svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ไลฟ์สไตล์

‘Navalny’ ศัตรูตัวฉกาจของปูติน กับสารคดีชีวิตที่ทิ้งไว้ก่อนตาย

อเล็กเซ นาวาลนี ศัตรูคนสำคัญของ วลาดิเมียร์ ปูติน คนที่ปูตินเกลียดถึงขั้นไม่อยากเอ่ยชื่อ เขาได้เสียชีวิตลงระหว่างถูกจำคุกในประเทศรัสเซีย สำหรับใครที่อยากรู้จักคนคนนี้ ‘Navalny’ คือสารคดีที่เล่าชีวิตของนาวาลนีไว้อย่างดีเยี่ยมจนได้รับรางวัลออสการ์ปี 2023

24 กุมภาพันธ์ 2024 ถือเป็นวันครบรอบสองปีที่รัสเซียบุกยูเครน สงครามที่ยืดเยื้อจนบางคน (หรือกระทั่งผู้เขียนเอง) ไม่ได้ติดตามข่าวสารใกล้ชิดเหมือนช่วงแรก จากความกังวลใจแปรเปลี่ยนเป็นความเคยชิน เฉยชา หรือเมินเฉย แต่สำหรับชาวยูเครนนี่คือความชินแบบจำทน การเตรียมพร้อมจะมีขีปนาวุธยิงเข้ามาในเมืองได้ทุกเมื่อ หรือต้องทำใจว่าอาจต้องลี้ภัยออกจากบ้านเกิด หากกองทัพรัสเซียรุกคืบเข้ามา

Navalny (2022)

ช่วงปีแรกของสงคราม สถานการณ์ฝั่งยูเครนดูมีแนวโน้มที่ดี ทั้งขวัญกำลังใจของฝ่ายทหารและพลเรือนภายใต้การนำของประธานาธิบดี โวโลดีมีร์ เซเลนสกี รวมถึงการสนับสนุนยุทโธปกรณ์จากชาติตะวันตก แต่การสู้รบผ่านไปสองปี ทหารเริ่มอ่อนแรงลงทั้งทางกายและใจ ส่วนฝั่งชาติตะวันตก—โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาและเยอรมนี—ก็เกิดความขัดแย้งภายในประเทศต่อเรื่องงบประมาณที่จะช่วยเหลือยูเครนต่อ

อีกเหตุการณ์สำคัญที่อาจไม่ได้เกี่ยวกับยูเครนโดยตรง แต่ทำให้รูปการณ์โดยรวมยิ่งหดหู่ไปอีก คือการเสียชีวิตของ อเล็กเซ นาวาลนี เมื่อ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นาวาลนีคือผู้ต่อต้าน วลาดิเมียร์ ปูติน คนสำคัญ เขาออกมาโจมตีและแฉถึงการคอร์รัปชั่นของปูตินและชาวคณะอย่างต่อเนื่อง ว่ากันว่าปูตินเกลียดนาวาลนีมากถึงขนาดไม่ยอมเอ่ยชื่อเขาออกมาตรงๆ โดยนาวาลนีเสียชีวิตขณะถูกคุมขังในคุกรัสเซีย ในเบื้องต้นทางการรัสเซียแถลงว่ามาจากปัญหาสุขภาพของเจ้าตัว แต่แน่นอนว่าครอบครัวของนาวาลนีและคนทั่วโลกพร้อมใจกันเชื่อว่าผู้อยู่เบื้องหลังคือปูตินหรือไม่ก็คนใหญ่คนโตสักคนในรัฐบาลเครมลิน

Navalny (2022)
 

หากอยากทราบเรื่องราวชีวิตของนาวาลนีก็สามารถทำได้ง่ายจากการชมสารคดี Navalny (2022, แดเนียล โรเฮอร์) เจ้าของรางวัลสารคดียอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์ 2023 (ชมได้ทางสตรีมมิ่ง HBO GO) นี่เป็นสารคดีที่ดูสนุกและตื่นเต้นมาก ไม่ใช่เพราะว่านาวาลนีเป็นคนใช้ชีวิตผาดโผน หากเพราะคู่ต่อสู้ของเขาคือปูติน ผู้ทำอะไรเหนือการคาดเดาได้เสมอ (อย่างเช่นการบุกยูเครนก็เป็นสิ่งที่นานาชาติไม่คิดว่าปูตินจะเลือกเส้นทางที่รุนแรงเช่นนี้) หนังเปิดเรื่องด้วยการที่นาวาลนีถูกวางยาพิษขณะโดยสารเครื่องบินเมื่อปี 2020

นาวาลนีถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลในรัสเซีย ภรรยาของเขาถูกเจ้าหน้าที่รัฐบาลขัดขวางไม่ให้เจอหน้าสามี แพทย์รัสเซียแถลงว่านี่ไม่ใช่การวางยา ไม่ใช่พบสารผิดปกติใดๆ แต่ด้วยความช่วยเหลือ (และกดดัน) ของรัฐบาลเยอรมนี ท้ายสุดนาวาลนีและครอบครัวได้ลี้ภัยไปประเทศดังกล่าว แพทย์ฝั่งเยอรมนีกลับตรวจพบสารโนวีชอก (Novichok) ในร่างกายของนาวาลนี ซึ่งสารนี้ถูกผลิตในรัสเซีย มีความเชื่อกันว่ามันคือสารพิษที่รัฐบาลใช้กำจัดฝ่ายตรงข้ามมาอย่างยาวนาน

Navalny (2022)

