กรมควบคุมมลพิษ สำรวจพบ อู่ซ่อมรถไร้มาตรฐาน 1 แสนแห่ง ทิ้งน้ำเสีย น้ำล้างสี ลงท่อน้ำ

นี่เป็นสภาพของอู่ซ่อมรถยนต์แห่งหนึ่ง ย่านถนนพระราม 3 ที่พบว่ามีการทิ้งน้ำล้างสีรถยนต์ น้ำพ่นสี ฉีดลงในท่อน้ำสาธารณะ มีกลิ่นเหม็นของทินเนอร์ลอยมาสัมผัสจมูก เป็นระยะ ๆ แม้คนงานจะบอกว่าจะมีการทำความสะอาด เพื่อลดกลิ่นเหม็นและสารมลพิษทุกวัน
สอดคล้องกับข้อมูลที่ กรมควบคุมมลพิษ ประเมินเบื้องต้น คาดว่าทั่วประเทศจะมีประกอบกิจการ ซ่อมยานพาหนะ หรือ อู่ซ่อมรถรถยนต์ อู่เคาะพ่นสีรถยนต์ ที่ไม่ได้มาตรฐานมากกว่า 1 แสนแห่ง
แน่นอนว่าสถานประกอบการเหล่านี้ มักก่อให้เกิดปัญหามลพิษออกมา เนื่องจากต้องใช้สารเคมี และวัตถุอันตราย เช่น น้ำมันหล่อลื่น ที่เปลี่ยนถ่ายออกมา ยังขาดระบบการจัดการตามหลักวิชาการ อะไหล่ที่ไม่ใช้งาน น้ำเสียที่ถูกทิ้งปะปนลงในแหล่งน้ำสาธารณะ หรือแม้แต่ฝุ่นละออง และเสียงดังรบกวน ที่คนรอบๆอู่รถยนต์มักจะต้องเจออยู่บ่อยครั้ง
สำหรับเกณฑ์อู่ซ่อมรถยนต์ที่ได้มาตรฐาน จะกำหนดให้ควบคุมและบำบัดค่าน้ำเสียตามกฎหมายที่กำหนด เช่น สารแขวนลอยต้องไม่เกิน 50 มิลลิกรัมต่อลิตร น้ำมันและไขมันไม่เกิน 5 มิลลิกรัมต่อลิตร และหากเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ต้องถุกตรวจสอบสารโลหะหนัก กลุ่มสังกะสี แคดเมียม ทองแดงและตะกั่วปนเปื้อนในน้ำ ซึ่งต้องมีรายงานผลตรวจสอบคุณภาพน้ำทุก 1ปี
ข้อมูลเหล่านี้ มีการเปิด รับฟังความเห็นแล้ว จากนั้นจะเสนอต่อคณะกรรมการควบคุมมลพิษ หากผ่านความเห็นชอบ จึงจะประกาศให้อู่และเจ้าของผลิตภัณฑ์สินค้าที่ต้องการรับรอง มาขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าและบริการสีเขียวต่อไป