เจาะฐานเสียงรับ-ไม่รับ ร่างรัฐธรรมนูญ

ไม่ตอบโจทย์ปราบโกง ไม่สอดคล้องกับการพัฒนา และตัดสิทธิประชาชน ป็น 3 เหตุผลที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำไปสู่ข้อสรุปว่าไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ นี่เป็นหนึ่งคีย์แมนทางการเมือง ที่ออกมาแสดงจุดยืนต่อประชามติครั้งนี้
ถ้าหากนำผลการเลือกตั้งทั่วไปปี 2554 ซึ่งมีผู้มีสิทธิ์กว่า 46 ล้านเสียงมาเปรียบเทียบ จะพบว่า พรรคประชาธิปัตย์มีฐานเสียงอยู่ในมือกว่า 11 ล้านเสียง หรือ 23 เปอร์เซนต์ของผู้มีสิทธิทั้งหมด ฐานเสียงส่วนใหญ่ มาจากที่มั่นในภาคใต้ รวมถึง กทม.
แม้ลำพังฐานเสียง 23 เปอร์เซนต์ของประชาธิปัตย์ จะยังไม่สามารถชี้ขาดประชามติได้ แต่ก่อนหน้านี้ มีหลายพรรค ที่ประกาศไม่รับร่างรัฐธรรมนูญแล้ว โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยที่มีฐานเสียง 15 ล้านเสียง หรือ 32 เปอร์เซนต์ รวมแล้ว 2 พรรคใหญ่ที่ประกาศโหวตโน มีฐานเสียงทั้งหมด 26 ล้านเสียง หรือ 56 เปอร์เซนต์ของผู้มีสิทธิ์
ในแง่ของตัวเลขแล้ว การประกาศจุดยืนของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จึงทำให้แนวโน้มที่ร่างรัฐธรรมนูญ จะถูกโหวตล้มในวันที่ 7 สิงหาคมนี้มีมากขึ้น
หากแต่ยังมีปัจจัยการเมืองอีกหลากหลาย ที่จะส่งผลต่อการตัดสินใจของประชาน ไม่ว่าจะเป็นคะแนนนิยมใน คสช. และรัฐบาล รวมถึงขั้วการเมืองอย่าง กปปส.ที่ประกาศรับร่างรัฐธรรมนูญมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ยังมีพลังเงียบอีกไม่น้อย ที่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