อนาคตของ Dragon Ball จะเป็นอย่างไรหลังจากนี้?

มีนาคม ปี 2024 กลายเป็นเดือนที่แฟนการ์ตูนญี่ปุ่นทั่วทั้งโลกต้องสะเทือนใจร่วมกัน เมื่อการข่าวประกาศอย่างเป็นทางการว่า ‘อากิระ โทริยามะ’ ผู้สร้างมังงะ Dragon Ball ที่ถือว่าเป็นผลงานที่ทำให้อุตสาหกรรมมังงะ-อนิเมะของญี่ปุ่นขจรไกลไปทั่วโลก ได้เสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ปี 2024 ที่ผ่านมา

นอกจากความเสียใจต่อการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของอาจารย์ และการระลึกถึงผลงานของอาจารย์ว่ากลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตใครหลายคนได้อย่างไร อีกหนึ่งคำถามที่เกิดขึ้นภายในใจหลายคนก็คือ แล้วหลังจากนี้ผลงานจากแฟรนไชส์ Dragon Ball จะเป็นอย่างไรต่อไป

ณ เวลานี้ พอจะบอกได้ว่า เรื่องราวการผจญภัยในจักรวาลดังกล่าวยังคงดำเนินต่อไปอีกระยะแน่นอน
 

อย่างเช่นผลงานที่ดำเนินการสร้างไปแล้ว ทั้งมังงะ Dragon Ball Super ที่น่าจะดำเนินเรื่องราวตามโครงเรื่องที่อาจารย์ อากิระ โทริยามะ วางไว้ต่อไป แม้ตอนนี้จะมีการจะมีการประกาศหยุดพักไปแบบไม่มีกำหนด ส่วนอนิเมะฉลองครบรอบ 40 ปี ของแฟรนไชส์อย่าง Dragon Ball Daima ก็มีการยืนยันแล้วว่าจะยังคงกำหนดฉายในช่วงปลายปี 2024 ตามเดิม เพราะคาดว่าตัวอนิเมะดังกล่าวได้ผ่านขั้นตอนการผลิตเสร็จไปในบางส่วน รวมถีงมีพล็อตหลักชัดเจนแล้ว

และถ้ามองย้อนไปในอดีต เราเคยได้เห็นผลงานนิเมะอย่าง Dragon Ball GT ที่อาจารย์อากิระ โทริยามะ ทำหน้าที่ออกแบบตัวละครหลัก และให้ไอเดียในการตั้งชื่อภาค ส่วนที่เหลือเป็นเนื้อหาออริจินัลที่อาจารย์ไม่ได้มีส่วนร่วมแต่อย่างใด

แต่ถ้าตั้งคำถามว่า Dragon Ball หลังจากนี้ยังมีอะไรที่น่าจะ ‘สมกับเป็นดราก้อนบอล’ หรือไม่ เราอาจจะต้องคุยกันต่ออีกสักนิด

แม้ว่าประเทศญี่ปุ่นมักจะเลือกอวสานผลงาน ถ้าหากผู้สร้างเสียชีวิตกะทันหัน กระนั้นในแง่ที่เจ้าของผลงานต้นฉบับมังงะญี่ปุ่นเสียชีวิตไป แต่ผลงานยังดำเนินเรื่องต่อไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่
 

โดยในฝั่งมังงะก็มีกรณีผลงานเรื่อง Berserk ของอาจารย์เคนทาโร มิอูระ, เครยอนชินจัง ของ อาจารย์โยชิโตะ อุซุย, และ จิบิมารุโกะจัง ของ อาจารย์โมโมโกะ ซากูระ ที่ตัวนักเขียนเสียชีวิตระหว่างที่ผลงานยังตีพิมพ์อยู่ ซึ่งกองบรรณาธิการต่างใช้ทางแก้ลักษณะเดียวกัน คือการให้ลูกมือที่เคยทำงานกับอาจารย์เจ้าของผลงานมาทำการวาดเรื่องราวที่พอจะมีโครงสร้างให้ดำเนินต่อไป

