ศาลเลื่อนนัดตรวจหลักฐานคดี "กำนันนก" หลังญาติเหยื่อขอเป็นโจทก์ร่วม

22 เมษายน 2567 ความคืบหน้าคดีที่ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือ สารวัตรศิว หรือ สารวัตรแบงค์ สารวัตรทางหลวง ถูกยิงเสียชีวิตภายในงานเลี้ยงที่บ้าน "กํานันนก" นายประวีณ จันทร์คล้าย อดีตกำนันชื่อดัง ใน จ.นครปฐม เมื่อช่วงดึกวันที่ 6 กันยายน 2566 ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการยุติธรรม โดยกำนันนก ถูกคุมตัวเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

ล่าสุดวันนี้ (22 เม.ย.) ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ได้นัดตรวจหลักฐาน คดีหมายเลขดำที่ อ3694/2566 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้อง กำนันนก เป็นจำเลยต่อศาลเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 66 ที่ผ่านมา ในความผิดฐาน เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทําความผิดฐานฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าผู้อื่นฯ

จากกรณี เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 66 เวลากลางคืน ที่จำเลยได้ใช้จ้างวานให้ นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือ หน่อง ท่าผา คนสนิท ใช้อาวุธปืนยิง พ.ต.ต.ศิวกร ในงานเลี้ยงภายในบ้านพักของจำเลย ที่ อ.เมือง จ.นครปฐม ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งวันนี้ศาลได้เบิกตัว "กำนันนก" ซึ่งถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มายังศาล

 

โดยการนัดสืบพยานวันนี้ โจทก์ จำเลย ทนายจำเลย นางทัศนัย สายบัว มารดา พ.ต.ต.ศิวกร , นายศิลนา สายบัว บิดา พ.ต.ต.ศิวกร , น.ส.เขมินทรา จิรสัจจานกูล ภรรยา พ.ต.ต.ศิวกร , บุตรสาว พ.ต.ต.ศิวกร ทนายความ และ พ.ต.ท.วศิน พันปี พร้อมทนายความ ซึ่งเป็นผู้เสียหายเดินทางมาศาล  พร้อมยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการ เป็นโจทก์ร่วมที่ 1 - 5 ตามลำดับ

ทั้งนี้ทนายโจทก์ร่วมที่ 1 - 4  ได้ยื่นคำร้องขอให้โอนคดีไปพิจารณา ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง โดยอ้างเหตุว่า จำเลยกับพวกถูกโจทก์ยื่นฟ้องเป็น คดีอาญาหมายเลขดำที่ อท.206/2566 ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง คดีเกี่ยวข้องกัน อยู่ในอำนาจพิจารรณาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง 

แต่โจทก์และทนายจำเลย แถลงคัดค้านว่า คดีของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางดังกล่าว เป็นคนละกรรมกับคดีนี้ และคดีดังกล่าวได้มีการพิพากษาแล้ว

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีอาญาหมายเลขดำที่ อท.206 /2566 กับคดีนี้ เป็นความผิดคนละกรรมกัน จึงไม่อยู่ในอำนาจการพิจารณาคดี ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง จึงให้ยกคำร้อง

เมื่อศาลอ่านและอธิบายฟ้องให้จำเลย ซึ่งมีทนายความฟังแล้ว จำเลยแถลงให้การปฏิเสธ ซึ่งจำเลยแถลงแนวทางการต่อสู้คดีว่า ไม่ได้กระทำความผิดตามฟ้อง โจทก์ร่วมทั้ง 5 จึงยื่นคำร้องขอให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามคำร้อง ทนายจำเลยแล้ว แถลงว่า จะขอยื่นคำให้การในส่วนแพ่งภายในนัดหน้า

ศาลสอบคู่ความเกี่ยวกับพยานหลักฐาน ที่จะให้คู่ความอีกฝ่ายตรวจและอ้างส่งต่อศาลแล้ว โจทก์และโจทก์ร่วมทั้งหมด แถลงประสงค์อ้างพยานเอกสาร  ด้านทนายจำเลยแถลงว่า เนื่องจากเอกสารที่โจทก์และโจทก์ร่วมทั้งห้าอ้างส่งมีจำนวนมาก ขอเลื่อนคดีไปเพื่อตรวจสอบเอกสารดังกล่าว และเนื่องจากพยานบุคคลของโจทก์ มีจำนวนมากหากรับข้อเท็จจริงกันได้ จะเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาสอบโจทก์ โจทก์ร่วมทั้ง 5 และทนายโจทก์ร่วมที่ 1 - 4 ทนายโจทก์ร่วมที่ 5 แถลงไม่ค้าน

ศาลพิเคราะห์แล้ว ให้เลื่อนไปนัดพร้อมเพื่อประชุมคดี ตรวจพยานหลักฐาน และกำหนดวันนัดสืบพยานในวันที่ 24 พ.ค. 2567 เวลา 09.00 น.


มีรายงานว่า ระหว่างขึ้นศาล สีหน้าของ "กำนันนก" เรียบเฉย ดูผิวสีเข้มขึ้น ผอมลงเล็กน้อย หลังจากศาลอ่านรายงานกระบวนพิจารณาเสร็จ ครอบครัวของนายกำนันนกได้เข้าไปสวมกอดพูดคุย  จากนั้นกำนันนก ได้ลงมาคุกเข่าก้มกราบพ่อและแม่ 

ขณะที่ในวันนี้มีทั้งครอบครัวของ พ.ต.ต.ศิวกร , พ.ต.ท.วศิน พันปี โจทก์ร่วมที่ 5 ซึ่งเป็นผู้บาดเจ็บ มาร่วมรับฟัง โดยเฉพาะภรรยา พ.ต.ต.ศิวกร ของมีสีหน้าหมองเศร้า ตาแดง ตลอดการฟังกระบวนพิจารณา


สำหรับคดีที่ กำนันนก เพิ่งถูก ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาไปเมื่อวันที่ 9 เม.ย. 67 ที่ผ่านมา โดยพิพากษาจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา คือคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท.206/2566 ในความผิดฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 , 84 , 86 , 91 , 92 , 157 , 184 , 189 , 200 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 จากกรณีที่ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือ สารวัตรศิว หรือ สารวัตรแบงค์ สารวัตรทางหลวง ถูกยิงเสียชีวิตภายในงานเลี้ยงที่บ้าน "กํานันนก" ใน จ.นครปฐม เมื่อช่วงดึกวันที่ 6 กันยายน 2566 เเละมีการให้การช่วยเหลือผู้ก่อเหตุหลบหนี

ส่วนคดีที่ศาลอาญาฯ มีคำสั่งเลื่อนไปนัดพร้อมเพื่อประชุมคดี ตรวจพยานหลักฐาน และกำหนดวันนัดสืบพยานในวันที่ 24 พ.ค. 2567 เวลา 09.00 น. คือคดีหมายเลขดำที่ อ3694/2566 ที่อัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้อง กำนันนก ในความผิดฐานเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทําความผิดฐานฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าผู้อื่นฯ ซึ่งในส่วนของโทษ ฐานผู้ใช้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่น และพยายามฆ่าผู้อื่น นั้น ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 10 – 20 ปี