ล่าเครือข่ายขอนแก่นโมเดล

ฝ่ายความมั่นคง เร่งติดตามตามผู้ต้องหาคดีความมั่นคงเครือข่ายขอนแก่นโมเดล หลังจากจับผู้ได้แล้วขณะนี้ 4 คน คือ ประกอบด้วย จ.ส.ต.ประธิน จันทร์เกศ อดีตตำรวจตระเวนชายแดน นายณัฐพล ณวรรณ์เล ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ หลังพบพฤติกรรมมีการสื่อสารเตรียมก่อเหตุวุ่นวายในพื้นที่ จ.ขอนแก่น และกรุงเทพฯ ถูกควบคุมตัวเรือนจำชั่วคราว มณฑลทหารบกที่ 11
ล่าสุดตำรวจขอนแก่นจับตัวได้เพิ่มอีก 2 ราย คือ นายวัลลภ บุญจันทร์ กับ นายพาหิรัญ กองคำ ถูกจับกุมได้ที่ จ.บึงกาฬ นายพาหิรัญ ถือเป็นบุคคลสำคัญ เพราะเป็นผู้จัดหาอาวุธเพื่อนำมาเตรียมก่อเหตุ ส่วนผู้ต้องหาอีก 5 คน ที่ยังหลบหนี ทราบว่ายังคงอยู่ในประเทศไทย โดยประสานไปยังตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เพื่อเฝ้าระวังช่องทางตามชายแดนทั้งช่องทางด่านถูกกฎหมาย และทางธรรมชาติ เพื่อป้องกันการหลบหนีออกนอกประเทศ ขณะนี้พอจะทราบพิกัดสถานที่ที่ผู้ต้องหาทั้ง 5 คนหลบหนี แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เกรงว่าผู้ต้องหาไหวตัวทัน และเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี
ส่วนอีก 5 รายที่เหลือประกอบด้วย นายพิษณุ พรหมสาร ,นายฉัตรชัย ศรีวงษา , นายมีชัย ม่วงมนตรี , นายธนกฤต ทองเงินเพิ่ม และ นายวีรชัย ชาบุญมี
แต่ปรากฏว่า มีข้อโต้แย้งจากทีมนายความของผู้ต้องหาในเครือข่ายขอนแก่นโมเดล นางเบญจรัตน์ มีเทียน ทนายความของ นายธนกฤต ทองเงินเพิ่ม บอกว่า นายธนกฤต ได้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำจังหวัดขอนแก่นในคดีขอนแก่นโมเดล เมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 แต่ต่อมาได้รับการประกันตัวแล้ว ก่อนที่จะถูกอายัดตัวและจำคุกต่อในคดีปลอมแปลงเอกสาร เพื่อขายรถยนต์ของอดีตภรรยา หลังถูกอดีตภรรยาแจ้งความดำเนินคดีเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม 2557 นายธนกฤตถูกศาลตัดสินจำคุกเป็นเวลา 2 ปี ถูกจำคุกตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2557 จนกระทั่งปัจจุบันเป็นเวลาประมาณ 1 ปี 6 เดือน จึงเป็นไปไม่ได้ที่ นายธนกฤต จะมีส่วนเกี่ยวพันกับข้อกล่าวหาในคดี
น.ส.เบญจรัตน์ บอกว่า ได้ตรวจสอบไปยังเรือนจำที่จังหวัดขอนแก่น ได้รับการยืนยันว่า นายธนกฤต ไม่เคยได้ออกจากเรือนจำเลยตั้งแต่ถูกคุมขัง และไม่มีบุคคลที่มีรายชื่อที่ถูกออกหมายจับอีก 8 คนเข้าเยี่ยมเลยตลอดระยะเวลาที่ถูกคุมขัง เพราะเรือนจำขอนแก่นมีความเข้มงวดในการเข้าเยี่ยมนักโทษ