Dragon Ball ก็ยังมีมังงะภาค Super ที่มีอาจารย์ โทโยทาโร (Toyotarou) ทำหน้าที่เป็นผู้วาดภาพให้กับมังงะเรื่องนี้ นอกจากที่จะมีลายเส้นใกล้เคียงกับ อาจารย์อากิระ โทริยามะ อย่างมาก อาจารย์โทโยทาโรยังเป็นผู้ที่เสริมเนื้อหาหลายส่วนระหว่างทางเข้าไปด้วย ดังนั้นตัวมังงะน่าจะดำเนินเรื่องต่อไปได้อีกระยะหนึ่ง และเชื่อว่าจะมีความตะกุกตะกักระหว่างทางน้อยกว่าผลงานเรื่องอื่นๆ

ส่วนในสื่ออื่นๆ เชื่อว่าจะใช้กรณีเดียวกันกับการจัดหาบริษัทเพื่อมาบริหารดูแลทรัพย์สินทางปัญญาของนักเขียน แบบในลักษณะที่เกิดขึ้นกับ อาจารย์ Fujiko F. Fujio หรือ อาจารย์ฮิโรชิ ฟูจิโมโตะ ผู้วาดโดราเอมอน ที่เริ่มทำงานแยกส่วนกับอาจารย์ Fujiko Fujio A หรือ อาจารย์อาบิโกะ โมโตโอะ ชัดเจนขึ้น โดยทำการจัดตั้งบริษัทเพื่อบริหารการถือสิทธิ์และบริหารงานถ้าหากเกิดเหตุสุดวิสัยขึ้น

หรือกรณีคล้ายๆ กัน ก็จะเป็น Tezuka Productions บริษัทของอาจารย์เทซูกะ โอซามุ ที่เจตนาแรกเริ่มเปิดมาเพื่อรับงานสร้างอนิเมชั่น แต่หลังจากที่อาจารย์เทซกะเสียชีวิตไป บริษัทก็ทำการบริหารทรัพย์สินทางปัญญาจากผลงานของปรมาจารย์มังงะทั้งหมดด้วย

เหตุผลที่คาดการณ์ว่า อากิระ โทริยามะ จะใช้แนวทางนี้ เพราะตัวอาจารย์เองก็มี Bird Studio เป็นรูปบริษัทในการดูแลงานผลิตมังงะกับออกแบบเครื่องจักรอยู่แล้ว ดังนั้นบริษัทดังกล่าวน่าจะเข้ามาดูแลผลประโยชน์ในฟากมังงะ ร่วมกับทาง Shueisha ที่เป็นสำนักพิมพ์ต้นสังกัด

และในช่วงปลายปี 2023 ยังมีการเปิดตัวบริษัท Capsule Coperation Tokyo โดยตัวบริษัทดังกล่าวมี อากิโอะ อิโนะ เป็นผู้ก่อตั้งและรับหน้าที่ประธานบริษัท ซึ่งบุคลากรท่านนี้ เดิมทีเขาเคยทำงานที่ Shueisha ทั้งในฐานะกองบรรณาธิการ, บรรณาธิการบริหารของ นิตยสาร V-Jump และ Saikyo Jump ก่อนจะย้ายทำงานใน 'ห้องดราก้อนบอล' แผนกที่ก่อตั้งมาเพื่อรับผิดชอบการบริหาร-จัดการ-พัฒนา สินค้าที่เกี่ยวพันกับแฟรนไชส์ Dragon Ball โดยเฉพาะ

อากิโอะ อิโนะ ยังเป็นคีย์แมนคนสำคัญที่ทำให้การพัฒนาอนิเมะ Dragon Ball ชุดหลังเป็นรูปร่างที่ถูกใจแฟนคลับเก่ากว่าที่เคย และดึงดูดให้แฟนคลับใหม่เข้ามาสนใจผลงานเรื่องดังกล่าว ด้วยการร่วมวางแผนงานในการสร้างภาพยนตร์อนิเมะ Dragon Ball Z และ Dragon Ball Super ภาคหลังๆ กล่าวกันว่าเขาเป็นคนเสนอแผนงานให้นำเอาตัวละครเก่าที่คนจดจำได้อย่าง โบรลี และ ฟรีเซอร์ ให้กลับมาโลดแล่นบนหน้าจออีกครั้ง และในอนิเมะ Dragon Ball Daima เขาก็รับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาในงานสร้างอีกด้วย

