"คม-ชัด-ลึก" เปิดพยานปากสำคัญ "คดีหญิงไก่"
ล่าสุดมีพยานเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับหญิงไก่เพิ่มอีก 3 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นหญิงวัย 87 ปี ถูกล่อลวงให้เสียเงินจำนวนมากเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับเครื่องราชฯ และจะได้คำนำหน้าว่า คุณหญิง
ภูรี ศิริพฤกษ์ ทีมทนายความเหยื่อคดีหญิงไก่ กล่าวว่า กรณีของ พระสมุห์ชวลิตกิตติเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่าซุงทักษิณาราม อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ให้ข้อมูล ทำให้มีหลักฐานและทราบพฤติกรรมของหญิงที่เข้าไปข่มขู่พระสงฆ์รูปดังกล่าว
การดำเนินคดีกับหญิงไก่กรณีใช้รถยนต์หรู มีรถติดไซเรน มีผู้ติดตาม ไปที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจว่าเป็นคุณหญิง ขณะนี้ได้ส่งหลักฐานที่เป็นรูปภาพให้ตำรวจแล้ว
กรณีของคุณยายสายใย ยิ่งภูมิ อายุ 87 ปี หนึ่งในเหยื่อของหญิงไก่นั้น คุณยายถูกหลอกว่า จะได้รับเครื่องราชฯ เป็นคุณหญิงได้ แต่ต้องบริจาคเงิน คุณยายก็โอนเงินให้หลายครั้ง รวมทั้งหมด 2.8 ล้านบาท ก่อนจะรู้ตัวว่าถูกหลอกลวง โดยมีหลักฐานการโอนเงิน
พระสมุห์ชวลิต กิตติเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่าซุงทักษิณาราม จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ตอนแรกที่เห็นข่าว เห็นรูปหญิงไก่ที่ปรากฏเป็นข่าว ยังไม่แน่ใจว่าใช่คนเดียวกันที่มาหาเมื่อปี 2558 หรือไม่ แต่เมื่อได้ดูข่าว ได้ทราบพฤติกรรมหญิงไก่จากข่าวแล้ว คล้ายๆ กับที่เคยเจอมา โดยอ้างตัวว่าเป็นคุณหญิง
เหตุเกิดที่วัดยี่ป่า อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา หญิงไก่ไปกับชายฉกรรจ์ และคนมีสีแต่งเครื่องแบบ นอกเครื่องแบบ ทั้งสีกากีและสีเขียว รวม 4 คน พร้อมกับถามอาตมาว่า มีสิทธิ์อะไรถึงเข้ามาในวัดนี้ และขอดูเอกสาร แต่อาตมาไม่ได้ให้ดูเอกสาร แล้วก็บอกให้ไปตรวจสอบที่คณะเจ้าจังหวัด หญิงไก่ก็บอกว่า ให้หยุดทำการก่อสร้าง ให้คุณหญิงตรวจสอบก่อน ตอนนั้นเชื่อว่าเขาเป็นคุณหญิงจริง
สำหรับวัดยี่ป่าในขณะนั้นยังเป็นวัดที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ยังไม่ขึ้นทะเบียน เป็นวัดร้าง หากญาติโยมมาทำบุญ ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า จะไม่สามารถตรวจสอบเงินที่เข้าวัดได้ ถ้าเป็นวัดที่ถูกต้องสามารถตรวจสอบได้ เพราะต้องส่งบัญชีรายรับรายจ่ายทุกเดือน ให้เจ้าคณะตรวจสอบ
เชื่อว่าเป็นเพราะพระอาจารย์ของหญิงไก่เข้ามาอยู่ที่วัดร้างดังกล่าว แรกๆ ก็ปฏิบัติตนดี ชาวบ้านศรัทธา แต่ต่อมาภายหลังมีข่าวว่าฉ้อโกง หลอกลวง ไม่สมกับการเป็นพระสงฆ์ ขณะนั้นมีการร้องเรียนมาเป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากเป็นวัดร้างจึงไม่สามารถตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายได้
ต่อมาประมาณปี 2557 อาตมาไปติดต่อกับพระอาจารย์รูปดังกล่าว เพื่อขอพื้นที่คืน เขารับไม่ได้ อ้างว่าอยู่มานาน บูรณะวัดมา อยู่ๆ จะมาขับไล่ได้อย่างไร แต่สุดท้ายอาตมาก็ดำเนินการไปตามระเบียบ ตามขั้นตอน แต่เขาก็ไม่ยอมย้ายออกไปจากวัดร้างดังกล่าว ดังนั้นจึงส่งทีมช่างเข้าไปทำแนวกำแพงปิดวัด ห้ามไม่ให้ใครเข้าออก เพื่อจัดระเบียบ ขณะกำลังสร้างแนวกำแพงหญิงไก่และกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวก็มาบอกให้หยุดสร้าง แต่อาตมาให้ทีมช่างทำงานต่อไป
