อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ?นายนิพนธ์ โชติบาล บอกว่า ขณะนี้การตราพระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. 2558 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2558 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2558 โดยกฎหมายดังกล่าวจะควบคุมการครอบครองและค้างาช้างบ้าน งาช้างแอฟริกา
โดยกำหนดให้ประชาชนที่ครอบครองงาช้างบ้านหรือผลิตภัณฑ์จากงาช้างบ้าน รวมทั้งผู้ค้างาช้างบ้าน มาจดทะเบียนการครอบครอง และขออนุญาตค้างาช้างบ้านแจ้งการครอบครองต่อเจ้าหน้าที่ ต่างจังหวัดสามารถแจ้งการครอบครองได้ที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1-16 และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์สาขาทุกสาขา ภายในวันที่ 21 เมษายน 2558
โดยจะอนุญาตให้ครอบครองโดยไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อการค้าทั้งงาช้างบ้านและผลิตภัณฑ์จากงาช้าง อย่างละไม่เกิน 2 ชิ้นต่อคน รวมไม่เกิน 4 ชิ้นต่อคน และไม่เกิน 12 ชิ้นต่อครัวเรือน และน้ำหนักรวมไม่เกิน 0.5 กิโลกรัม อาจใช้สิทธิ์ไม่ต้องแจ้งการครอบครองได้แต่จะไม่สามารถจำหน่าย จ่าย โอน หรือทำการค้าได้ เว้นแต่ตกทอดทางมรดก
สำหรับผู้ที่มีงาช้างบ้านรวมถึงสิ่งของใดๆ ที่ทำจากงาช้างบ้านไว้ในครอบครอง ต้องแจ้งการครอบครองต่อเจ้าหน้าที่ ฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 3 ล้านบาท และผู้ที่ประสงค์จะค้างาช้าง ให้ยื่นคำขอต่ออธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนด หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 6ล้านบาทหรือทั้งจำทั้งปรับนอกจากนี้การนำเข้า-ส่งออกงาช้างต้องได้รับอนุญาตและต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนด ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 6ล้านบาทหรือ ทั้งจำทั้งปรับ