svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

น่าน-ทหารสนธิกำลัง ลุยสอบพื้นที่ป่าต้นน้ำ

28 กรกฎาคม 2558
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

จทบ.น่าน สนธิกำลังร่วม 3 ฝ่าย ร่วมศูนย์ประสานงานประชาคมน่าน ลุยสอบพื้นที่ป่าต้นน้ำยาว-น้ำปอบ ต.ดู่พงษ์ อ.สันติสุข พบถูกนายทุน-ชาวบ้านบุกรุกกว่า 5 ,000 ไร่


ที่บริเวณพื้นที่ป่า บ้านน่านมั่นคง หมู่ที่ 7 ต.ป่าแลวหลวง อ.สันติสุข จ.น่าน พล.ต.ชัยณรงค์ แกล้วกล้า ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกน่านและผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จังหวัดทหารบกน่าน พร้อมด้วย พ.อ.เศรษฐพล เกตุเต็ม เสนาธิการจังหวัดทหารบกน่าน และนายภาณุ ชมพูมิ่ง หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า น.น.17( ดู่พงษ์ )นางสุภาพ สิริบรรณสพ ผู้ประสานงานศูนย์ประสานงานประชาคมจังหวัดน่าน สนธิกำลังทหาร ปกครอง พลเรือนและป่าไม้ รวมกว่า 150 นาย เปิดยุทธการทวงคืนผืนป่าต้นน้ำน่าน

น่าน-ทหารสนธิกำลัง ลุยสอบพื้นที่ป่าต้นน้ำ


โดยกระจายกำลังตรวจสอบและจับพิกัดรายแปลง จำนวน 8 แปลงในพื้นที่ป่าแลวหลวง บริเวณบ้านน่านมั่นคง ต.ป่าแลวหลวง อ.สันติสุข จ.น่าน ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำยาวและต้นน้ำปอบ โดยเมื่อเปรียบเทียบกับภาพถ่ายทางอากาศในปี 2545 และปี 2558 ภายในช่วงเวลา 13 ปี พบการบุกรุกขยายพื้นที่การเกษตรของนายทุนอย่างชัดเจน จากพื้นที่เดิม 100 กว่าไร่ มีการขยายเข้าไปในพื้นที่เขตป่าสงวน ป่าแม่น้ำน่านตะวันออกตอนใต้ มากกว่า 2,500 ไร่ รวมทั้งที่ชาวบ้านบุกรุกนอกเขตป่าต้นน้ำด้วย รวมพื้นที่กว่า 5,000 ไร่ นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องการลักลอบจ้างแรงงานต่างด้าวให้เข้าไปแผ้วถางทำไร่ข้าวโพด โดยนายทุนอยู่เบื้องหลังไม่ต้องเข้าไปทำเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่สาวถึงตัวนายทุนด้วย
พ.อ.เศรษฐพล เกตุเต็ม เสนาธิการจังหวัดทหารบกน่าน เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบและจับพิกัดรายแปลงทั้ง 8 แปลง จากแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศของกรมพัฒนาที่ดินบินถ่ายปี 45 มาตราส่วน 1 : 4,000 เขตป่าต้นน้ำยาว น้ำปอบ ตะวันออกตอนใต้ เขตท่องที่ อ.สันติสุข บริเวณ ต.ป่าแลวหลวง ซึ่งเป็นป่าต้นน้ำยาว น้ำปอบ ที่ไหลลงแม่น้ำเป็นพื้นที่ป่าสมบูรณณ์ เมื่อเปรียบเทียบกับแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียมปี 2558 พบว่ามีการขยายการบุกรุกชัดเจน 8 แปลง
โดยนายทุนซึ่งมีอดีตกำนันนอกพื้นที่(อ.ท่าวังผา) และนายทุนมาจาก ต.อวน อ.ปัว ซึ่งมีพื้นที่เขตติดต่อติดกับ ต.ป่าแลวหลวง ด้านทิศเหนือเข้ามาบุกรุก รวมทั้งยังมีปัญหาเรื่องแรงงานต่างด้าว ที่มีการจ้างแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านมาทำการเกษตรในแปลง ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ทหาร กกล.รส.จทบ.น.น. จับกุมแรงงานต่างด้าวชาวลาวผิดกฏหมายได้ 5 คน พร้อมตัวนายทุนที่เป็นอดีตกำนันนอกพื้นที่ (อ.ท่าวังผา) ในพื้นที่ที่บุกรุกแผ้วถางทำไร่ข้าวโพด

