svasdssvasds
เนชั่นทีวี

คอลัมนิสต์

ปริศนา “สรัยดึก” ขุนศึกพระวิหาร “ฮุนเซน” ปิดข่าวร้ายแม่ทัพใหญ่ชายแดน

อดีตเขมรแดง “สรัยดึก” ล่องหน “ฮุนเซน” สั่งกลาโหมกัมพูชาปฏิเสธข่าวเสียชีวิต กำลังพลยากทำใจรับข่าวร้าย

30 กรกฎาคม 2568 ขุนศึกพระวิหาร สรัยดึก ล่องหน ฮุนเซน สั่งกลาโหมกัมพูชา ปฏิเสธข่าวเสียชีวิต กระทบขวัญกำลังใจทหารชายแดน

ส่องเส้นทาง สรัยดึก อดีตเขมรแดง ผู้ชำนาญพื้นที่พระวิหาร กรำศึกสมรภูมิพนมดงรัก มายาวนานกว่า 30 ปี

เช้าวันที่ 30 ก.ค.2568 กระทรวงกลาโหมกัมพูชา ได้ออกมาปฏิเสธการรายงานของหนังสือพิมพ์ไทยฉบับหนึ่งที่ระบุว่า พล.อ.สรัย ดึก ได้เสียชีวิตแล้ว

เพจเฟซบุ๊กกระทรวงกลาโหมกัมพูชา มีข้อความว่า “การเผยแพร่ของสื่อไทยดังกล่าวเป็นข่าวปลอม ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าเข้าใจผิด โปรดหยุดเผยแพร่และอย่าแบ่งปันข้อมูลนี้”

อันเนื่องจากกระแสข่าว พล.อ.สรัย ดึก ผู้บัญชาการรองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 เสียชีวิตที่สมรภูมิช่องบก อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร เมื่อวันที่ 28 ก.ค.2568 ยังคงเป็นปริศนาทางฝั่งกัมพูชา เพราะไม่มีใครยืนยันการเสียชีวิตของแม่ทัพใหญ่

นัยว่า สมเด็จฮุน เซน ได้มีคำสั่งตรงถึงกระทรวงกลาโหม ให้ออกข่าวชี้แจง เพื่อคลายความสงสัยของประชาชน  

ก่อนหน้านั้น มีสื่อเขมรบางสำนักที่ออกมาตอบโต้สื่อไทยว่า พล.อ.สรัยดึก ยังสบายดี มีสุขภาพแข็งแรง แต่ไม่มีภาพมายืนยันเป็นหลักฐาน

แหล่งข่าวชายแดนไทย-กัมพูชาเปิดเผยว่า ข่าว พล.อ.สรัยดึก ดับคาสนามรบ ทำให้ทหารกัมพูชา เกิดอาการขวัญเสียตลอดทั้งหน้าแนว

ดังที่ทราบกัน พล.ต.ดวง ซอมเนียง ผู้บัญชาการกองพลน้อยแทรกแซงที่ 7 ได้เสียชีวิตที่สมรภูมิรบช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ ก็ถือว่าเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของกองทัพพูชา

หากข่าว “ขุนศึกพระวิหาร” พล.อ.สรัยดึก เสียชีวิตจริง ย่อมจะส่งผลสะเทือนต่อขวัญกำลังใจทหารในแนวหน้าอย่างใหญ่หลวง
 

ไม่มีสรัยดึกที่ช่องอานม้า
 

มีข้อน่าสังเกตในวันที่ 30 ก.ค.นี้ พล.อ.รัต ดารารัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้นำคณะผู้แทนทหาร และเจ้าหน้าที่ทูตจาก 13 ประเทศ พร้อมกองทัพสื่อเข้าตรวจสอบสถานการณ์จริงในพื้นที่สมรภูมิช่องอานม้า จ.พระวิหาร

ถ้าแม่ทัพใหญ่ พล.อ.สรัย ดึก ยังมีชีวิตอยู่จริง ก็ต้องปรากฏตัวให้สื่อเขมรและคณะผู้แทนทหารต่างชาติได้เห็นหน้าแล้ว

จ.พระวิหาร เป็นยุทธภูมิของแม่ทัพสรัยดึก การที่นายพลคนดังไม่ปรากฏตัว ย่อมถูกอนุมานได้ว่า เขาคงบาดเจ็บหนัก หรือไม่ก็เสียชีวิตแล้ว

เช้าวันเดียวกัน ที่กรุงพนมเปญ สมเด็จพิชัยเสนา เตีย บัญ ที่ปรึกษาพิเศษในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ได้เป็นประธานในพระราชทานเพลิงศพ พล.ต.ดวง ซอมนียง ผู้บัญชาการกองพลน้อยแทรกแซงที่ 7 สังกัดกองพลใหญ่แทรกแซงที่ 3

การสูญเสีย พล.ต.ดวง ก็ยากที่จะรับได้ของกองทัพกัมพูชา หากต้องประกาศให้คนกัมพูชาทราบว่า พล.อ.สรัยดึก เสียชีวิต อาจสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั้งประเทศ 

พล.อ.สรัย ดึก ยังเป็นปริศนา บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

 

เขมรแดงสู่ขุนศึกฮุนเซน
 

ย้อนฉากการสู้รบไทย-กัมพูชา ปี 2551-2554 ชื่อ “สรัยดึก” จะปรากฏในสื่อไทยมากกว่านายพลคนอื่น เนื่องจากเป็นผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ซึ่งเป็นกำลังหลักในการสู้รบที่เขาพระวิหาร และภูมะเขือ

นายพลสรัยดึก เป็นอดีตนายทหารเขมรแดง สมัยสงครามเขมร 4 ฝ่าย ซึ่งที่มั่นใหญ่ของเขมรแดงเวลานั้นอยู่ที่เมืองอัลลองเวง จ.อุดรมีชัย

ดังนั้น สมเด็จฮุน เซน จึงใช้กำลังทหารของสรัยดึก ทำการสู้รบแถวเขาพระวิหาร เพราะกำลังพลส่วนใหญ่เป็น “อดีตทหารเขมรแดง” ที่คุ้นเคยกับเทือกเขาพนมดงรัก

พล.อ.สรัย ดึก ใช้ชีวิตทหารอยู่แถวชายแดนไทย-กัมพูชา มานานตั้งแต่สมัยเป็นเขมรแดง จนมาถึงยุคกองทัพราชอาณาจักรกัมพูชา จึงรู้จักมักคุ้นกับทหารไทย โดยเฉพาะนายทหารในกองทัพภาคที่ 2

การเจรจายุติการสู้รบเมื่อเดือน พ.ค.2554 พล.อ.สรัย ดึก ก็เป็นผู้นำพา ฮุน มาเนต ซึ่งเวลานั้นเป็น รอง ผบ.ทบ.มาทำสัญญาสงบศึกกับกองทัพภาคที่ 2

เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา พล.อ.สรัย ดึก เป็นหัวหน้าคณะนายทหารกัมพูชาเจรจากับ พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก

วันนั้น ทหารทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงคือ ทหารกัมพูชาได้ยินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยอยู่เดิม นั่นคือภารกิจสุดท้ายในการพูดคุยกับทหารไทยหรือไม่ อีกไม่นานความจริงคงปรากฏชัด

วันนี้ ไม่มีนายพลคนดังที่ช่องอานม้า จ.พระวิหาร