คนใจบาป !! อ้างเป็น จนท.หลอกเจ้าอาวาสวัดดังจะให้งบสร้างโบสถ์ 9 ล้าน
บุรีรัมย์ - คนใจบาปอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ทำงานที่ศาลากลาง จ.บุรีรัมย์ ก่อนใช้กลอุบายหลอกเจ้าอาวาสวัดดังจะเดินเรื่องของบประมาณจากรัฐให้สร้างอุโบสถ 9 ล้านทำทีให้เซ็นเอกสารทั้งปลอมแปลงตัวเลขในบัญชีธนาคารเพื่อให้หลวงพ่อตายใจว่าได้รับงบแล้ว แต่สุดท้ายกลับถูกหลอกเรียกให้จ่ายเงินค่าดำเนินการ 2.8 แสนบาทแล้วหนีลอยนวลจึงนำหลักฐานเข้าแจ้ง ตร. และร้องศูนย์ดำรงธรรมช่วยเหลือ
(21 พ.ค.61) เกิดเหตุมิจฉาชีพเป็นชาย 2 คน อายุประมาณ 5055 ปี อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ทำงานที่ศาลากลางจังหวัดไปหลอกลวงเจ้าอาวาสวัดดังแห่งหนึ่ง ที่ ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ตั้งแต่ช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ว่าจะสามารถเดินเรื่องของบประมาณจากรัฐให้จำนวน 9 ล้านบาท เพื่อให้ทางวัดไปก่อสร้างอุโบสถที่ทางวัดเองกำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ให้แล้วเสร็จ โดยชายมิจฉาชีพดังกล่าวได้ใช้กลอุบายทำทีนำเอกสารมาให้เจ้าอาวาสเซ็น อ้างว่าจะนำไปประกอบการเสนอของบประมาณตามขั้นตอน ทั้งยังมีการขอสมุดบัญชีธนาคารของทางวัดไปยื่นประกอบกับเอกสารด้วย
โดยแก๊งมิจฉาชีพยังหลอกเจ้าอาวาสด้วยว่าหากอยากได้รับงบประมาณตามที่ขอไป 9 ล้านบาท จะต้องจ่ายเงินเป็นค่าดำเนินการให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องจำนวน 500,000 บาท แต่เจ้าอาวาสบอกว่าทางวัดไม่มีเงินมากขนาดนั้น เหลือเงินในบัญชีที่ญาติโยมบริจาคมาและเงินจากการทอดกฐินเพื่อใช้สำหรับก่อสร้างอุโบสถเพียง 280,000 บาทเท่านั้น ซึ่งแก๊งมิจฉาชีพก็ตอบตกลงตามจำนวนดังกล่าว และที่ทำให้เจ้าอาวาสตายใจคือมีการนำสมุดบัญชีธนาคารของทางวัดไปปลอมแปลงตัวเลขทำทีเหมือนกับว่าเงินงบประมาณถูกโอนเข้าบัญชีทางวัดแล้ว กระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา แก๊งมิจฉาชีพทั้ง 2 ได้มารับเจ้าอาวาสที่วัดอ้างว่าจะพาไปรับเงินที่ศาลากลางแต่ต้องจ่ายเงินค่าดำเนินการให้ก่อน
จากนั้นเจ้าอาวาสจึงได้ไปถอนเงินให้กับแก๊งมิจฉาชีพโดยที่ไม่ได้เอะใจอะไร กระทั่งทั้ง 2 ได้เงินที่อ้างว่าจะนำไปเป็นค่าเดินเรื่อง 2.8 แสนบาท ก็หายไป ล่าสุดเจ้าอาวาสลองนำบัตรเอทีเอ็มไปเช็คยอดเงินในบัญชี กลับไม่มีเงินโอนเข้าในบัญชีตามที่ทั้งสองกล่าวอ้างจริงจึงรู้ว่าถูกหลอก จึงได้นำหลักฐานภาพทะเบียนรถที่ทางวัดถ่ายไว้และภาพจากกล้องวงจรปิดของทางธนาคารขณะ 1 ใน 2 คนร้ายไปด้วยขณะเบิกเงินที่ธนาคารเป็นหลักฐานเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีและนำเงินมาคืนทางวัด พร้อมทั้งร้องศูนย์ดำรงธรรมให้ช่วยเหลือด้วย
เจ้าอาวาสวัดดังกล่าวยังได้แจ้งเตือนวัดอื่นที่อาจจะตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพควรใช้ความรอบคอบให้มากกว่านี้ส่วนที่อาตมาถูกหลอกในครั้งนี้ก็ยอมรับว่าเป็นความประมาทและถือใจซื่อว่าหากรัฐมีงบประมาณมาให้ก่อสร้างก็น่าจะเป็นการดีเพราะจะได้ไม่ต้องรบกวนญาติบริจาคปัจจัยเพื่อร่วมก่อสร้างอุโบสถแต่ไม่คาดคิดว่าจะถูกคนใจบาปหลอกได้กระทั่งพระสงฆ์