นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ศึกไทยไฟท์รอบชิงชนะเลิศครั้งนี้ ได้รับความสนใจเป็นอย่างยิ่งเนื่องจากเป็นชาวไทย ต่อยแข่งขันกับชาวต่างประเทศ นักมวยไทยทุกคู่มีความทุ่มเทในสังเวียน เพื่อชิงถ้วยอันเป็นมหามงคลฯ ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงเสด็จเป็นองค์ประธานพระราชทานถ้วยชนะเลิศ ขอเชิญผู้สนใจในประเทศและทั่วโลกร่วมส่งกำลังใจเชียร์
โดยโปรแกรมการแข่งขัน ดังนี้ชิงชนะเลิศ กติกาชก 3 ยก แบบสวมนวม รุ่น 67 กิโลกรัม แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม-ไทย VS จามาล มาดานี่-อิหร่าน ,รุ่น 70 กิโลกรัม สะท้านฟ้า ศิษย์นายกชายสงขลา-ไทย VS โบเบอร์ ทากาเยฟ-อุซเบกิสถาน ,รุ่น 72.5 กิโลกรัม พยัคฆ์สมุย ลูกเจ้าพ่อโรงต้ม-ไทย VS ยูริค เดวเทียน-รัสเซีย ชิงชนะเลิศแบบคาดเชือก รุ่น 70 กิโลกรัม แสนสะท้าน คลองสวนพลูรีสอร์ท-ไทย VS โอเล็คซานเดอร์ มอยซ่า-ยูเครน
นอกจากนี้ ยังมีการแข่งขันซุปเปอร์ไฟท์ แบบคาดเชือก ได้แก่ ชนะจน พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ไทย รุ่น 74 กิโลกรัม ,ป.ต.ท. ส.พัฒนาแก๊ส-ไทย ในรุ่น 70 กิโลกรัม ,กิตติ ส.จ.แดนระยอง -ไทย รุ่น 69 กิโลกรัม และราชสิงห์ โรงเรียนกีฬาโคราช รุ่น 63 กิโลกรัม
"เมืองโคราช เป็นเมืองมวย มีต้นฉบับมวยไทยเป็นเอกลักษณ์ คือ มวยโคราช ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนได้ร่วมกันพยายามฟื้นฟู มวยโคราช ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานสืบทอดต่อเนื่องตั้งแต่สมัยอยุธยา จนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ กระทั่งในสมัยรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นห้วงเวลาที่มวยคาดเชือกรุ่งเรือง มีการจัดแข่งขันมวยคาดเชือกหน้าพระที่นั่ง ณ บริเวณหน้าพลับพลาทรงธรรม สวนมิสกวัน ในงานศพของพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์เจ้าอุรุพงษ์รัชสมโภช ในวันที่ 18 มีนาคม ร.ศ.128 (พ.ศ. 2452) โดยให้หัวเมืองทั่วประเทศคัดเลือกนักมวยฝีมือดีเข้าแข่งขัน นักมวยฝีมือดีชนะคู่ต่อสู้หลายคนเป็นที่พอพระราชหฤทัย ทรงโปรดฯ พระราชทานยศและบรรดาศักดิ์ เป็น "ขุนหมื่นครูมวย" โดยมีนักมวยชาวโคราช ชื่อนายแดง ไทยประเสริฐ ลูกศิษย์ของพระเหมสมาหาร เจ้าเมืองโคราชเป็น "หมื่นชงัดเชิงชก" เป็นผู้ชนะเลิศ ถือเป็นประวัติศาสตร์ความยิ่งใหญ่ของมวยโคราช" สุวัจน์ กล่าว