ส่วนตัวบริษัทของ อากิโอะ อิโนะ ในตอนนี้ยังไม่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะอย่างชัดเจนว่าทำงานด้านใดบ้าง แต่สื่อญี่ปุ่นคาดการณ์ไว้ว่า บริษัทดังกล่าวจะดูแลด้านการพัฒนาอนิเมะกับวิดีโอเกม และถ้าอ้างอิงข้อมูลจากจดหมายแถลงการณ์แจ้งข่าวเสียชีวิตของอาจารย์โทริยามะ มีการลงชื่อร่วมกันของทาง Bird Studio กับ Capsule Coperation Tokyo ด้วยเหตุนี้จึงพอคาดการณ์ได้ว่า ความสัมพันธ์ของกลุ่มบุคคลเหล่านี้น่าจะดำเนินการได้ดี

นอกจากนี้ยังเคยมีการพูดคุยกันว่า ซาซูเกะ โทริยามะ ลูกชายของอาจารย์โทริยามะ จะรับหน้าที่ร่วมบริหารจัดการผลงานที่พ่อของเขาเป็นผู้สร้างเอาไว้ด้วย ซึ่งก็เป็นสิ่งยืนยันได้ว่า อย่างน้อย Dragon Ball จะได้รับการดูแลด้วยกลุ่มบุคคลที่เข้าใจผลงานดังกล่าวไปอย่างน้อยอีกสักหนึ่งทศวรรษ

หรือถ้ามีเหตุฉุกละหุกจริงๆ อาจารย์ซาซูเกะ โทริยามะ ก็มีผลงานเก่าที่น่าสนใจเพื่อมาพัฒนาเป็นผลงานใหม่ได้ในยุคปัจจุบัน อย่างที่เห็นจากการนำเอาเรื่อง Sandland มาสร้างเป็นอนิเมะกับวิดีโอเกมภาคใหม่ หรือ ตัวผลงานที่มาจากลูกศิษย์ลูกหาสายตรงอย่าง Dragon Ball ภาคพิเศษ เกิดใหม่เป็นยามูชา โชะเด๊ะ ที่อาจารย์ dragongarow LEE เป็นผู้วาด กับ Dragon Ball SD ของอาจารย์โออิชิ นาโฮะ เป็นผู้วาด ก็มีความน่าสนใจจะหยิบจับมาสร้างเป็นอนิเมะ

แต่เราก็ต้องยอมรับอีกส่วนหนึ่งว่า ถึงเวลาหนึ่ง Dragon Ball อาจจะต้องประสบปัญหาขลุกขลักในการสร้างผลงานฉบับใหม่บ้าง เพราะผู้สร้างดั้งเดิมไม่อยู่กับเราอีกต่อไปแล้ว แต่ถ้าหากดูผลงานอื่นที่ผู้สร้างเสียชีวิตไปแล้ว ก็เคยพบกับจุดที่ผลงานภาคใหม่นั้นมีความผิดทิศทางจากต้นฉบับระดับที่คนดูมานานสัมผัสได้โดยง่าย ก็พลิกกลับมาสร้างผลงานที่มีกลิ่นอายสมกับเรื่องนั้น แต่ก็มีอรรถรสที่สอดคล้องกับยุคสมัยใหม่ด้วย

นั่นก็เพราะ ผู้คนที่เติบโตและจดจำแฟรนไชส์ Dragon Ball จะมารวมตัวกันเพื่อสร้างผลงานที่ในที่สุดก็จะไปหล่อหลอมตัวตนให้เหล่านักสร้างสรรค์ยุคถัดไป และเชื่อว่าผู้ที่มารับไม้ต่อจะใส่สิ่งที่พวกเขาชื่นชอบในยุคปัจจุบันลงไป โดยไม่ลืมเส้นทางการผจญภัยที่ได้รับมาในอดีต ออกมาเป็นผลงานที่ส่งความความทรงจำให้คนรุ่นหลังได้ติดตาม