ช่วงที่พำนักอยู่ในเยอรมนี สารคดีพาเราไปสำรวจมิติต่างๆ ของนาวาลนี เช่น เวลาส่วนตัวที่เขาหยอกล้อกับภรรยาและลูกๆ เราได้เห็นว่าเขาเป็นคนมีอารมณ์ขัน และดูเหมือนจะใช้โซเชียลมีเดียเก่งกว่าพวกลูกๆ เสียอีก แต่ในด้านที่จริงจัง ผู้กำกับก็นั่งคุยกับนาวาลนีถึงจุดยืนทางการเมืองของเขาอย่างตรงไปตรงมา สิ่งที่ดีคือผู้สร้างไม่ได้อวยนาวาลนีอย่างไม่ลืมหูลืมตา แต่ทำให้เห็นว่าเขาก็มีความย้อนแย้งอยู่ในตัว เมื่อถามว่าทำไมเขาถึงไปเดินขบวนกับพวกขวาจัดหรือนีโอนาซี นาวาลนีตอบอย่างชัดเจนว่าในการต่อสู้กับปูติน ต่อให้อีกฝ่ายเป็นนาซีแต่ต่อต้านปูติน เราก็ต้องไม่ทอดทิ้งพวกเขา นี่คือบริบทเฉพาะตัวของรัสเซีย

Navalny (2022)

อย่างไรก็ดี นาวาลนีไม่ได้พักผ่อนอย่างสบายใจในเยอรมนี เขาฟอร์มทีมขึ้นมาเพื่อสืบสาวว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลังการพยายามสังหารเขา จนในที่สุดก็ได้รายชื่อมาจำนวนหนึ่ง ความยียวนของนาวาลนีคือโทรศัพท์ไปหาคนเหล่านั้นด้วยตัวเองพร้อมถ่ายวิดีโอขณะสนทนาเก็บไว้ และเมื่อนาวาลนีปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากรัสเซียในตอนที่คุยกับนักวิทยาศาสตร์รายหนึ่ง อีกฝ่ายก็เปิดเผยข้อมูลการวางยามาแทบหมดเปลือก นาวาลนีส่งคลิปสนทนานั้นไปให้กับสำนักข่าวใหญ่ทั่วโลก จนมันกลายเป็นข่าวไวรัลร้อนแรง เดาได้ไม่ยากว่ารัฐบาลรัสเซียออกมาปฏิเสธทันที แถมยังถ่มถุยว่านาวาลนีเป็นพวกปลิ้นปล้อนสร้างความเท็จ ส่วนนักวิทยาศาสตร์รายนั้นก็หายตัวไปอย่างลึกลับตามระเบียบ

Navalny (2022)

ต่อมาในปี 2021 นาวาลนีก็ทำสิ่งที่ทั้งโลกต้องอึ้ง เมื่อเขาตัดสินใจเดินทางกลับไปสู้คดีในรัสเซีย แทนที่จะลี้ภัยในเยอรมนีต่อไป นาวาลนีบอกว่าเขาไม่ต้องการหนี ต้องการสู้กับระบบ แม้ว่ามันจะเป็นการสู้ที่ไม่แฟร์เลย ตามคาดว่านาวาลนีถูกจับตัวตั้งแต่ที่สนามบิน เขาถูกตัดสินจำคุกราว 20 ปีด้วยข้อหาเป็นพวกหัวรุนแรงและอีกสารพัด จนเขาจากโลกนี้ไปอย่างที่เล่าในตอนต้น

น่าขนลุกว่าในสารคดี Navalny มีฉากที่ผู้กำกับขอร้องให้นาวาลนีพูดสั่งเสียกับชาวรัสเซีย หากวันหนึ่งเขาถูกสั่งฆ่าขึ้นมา ตอนแรกนาวาลนีทำติดตลกไม่ยอมพูด บอกว่าเขาไม่ตายง่ายๆ หรอก แต่สุดท้ายเขาก็พูด และเป็นสารที่น่าจับใจอย่างยิ่ง เขากล่าวว่า “พวกคุณไม่ได้รับอนุญาตให้ยอมแพ้นะ ถ้าพวกเขาฆ่าผม นั่นก็แปลว่าพวกเรานั้นแข็งแกร่ง ต้องจดจำไว้ว่าเราคือพลังอันยิ่งใหญ่ สิ่งเดียวที่ทำให้พวกชั่วร้ายชนะก็คือการที่คนดีๆ ไม่ยอมทำอะไร ดังนั้นโปรดอย่านิ่งเฉยครับ”

Navalny (2022)

หลังการตายของนาวาลนี เริ่มมีการเคลื่อนไหวของประชาชนฝั่งต่อต้านปูตินอยู่บ้าง แต่ก็เป็นเพียงแรงกระเพื่อมเล็กๆ ท่ามกลางการปราบปรามผู้เห็นต่างอย่างเข้มงวดของฝั่งรัฐบาล เราไม่อาจแน่ใจได้นักว่าคำทิ้งท้ายของนาวาลนีจะเป็นจริงในสักวันหรือไม่ แต่อย่างน้อยที่สุดครอบครัวของเขาจะสืบต่อภารกิจต่อไป ยูเลีย—ภรรยาของนาวาลนี—ให้สัมภาษณ์โจมตีปูตินอย่างต่อเนื่อง ส่วนดาชา—ลูกสาวของเขา—ได้พูดไว้บนเวที TED Talks ว่า “รัสเซียคือบ้านของฉัน มันคือที่ที่ฉันเกิด ที่ที่ฉันเติบโตมา สถานที่ที่ทำให้ฉันเป็นฉันทุกวันนี้ และฉันสัญญาว่าฉันจะยังพูดและบอกเล่าความจริงต่อไป ฉันจะสู้จนกว่ารัสเซียกลายเป็นประเทศที่มีอิสระและเป็นประชาธิปไตย”