ฟุตบอลยูโรปา ลีก กลุ่ม อี แมนฯ ยูไนเต็ด บุกไปเยือนทีมบ๊วยของกลุ่ม โอโมเนีย นิโคเซีย จากไซปรัส
เริ่มเกมมา นาที 34 จากจังหวะโต้กลัที่ บรูโน่ เฟลีเป้ ไหลบอลให้ คาริม อันซาริฟาร์ด แตะซ้ายยิงขวาหนีมือ ดาบิด เด เคอา เสยตาข่ายอย่างเด็ดขาด
ครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องถอน เจดอน ซานโช่ ออกแล้วส่ง มาร์คัส แรชฟอร์ด ลงสนาม แล้วได้ผล
นาที 53 แรชฟอร์ด กลายเป็นซูเปอร์ซับของทีมได้เมื่อรับบอลยาวจากเพื่อนร่วมทีมก่อนพลิกหนีตัวประกบแล้วยิงจากหน้าเขตโทษเข้าไปอย่างเด็ดขาด แมนฯ ยูไนเต็ด ตามตีเสมอ 1-1
แมนฯ ยูไนเต็ด ปรับเกมรุกอีกครั้งในนาที 60 ส่ง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ลงมาแทน บรูโน่ แฟร์นันด์ส และเพียง 3 นาทีในสนาม มาร์กซิยาล ก็แผลงฤทธิ์ในฐานะสำรองเช่นกันในจังหวะที่ แรชฟอร์ด ไขว้บอลมาให้ก่อนจับแล้วยิงด้วยขวาหน้าเขตโทษ บอลพุ่งเบียดเสาเข้าไปเด็ดขาด แมนฯ ยูไนเต็ด จึงนำ 2-1
นาที 84 โรนัลโด้ ได้ยิงในเขตโทษฝั่งซ้าย บอลพุ่งไม่เข้ากรอบ แต่กลายเป็นเข้าทาง แรชฟอร์ด ได้แปง่ายๆ เข้าไป เป็นประตูที่สองของแรชฟอร์ดในเกมนี้และทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด นำเพิ่ม 3-1 แต่ดีใจได้แปปเดียว เจ้าถิ่นไล่มาเป็น 3-2 จาก นิโคลัส พานาจิโอตู ยิงด้วยซ้ายเข้าไป
จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บชัยชนะเหนือ โอโมเนีย แบบหืดจับ 3-2 มีเพิ่มเป็น 6 คะแนนจาก 3 นัด ตามหลัง เรอัล โซเซียดาด ที่มี 9 คะแนนจากการชนะรวด 3 นัด