น่าน-ทหารสนธิกำลัง ลุยสอบพื้นที่ป่าต้นน้ำ


โดยหลังจากนี้จะประกาศภายใน 7 วัน ให้แต่ละรายแสดงสิทธิพื้นที่การถือครองที่ได้มาอย่างถูกต้อง เพื่อพิจารณาเป็นรายแปลง ถ้าไม่เป็นไปตามกฎหมาย ก็ให้คืนผืนป่าให้กับทางหน่วยราชการเพื่อจะนำไปฟื้นฟูคืนสภาพป่า ในส่วนของชาวบ้านส่วนใหญที่ทำไร่ข้าวโอยู่นอกเขตพื้นที่ป่าที่ไม่กระทบกระเทือนป่าต้นน้ำ ก็จะได้ดำเนินการพิจารณาจัดสรรพื้นร่วมกับผู้นำชุมชนตามความเหมาะต่อไป ซึ่งจังหวัดน่าน ผู้ที่มีเอกสารสิทธิ มีประมาณร้อยละ 20 แต่ป่าถูกบุกรุกกว่า 5-8 แสนไร่แล้ว โดยขณะนี้ได้ประสานงานร่วมกับนางสุภาพ สิริบรรณสพ ผู้ประสานงานศูนย์ประสานงานประชาคมจังหวัดน่าน เพื่อหาแนวทางในการฟื้นคืนผืนป่าต้นน้ำยาว-น้ำปอบ กว่า 2,500 ไร่ ให้กลับมาเป็นสภาพป่าอนุรักษ์ สร้างเมืองน่านน่าอยู่คู่ป่าต้นน้ำอย่างยั่งยืน
นางสุภาพ สิริบรรณสพ ผู้ประสานงานศูนย์ประสานงานประชาคมจังหวัดน่าน กล่าวว่า ต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วม ขณะนี้ทางศูนย์ประสานงานฯ ภาคประชาสังคม ได้ทำข้อบัญญัติการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมี 34 ตำบล ในจังหวัดน่านเข้ามาร่วม โดยจำแนกเป็น 4 ประเภท 1. ป่าสงวน 2. ป่าชุมชนชาวบ้าน 3. ป่าเศรษฐกิจของชาวบ้าน 4. ที่อยู่อาศัยชาวบ้าน ถ้าจับรายแปลงจะรู้ว่าเป็นที่ของคนในพื้นที่หรือคนนอกพื้นที่ จะเป็นการทำงานช่วยภาครัฐ ในส่วนของทหาร จทบ.น่าน จะนำก่อน ทำให้ภาคประชาสังคมทำงานง่ายขึ้น โดยเป้าหมายเดียวกันคือ ขอพื้นที่คืน จากผู้บุกรุกหลังปี 2545 ซึ่งทางภาคประชาสังคมจะช่วยทำข้อบัญญัติหลังจากมีข้อบัญญัติแล้ว เราต้องพัฒนาแหล่งน้ำ พัฒนาอาชีพ พัฒนาการตลาด ให้เขา ถึงแม้ผู้ที่มีพื้นที่ทำกินก่อนปี 45 ซึ่งเขามีสิทธิ์ เขาอาจไม่ขึ้นมาทำกินก็ได้ เขาก็จะลงไปอยู่ข้างล่าง เป็นการทำงานเอาน้ำแลกป่า เรื่องการอาชีพแลกที่ให้เขา ชาวบ้านจริง ๆ เขาไม่อยากขึ้นมาทำเพราะเหนื่อย ถ้ามีความเป็นอยู่ กินดีมีแหล่งน้ำมีตลาดมีความรู้ปลูกพืชในพื้นที่ราบพืชหลังนา เขาจะไม่ขึ้นไปปลูกข้าวโพดบนดอยให้เหนื่อยแน่นอน
นอกจากนายทุน เราก็จะได้ป่าคืน การปลูกป่าปลูกได้ใครจะช่วยดูแลต่อหลังจากนั้น ต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วม ถ้าเราไม่ปลูกก็ได้ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงแนะนำในการ พลิกฟื้นทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้ให้กลับคืนมาสู่ความอุดมสมบูรณ์ดังเดิม ทิ้งป่านั้นไว้ 5 ปี ตรงนั้นไม่ต้องไปทำอะไรเลย แต่ป่าเจริญเติบโตเป็นป่าสมบูรณ์โดยไม่ต้องปลูกสัก ต้นเดียว คือว่าการปลูกป่านั้น สำคัญอยู่ที่ปล่อยให้เขาขึ้นเองนางสุภาพ กล่าว

logoline