื่องใหม่ เขย่าใต้เตียงระบอบบองทมกัมพูชา