ย้อนกลับไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา สว. ซึ่งนำโดย "เสรี สุวรรณภานนท์" ในฐานะประธาน กมธ. การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ได้ยื่นเรื่องต่อ "พรเพชร วิชิตชลชัย" ประธาน สว. เมื่อวันที่ 22 ม.ค. เพื่อขอเปิดอภิปรายพร้อมให้คำเสนอแนะแก่รัฐบาล
สำหรับเหตุผลหลักในการเปิดอภิปรายครั้งนี้ คือ รัฐบาลไม่ได้ดำเนินการตามนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อสภา
7 ประเด็นที่ สว. หยิบยกมาอภิปราย ประกอบด้วย
1.ปัญหาเศรษฐกิจชาติและปากท้องประชาชน
สว.ที่แสดงความจำนงอภิปราย
2.ปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรม และการบังคับใช้กฎหมาย
สว.ที่แสดงความจำนงอภิปราย
3.ปัญหาด้านพลังงาน
สว.ที่แสดงความจำนงอภิปราย
4.ปัญหาด้านการศึกษาและสังคม
สว.ที่แสดงความจำนงอภิปราย
5.ปัญหาด้านการต่างประเทศและการท่องเที่ยว
สว.ที่แสดงความจำนงอภิปราย
6.ปัญหาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
สว.แสดงความจำนงอภิปราย
7.ปัญหาการดำเนินการปฏิรูปประเทศ และการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ
สว.แสดงความจำนงอภิปราย
เปิดอภิปรายไร้ดีลการเมือง
โดย "วันชัย สอนศิริ" สว. ได้เปิดเผยผ่านรายการ "คมชัดลึก" เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องดีลอะไร แต่เป็นเพราะคิดว่าไม่เคยใช้สมัยรัฐบาลลุงตู่ อีกทั้ง มองว่าตลอด 5-6 มาแล้ว รัฐบาลดูไม่เป็นโล้เป็นพาย จึงได้ยื่นเปิดอภิปราย ไม่มีนัยการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น หรือมี ป. ไหน สั่งการมา
"เกิดจากความสุจริตใจ เพื่อสะท้อนความรู้สึกประชาชน เพราะรู้อยู่แล้วไม่สามารถล้มรัฐบาลได้ ดังนั้น ดีลหรือสัญญากับใครไม่มี มีแต่จิตวิญญาณ และความรู้สึกแต่ละคนเท่านั้น เป็นการเซ็นเพื่อเปิดอภิปรายเท่านั้น ล้มหรือคว่ำรัฐบาลไม่ได้ ยืนยันไม่มีเบื้องหน้า เบื้องหลัง"
วันชัย ยังอธิบายด้วยว่า แม้ส่วนตัวเคยโหวตให้นายกฯ เพราะเป็นให้โอกาส แต่ที่ไม่ลงชื่อขอเปิดอภิปราย เพราะเห็นว่างบยังไม่ใช้ มาจากรู้สึกส่วนตัว ไม่มีเหตุผลอะไรซับซ้อน
มองไม่ออก สว. ล้มรัฐบาลได้ยังไง
ส่วนที่มองว่าวันที่ 10 พ.ค. สว.หมดวาระ ต้องแสดงอิทธิฤทธิ์อะไร เป็นการวิเคราะห์กันไป ทุกวันนี้เตรียมแพ็คของกลับบ้าน ล้มรัฐ เศรษฐา เปลี่ยนตัว ไม่มี มีแต่ดีลกับลูกเมียเท่านั้น ซึ่งวันที่ 9 เม.ย.ปิดสมัยประชุม ดังนั้น ประชุมอย่างเก่ง 2-3 ครั้ง การจะล้มรัฐบาลนึกไม่ออก โดยเฉพาะ สว. และยังคิดไม่ออกว่า สว. ทำให้นายกฯ ลาออกได้ยังไง "ผมอยู่วงใน รู้ว่าเป็นยังไง ไม่มีคิดอะไรการเมืองลึกซึ้ง"
รายชื่อ 98 สว. สนับสนุนให้เปิดอภิปราย ประกอบด้วย