ย้อนรอย 107 ปี ภาพ "โมนา ลิซ่า" ถูกโจรกรรม

ย้อนอดีตไปยาวๆ วันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ. 1911 หรือ พ.ศ. 2454 ซึ่งเป็นวันหยุดตามปกติของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์  

ภาพ"โมนาลิซา" ถูกพบเห็นครั้งสุดท้ายเมื่อเวลาประมาณ 7 โมงเช้า  แต่เช้าวันถัดมา ภาพตัวทำเงินให้พิพิธภัณฑ์ได้หายสาบสูญไป เหลือเพียงแต่กรอบรูปที่ถูกทิ้งไว้เท่านั้น ตอนแรก แต่ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ คิดว่าน่าจะเป็นเพราะทางช่างภาพประจำพิพิธภัณฑ์เผลอลืมไป เพราะเขาชอบเอาภาพไปเก็บไว้ที่สตูดิโอ ก่อนจะน้ำมาติดไว่ที่เดิมก่อนพิพิธภัณฑ์จะเปิด....แต่เวลาผ่านไปจนเที่ยงวัน ภาพหญิงสาวชื่อดัง ก็ยังไม่มาอยู่ประจำที่ ผู้ดูแลจึงแจ้งไปกับ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ว่า ภาพวาดหายไปแล้ว!!

ทางพิพิธภัณฑ์จึงได้ประกาศแจ้งอย่างให้นักท่องเที่ยวออกจากพิพิธภัณฑ์ในทันที  โดยให้เหตุผลว่าท่อน้ำขนาดใหญ่แตกและต้องเร่งซ่อมอย่างกะทันหัน 




บ่าย 3ของวันนั้น  ทั่วทั้งพิพิธภัณฑ์ก็เต็มไปด้วยยามรักษาการณ์ ตำรวจ เจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่จากกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรมและกระทรวงมหาดไทย ประตูทางออกทุกบานถูกปิดตายและการเคลียร์พื้นที่ครั้งใหญ่ก็เริ่มต้นขึ้นอย่างอลหม่าน



ทั้งที่พยายามปิดข่าวให้เงียบที่สุด ฝูงชนจำนวนมาก ก็มาออกันอยู่บริเวณด้านนอกพิพิธภัณฑ์ พร้อมกับกองทัพนักข่าวย จนเวลา 5 โมงเย็น หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ คือ LE TEMPS เริ่มลงข่าวลือว่าภาพวาดชื่อดังถูกโจรกรรมไป แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นภาพใด




อีกครึ่งชั่วโมงต่อมา ผอ. พิพิธภัณฑ์ก็แถลงข่าวอย่างเป็นทางการว่า ภาพโมนาลิซ่าได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย




ผ่านไป 2 ปี คดีนี้ก็ค่อยๆที่จะเงียบหายไป แต่โจรขโมยกลับได้เผยตัวขึ้น เมื่อเขาหวังจะเอาภาพ โมนาลิซา มาขายให้แกลเลอรีในฟลอเรนซ์ แต่เจ้าของแกลเลอรี ได้หักหลัง แจ้งตำรวจมาจับแทน



โจรนี้ได้เผยว่า ขาเคยทำงานกับพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์มาก่อน นามว่า วินเซนโซ เปรูจา โดยในวันก่อเหตุเขาสวมเสื้อเหมือนพนักงานพิพิธภัณฑ์ และซ่อนตัวอยู่ในพิพิธภัณฑ์ทั้งวันทั้งคืน  จนในช่วงที่พิพิธภัณฑ์ปิด เขาก็เอาภาพออกจากกรอบออกได้  และเดินออกจากประตูตามปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ย้อนไปหลังจากที่เขาขโมยแล้ว เขาใช้ชื่อปลอมว่า "ลีโอนาร์โด วินเซนโซ"   เขียนจดหมายไปหา นายหน้าค้างานศิลปะในนครฟลอเรนซ์  บอกด้วยความเป็นชาตินิยมว่า  สามารถนำภาพโมนาลิซากลับมายังในอิตาลีได้ เพราะเข้าใจไปว่าภาพนี้ ถูกนโปเลียน เอาไป พร้อมขอสินน้ำใจเล็กน้อยสัก สำหรับการปฏิบัติภารกิจเพื่อชาติด้วย 



ซึ่งจริงๆ แล้ว นโปเลียนไม่ได้ขโมยภาพโมนาลิซาไป กลับกันดาวินชี เป็นคนเอาภาพนี้ไปฝรั่งเศสเอง เมื่อครั้งที่เข้าไปรับใช้ราชสำนักในรัชสมัยของพระเจ้าฟรานซิสที่ 1 ซึ่งพระองค์ทรงซื้อภาพดังกล่าวมาจากดาวินชี มันจึงเป็นสมบัติของฝรั่งเศสโดยชอบธรรม   และเมื่อ เปรูจา จะเอารูปภาพมาขาย ก็ถูกจับดังกล่าวไปข้างต้น


สุดดท้ายแล้ว เปรูจา ก็ถูกศาลตัดสินว่าผิดจริง แต่เขารับโทษอยู่แค่ไม่กี่เดือน อีกทั้งชาวอิตาเลียนจำนวนมาก พากันเชิดชูเขาเยี่ยงวีรบุรุษ เรื่องนี้จึงสอนให้รู้ว่า ในการก่ออาชญากรรม (นอกจากการอ้างว่าป่วยแล้ว) หากอ้างว่าทำไปด้วยความรักชาติ ผู้คนอาจจะไม่ถือโทษ แถมบางทียังอาจได้รับการยกย่องในความกล้าหาญที่ยอมเสี่ยงสร้างวีรกรรมเพื่อชาติอีกด้วยซ้ำ