svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

โผกลางปีคลอด 350 ตำแหน่ง ฮือฮา ทร. สลับ 5 เสือ

26 มีนาคม 2558
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

26 มี.ค. 58 - โผกลางปีคลอด 350 ตำแหน่ง ฮือฮา ทร. สลับ 5 เสือ ดันน้องชายเพื่อนรัก ไกรสร เข้าไลน์ จ่อชิงตำแหน่ง ผบ.ทร. ส่วนเหล่าทัพอื่นแค่ปรับเปลี่ยนหมุนเวียน พร้อมดันหน้าห้อง ผบ.ทบ. กลับถิ่นบูรพาพยัคฆ์


เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 26 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้มีเผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้นายทหารรับราชการ โดยมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้นายทหารรับราชการสนองพระเดชพระคุณ จำนวน 350 อัตรา มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.58 โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ณ วันที่ 26 มี.ค.58

สำหรับการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ไม่มีตำแหน่งหลักเปลี่ยนแปลงมากนัก นอกจากหมุนเวียนตามวงรอบ ทั้งนี้ในส่วนของกระทรวงกลาโหม


พล.ต.ชมพล อามระดิษ ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เป็นหัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นอกจากนั้น พ.อ.คงชีพ ตัฒตระวานิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ขยับขึ้น พลตรี ในตำแหน่งนายทหารฝ่ายเสธนาธิการประจำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พ.อ.วชิรทิตย์ ยี่สาคร นายทหารฝ่ายเสนาธิการผู้บัญชาการทหารบก ขยับในอัตรา พลตรี ตำแหน่ง ผู้ชำนาญการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม


ในส่วน นาวาอากาศเอก เชี่ยวชาญ รุดดิษฐ์ น้องชาย พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพภาคที่1ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.)ขยับขึ้น พลอากาศตรี ในตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม

ขณะที่กองบัญชาการกองทัพไทย พล.ร.อ.ธนะรัตน์ อุบล เสนาธิการทหารเรือ เป็น รองเสนาธิการทหาร ถือเป็นการปรับย้ายจากไลน์ 5 เสือกองทัพเรือมาอยู่กองบัญชาการกองทัพไทย สาเหตุเกิดจาก พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เห็นว่าทำงานไม่ตอบสนองนโยบาย หลังจากทำงานในตำแหน่งในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามการปรับเปลี่ยนไลน์ 5 เสือกองทัพเรือครั้งนี้ เพื่อรองรับการปรับย้ายใหญ่ในเดือนกันยายน ที่จะถึงนี้ เพราะจะมีเหล่าบรรดา 5 เสือของกองทัพเรือต้องเกษียณอายุราชการ


สำหรับกองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ขยับ พล.ท.พิสิทธิ์ สิทธิสาร รองเสนาธิการทหารบก เป็น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก นอกจากนั้น ผบ.ทบ. ยังปรับเปลี่ยนตำแหน่ง ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่7 โดย พ.อ.อุทัย ชัยชนะ ขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่7 ขณะที่ พ.อ.กษิดิศ หลักกรด เป็นผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่1 พร้อมยังปรับตำแหน่งผู้บัญชาการมณฑลทหารบกต่างๆอีกด้วย


นอกจากนี้ ยังขยับให้ พล.ต.กู้เกียรติ ศรีนาคา ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่2รักษาพระองค์ เป็นรองแม่ทัพภาคที่1 เนื่องจากเป็นลูกหม้อบูรพาพยัคฆ์อีกคน จึงขยับให้เข้าไลน์ของกองทัพภาคที่1 ส่วน พล.ต.ประวิทย์ หูแก้ว รองแม่ทัพน้อยที่2 ขยับขึ้นเป็นรองแม่ทัพภาคที่2 พล.ต.บรรเจิด ฉางปูนทอง ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่1 เป็น รองแม่ทัพภาคที่3 พล.ต.มณี จันทร์ทิพย์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 ขยับเป็นรองแม่ทัพภาคที่4 พล.ต.จิรพันธ์ มาลีแก้ว นายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก เป็น ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่14 และสลับ พล.ต.สิงห์ทอง หมีทอง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่11 เป็นผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่14 ขณะที่พ.อ.กฤษดา สาริกา ผู้มีส่วนสำคัญในการเรียบเรียงเพลง คืนความสุขให้ประเทศไทย ของ คสช. ได้ขยับขึ้นเป็น เจ้ากรมดุริยางค์ทหารบก ยังมีการขยับ พล.ต.ศรีศักดิ์ พูนสิทธิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ซึ่งเป็นฝ่ายเสนาธิการ หน้าห้องของ พล.อ.อุดมเดช และเคยเป็นอดีตผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ และอดีต รองผู้บัญชาการทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ กลับไปเป็น ผู้บัญชาการทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ในการคุมกำลังทหารบูรพาพยัคฆ์


ส่วนกองบัญชาการกองทัพเรือ พล.ร.อ.ไกรสรณ์ จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้โยกย้ายให้ พล.ร.อ.ณรงค์พล ณ บางช้าง รองเสนาธิการทหาร ข้ามห้วยเป็น ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ ซึ่งเป็นน้องชายของ พล.ร.อ.อมรเทพ ณ บางช้าง อดีตรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด และเป็นเพื่อนรัก พล.ร.อ.ไกรสรณ์ นอกจากนี้ยังให้ พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นเสนาธิการทหารเรือ เพื่อรอจัดคิวเป็นผู้บัญชาการทหารเรือคนต่อไปด้วยเช่นกัน


ด้านกองทัพอากาศ พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผู้บัญชาการทหารอากาศ ขยับให้ พล.อ.ท.ชูชาติ บุญชัย รองเสนาธิการทหารอากาศ เป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพอากาศ อัตรา พลอากาศเอก เพื่อรอจัดคิวเข้าไลน์ 5 เสือกองทัพอากาศ พล.อ.ท.สุรศักดิ์ ทุ่งทอง เจ้ากรมช่างทหารอากาศ เป็นรองเสนาธิการทหารอากาศ และขยับ พล.อ.ต.ภานุพงศ์ เสยยงคะ เจ้ากรมยุทธการทหารอากาศ เป็น เจ้ากรมข่าวทหารอากาศ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โผโยกย้ายครั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่ามีการขยับให้ขึ้นตำแหน่งพลเอกทั้งหมด 41 นาย ในขณะที่ระดับพันเอกขึ้นเป็นนายพล 140 นาย แบ่งเป็น ชาย 130 นาย หญิง 10 คน


logoline