svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

บันทึกลับทุ่งใหญ่ (2)

19 กุมภาพันธ์ 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"กองอุจจาระ ยังใหม่ กลิ่นมันรุนแรงแทบไม่มีใครอยากเข้าใกล้ แต่มันก็เป็นหลักฐานชั้นดีเยี่ยม มันจะเผยให้เห็นดีเอ็นเอ คนๆ หนึ่ง ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ไม่รู้ไม่เห็นการยิงเสือดำ"


ผมลงมือเขียนบันทึกลับทุ่งใหญ่ เริ่มจากวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่เปรมชัย กรรณสูต และพวกแอบอ้างเป็น "แขกของนาย" เข้าพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก โดยไม่ได้รับอนุญาต กระทั่ง หัวหน้าวิเชียร ชิณวงษ์ จับเปรมชัย กรรณสูต กับพวกที่ลักลอบเข้าไปล่าสัตว์ เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ (ความเดิม "บันทึกลับทุ่งใหญ่(1)")

ผมตั้งใจจะให้บันทึกนี้ บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น บริเวณริมห้วยปะชิ จุดเกิดเหตุอยู่ก่อนถึงหน่วยมหาราช จุดสุดท้ายของเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ระยะทาง 30 กม. จาก"ทินวย-ทิคอง-มหาราช"

นี่จึงเป็นบันทึกจาก "คนข่าว" ที่เข้าไปยังจุดเกิดเหตุ บริเวณห้วยปะชิ ถึง 3 ครั้ง 3 ครา ผมมั่นใจว่า เป็นหนึ่งในจำนวนไม่กี่คนที่เข้าไปยังลำห้วยปะชิ ถึง 3 หน ใน 2 สัปดาห์ และภายในระยะ 1 ตารางกิโลเมตร ผมเดินย่ำเท้าเข้าไป หลายต่อหลายจุด ซึ่งมีความสำคัญ จะได้เล่าในลำดับถัดไป และจำเป็นต้องอ้างถึง "แหล่งข่าว" ที่เชื่อถือได้ว่า "ข้อมูล" นั้นคอนเฟิร์ม 80-90%

บันทึกลับทุ่งใหญ่ (2)



มาเริ่มบันทึกลับทุ่งใหญ่ ตอนที่ 2 กันเลย

เพื่อให้รู้ว่า "เปรมชัย" ใช้เส้นทางไหนขึ้นไปที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก "แหล่งข่าว" ต้องเช็คเส้นทางจากกล้องวงจรปิดหลายร้อยตัว และจากข้อมูลที่เช็กได้ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ เปรมชัย ใช้รถโตโยต้า แลนด์ครุยส์เซอร์ สีน้ำตาลอ่อน ทะเบียน 7กค2192กทม. เดินทางออกจากจ.กาญจนบุรี ใช้ ทล.323. ผ่านอนามัยท่ามะนาว - ตู้ยามช่องสะเดา - เลี้ยวซ้าย ไปรับนายธานี ทุมมาศ - ย้อนกลับมาที่ตู้ยามช่องสะเดา - เลี้ยวซ้ายไปทาง ทล.323 - เลี้ยวขวาเข้าน้ำตกเอราวัณ ใช้ ทล.3457 - ไปเส้นทางริมเขื่อนท่าทุ่งนา ทล.3199 - ผ่านแถวน้ำตกเอราวัณ -น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น-เลี้ยวซ้ายไป ทล 6092- ขึ้นไปทุ่งใหญ่ฯ

ทั้งนี้ กล้องวงจรปิดจุดแรก จับภาพรถเปรมชัย ที่รพ.ส่งเสริมสุขภาพท่ามะนาว ใกล้บ้านนายธานี กำลังมุ่งหน้าไปแยกสะเดา เวลา 09.47.55

กล้องจุดที่สองที่หน้าตู้ยาม(ตำรวจ)ช่องสะเดา ตรงสามแยกช่องสะเดา (รถเลี้ยวซ้าย)มุ่งหน้าไป อ.ทองผาภูมิ) เวลา 10.04.16

คณะของ "เปรมชัย" มาถึงสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก ในเวลา 15.00 น.โดยประมาณ

บันทึกลับทุ่งใหญ่ (2)



ณ จุดตรวจบริเวณสำนักงานเขตฯ บันทึกการเข้าออก ได้มีการนำไปตรวจสอบการเข้า และออก ของบุคคลอื่น ในช่วงวันที่ 3 6 ก.พ.2561 "แหล่งข่าว" บอกว่า พบพิรุธ การเข้าออกของบุคคลอื่นซึ่งทั้งหมดนี้ ได้เรียกบุคคลที่เข้าเวรระหว่างวันที่ 3-6 มาสอบสวนแล้ว ทั้งที่ส่วนกลาง และที่สภ.ทองผาภูมิ

จากข้อมูลที่ผมได้รับการยืนยัน มาแล้วว่า ในช่วงวันที่ 3 ก.พ. มีรถยนต์อีก 2 คัน ที่ลงไว้ในบันทึกการผ่านเข้าออก รถทั้ง 2 คันนั้นเป็นคนในพื้นที่ "แหล่งข่าว" สอบปากคำแล้ว เชื่อว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกันกับ เปรมชัย ส่วนรถ เปรมชัย ไม่ได้ลงบันทึกเข้า ออก

แสดงว่า เปรมชัย มีเจตนาเข้าไปโดยไม่ให้ทิ้งร่องรอยใดๆ เอาไว้

ทว่า ในวันที่ผมเดินทางไปที่ห้วยปะชิ หนแรกวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ปรากฎว่า ในวันนั้น ทำให้ทราบจุดตั้งแคมป์ ของเปรมชัย จุดชำแหละเสือดำ และหลักฐานหลายอย่าง และยังพบกองอุจจาระคน และทิชชูที่ใช้แล้ว อยู่ริมถนน จุดตัดผ่านลำห้วยปะชิ

กองอุจจาระ มันอยู่ (พฐ./จุดที่ 6) ริมถนน ตัดกับลำห้วยปะชิ ที่แห้งเหือด อยู่ทางทิศตะวันตก ของจุดที่พบปลอกกระสุน เบอร์ 20 เพียง 1.5 เมตร (พฐ./จุดที่1) อยู่ทางทิศใต้ ห่างจากจุดที่พบซากเครื่องในเสือดำ (พฐ.จุดที่ 2) ขน(พฐ.จุดที่ 3) เกลือ (พฐ.จุดที่ 4) และเลือด (พฐ.จุดที่ 5) เพียง 13 เมตร

นับเป็นโชคดี ที่กองอุจจาระ ยังใหม่ กลิ่นมันรุนแรงแทบไม่มีใครอยากเข้าใกล้ "คนๆ นี้ถ่ายทุกข์ ออกมาในวันเดียวกันกับที่ยิงเสือดำ และกำลังชำแหละเนื้อ เถือหนังเสือดำ ในลำห้วยแห้ง" และมันก็เป็นหลักฐานชั้นดีเยี่ยม มันจะเผยให้เห็นดีเอ็นเอ คนๆ หนึ่ง ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ไม่รู้ไม่เห็นการ "ยิงเสือดำ "

ผลตรวจพิสูจน์หลักฐานนี้ จึงสำคัญมาก สำหรับเจ้าหน้าที่เพื่อใช้มัดผู้เป็นเจ้าของกองอุจจาระ และร่วมทำผิดในข้อหา "ร่วมกันฆ่าเสือดำทุ่งใหญ่นเรศวร"

logoline