
31 มีนาคม 2567 เพจเฟซบุ๊ก ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้โพสต์ภาพของ "กิ้งก่าบิน" พร้อมระบุข้อความว่า สุดยอดการพรางตัว..."กิ้งก่าบิน" มังกรน้อยแห่งป่าทึบ
วันนี้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว เก็บภาพความน่ารักของกิ้งก่าบินขณะเกาะอยู่บนต้นไม้มาให้ได้ชมกัน แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าภาพแรกไม่ได้หาเจอกันง่ายๆ นะเพราะน้องพรางตัวได้เนียนมากๆ ใครหาเจอแล้วคอมเมนต์บอกแอดมินด้วยนะครับ ยังหาไม่เจอเหมือนกัน
กิ้งก่าบิน เป็นสัตว์เลื้อยคลานที่สามารถร่อนได้ไกล เพราะด้วยขนาดตัวและแผ่นหนังขนาดใหญ่ที่กางออกจากด้านข้างลำตัวทำให้สามารถร่อนได้ไกลกว่า 60 เมตร จากต้นไม้สูงถึง 10 เมตร อาศัยอยู่ในป่าดิบ มักใช้ชีวิตอยู่บนต้นไม้และขุดหลุมตื้นๆ ตามพื้นดินไว้วางไข่
ภาพถ่าย : นายวิศรุต ธรรมสรางกูร เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิชาการและจัดการทรัพยากร เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว
รู้จัก "กิ้งก่าบิน" ให้มากขึ้น
ผู้เขียนขออ้างอิงข้อมูลจากเพจ สำรวจโลก และ Eco-learners ซึ่งระบุเกี่ยวกับ "กิ้งก่าบิน" ไว้ว่า กิ้งก่าบิน (Flying lizard) หรือ ที่ในภาคอีสานเรียกว่า "กะปอมปีก" จัดว่าเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่มีประสิทธิภาพในการร่อนมากที่สุด ข้างลำตัวมีแผ่นหนังขนาดใหญ่ ซึ่งเขาสามารถทำให้แผ่นหนังทั้งหมดกางออกได้
กิ้งก่าบินจัดได้ว่าเป็นกิ้งก่าขนาดเล็ก มีความยาวลำตัวส่วนมากไม่เกิน 20 เซนติเมตร แต่หางจะมีความยาวมากกว่าลำตัว พบกระจายพันธุ์ในป่าของเอเชียใต้ และเอเชียอาคเนย์ เช่น ภาคอีสานในประเทศไทย และพบได้ชุกชุมในป่าดิบของแหลมมลายู มีทั้งหมด 31 ชนิด
ส่วนความสามารถของเจ้าตัวน้อย ที่ทิ้งตัวจากต้นไม้สูง 10 เมตร สามารถร่อนได้เป็นระยะทางไกลกว่า 60 เมตร และลงเกาะบนต้นไม้หรือพื้นที่ที่อยู่ต่ำลงได้จากเดิมได้ 2 เมตร อีกทั้ง ยังสามารถเปลี่ยนสีของผิวหนังตามสิ่งแวดล้อมที่ตัวเขาอยู่ได้เหมือนกิ้งก่าทั่วไป เพื่ออำพรางศัตรู รวมถึง ล่าเหยื่อ
เหตุผลของการร่อน
มีเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับกิ้งก่าบิน โดยเป็นข้อมูลจากเพจ Eco-learners พบว่า การร่อนของกิ้งก่าบิน นอกจากจะเป็นการหลบหลีกผู้ล่า การร่อนของเขา โดยเฉพาะตัวผู้ ยังมีไว้เพื่อตรวจตราอาณาเขตของตัวเอง (ต้นไม้ไม่กี่ต้น) ในแนวดิ่งได้อย่างทั่วถึง
ทั้งนี้ แม้เขตหวงห้ามของกิ้งก่าบินหนุ่ม อาจไม่ได้กว้างขวางมากนัก แต่ถ้าวัดปลายยันโคนต้นไม้ในป่าดิบที่สูงประมาณตึก 10 ชั้นแล้วล่ะก็ งานป้องกันอาณาเขตเลยไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะกว่าจะไต่ขึ้นลง เลยจำเป็นต้องใช้การร่อนนั่นเอง
นอกจากนี้ กิ้งก่าบินตัวผู้อาจไม่ลงพื้นเลย จะมีก็แต่ตัวเมียที่จำเป็นต้องลงพื้นเพื่อวางไข่
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก :
เฟซบุ๊กเพจ ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
สำรวจโลก
Eco-learners
นานาสาระ